GReeeeN คือ??

บทเพลงของหมอพันอารมณ์ดี ดนตรี Feel Good!

10ปีผ่านไป..มาทำความรู้จัก GReeeeN กันใหม่นะ


ปีนี้ (2016) ครบรอบ 10 ปีที่วงหมอฟันของเราเดบิวน์มาแล้ว
จากหนุ่มๆ กลายเป็นลุงๆที่ยังคงไม่เปิดเผยหน้าตาเหมือนเดิม
ไม่น่าเชื่อว่าวงบ้าๆแบบนี้จะคงอยู่มาได้จนถึงสิบปี

ฮูเร่ๆๆ

กลับไปอ่าน post ที่เคยเขียนแนะนำเกี่ยวกับกรีน เมื่อตอนแรกๆ แล้วรู้สึกว่า..
อืม...เราควรจะอัพเดทข้อมูลซะบ้างนะ
เพราะที่เขียนไว้ตอนนั้น มันก็อ้างอิงข้อมูล ณ ตอนนั้น (ที่หมอปิดบังตัวเองซะเหลือเกิน)
ข้อมูลมันก็มีผิดบ้างอะไรบ้าง  ฟังข่าวลือๆกันมาแล้วก็เอามาเขียน

พอช่วงหลังๆนี่หมอเริ่มเปิดตัว เปิดเผยเรื่องราวของตัวเองมากขึ้น
 (มีทั้งหนังสือและก็หนัง แล้วยังจัดกรีนเรดิโออยู่ทุกเดือนอีก  คิดดูเถอะ)
ทำให้มีเรื่องราวมากมายที่สมควรในการเล่าขาน และแก้ไข

เลยเป็นที่มาของเรื่องนี้

บทความนี้เหมาะสำหรับ...

คนที่ไม่เคยรู้จักกรีนเลย
คนที่เพิ่งมาติดตามได้ไม่นาน
คนที่ติดตามมาซักพักแล้ว
คนที่เป็นแฟนอย่างเหนียวแน่น

ผู้หญิง ผู้ชาย ลูกเด็กเล็กแดง ลุงป้าน้าอาผู้แก่ผู้เฒ่า เรียกได้ว่าทุกเพศทุกวัยทุกการศึกษา
คือ..ขอแค่อ่านภาษาไทยออกก็พอนะ :)

ข้อมูลที่เขียนมานี้ จะมีบางส่วนที่เอามาจากหนังสือ Sorette Kiseki (จัดพิมพ์เมื่อปี 2016)
เป็นหนังสือนิยายที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของกรีน ตั้งแต่ก่อนเดบิว มาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้นข้อมูลจึง(คิดว่า)ค่อนข้างเชื่อถือได้นะคะ (จะเชื่อถือไม่ได้ก็ตรงภาษาญี่ปุ่นที่ไม่แตกฉานของเราที่อาจจะทำให้แปลผิดๆถูกๆนี่แหละ T_T  )

จริงๆเราก็ทยอยแปลหนังสือนี้ลงบล็อกอยู่ ไปอ่านกันได้ (งานขายตรงเราต้องมาค่ะ 55) คนที่ไม่อยากจะโดนสปอยในหนังสือ ก็อ่านข้ามๆตรงที่เราเขียนว่าสปอยเอาไว้นะคะ

ปล. ส่วนนึงของหนังสือเล่มนี้จะถูกนำมาทำเป็นหนัง ชื่อ "Kiseki Anohi no Sobito" เข้าฉาย 28 มกราคม 2017 ด้วยนะจ๊ะ  สปอยในหนังสือก็เท่ากับสปอยน์ในหนังด้วยแหละ ไม่อยากรู้ก็ข้ามๆไปนะ เราเตือนคุณแล้ว

เอ้า!! เริ่ม!!!  มาทำความรู้จักกรีนกันใหม่ดีกว่า
บทความแสนยาวแบบมหากาพย์ครั้งนี้ เราขอแยกเป็น 5 เรื่องย่อยๆ
ถ้าคุณทนอ่านหมดได้ ก็จะเข้าใกล้ดินแดนของแฟนพันธ์แท้เข้าไปอีกหนึ่งก้าว 555

ปล. (วันนี้แค่เขียนบทแรกก็สิ้นเปลืองพลังงานมากมาย..เง้อ)

1. GReeeeN คือ?
2. ความหมายของสิ่งต่างๆที่ซ่อนไว้ในวง GReeeeN  -- อัพแล้วค่ะ กดอ่านได้เลย
3. ข้อมูลสมาชิกแต่ละคน -- อัพแล้วค่ะ กดอ่านได้เลย
4. GReeeeN กับข่าวลือ, ดราม่า, และ anti fan  (ยังไม่ได้เขียน)

1. GReeeeN คือ?

วงนักร้องชาย 4 คนจากแดนปลาดิบ (แน่นอนว่าญี่ปุ่น) ที่มีนโยบายไม่เปิดเผยหน้าตาและตัวตนที่แท้จริงต่อสาธารณะชน (ปัจจุบัน2016นี้ก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร..) สมาชิกทั้ง 4 ใช้ชื่อปลอมๆว่า

HIDE  ร้องเสียงสูง เป็นหัวหน้าวงด้วย
Navi, - ร้องเสียงสูง, สามารถขึ้นเสียงได้สูงที่สุดในวง บางทีก็เสียงคล้ายฮิเดะจนแยกลำบาก
92 (อ่านว่า kuni) -  ร้องเสียงต่ำ
SOH  - ร้องเสียงต่ำมากที่สุดในวง

ถ้าเรียงตามเสียง จากสูงไปต่ำ ก็จะเป็น Navi > HIDE > 92 > SOH

โปรดิวเซอร์ของวง GReeeeN ชื่อว่า JIN  เป็นพี่ชายแท้ๆของหัวหน้าวง (HIDE) , ด้วยอายุที่ห่างกันกับสมาชิกวงไม่มาก (แค่3ปี) ทำให้มีความรู้สึกเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลน้องๆสมาชิกมากกว่าจะเป็นโปรดิวเซอร์ (เวลาตอบทวิตเตอร์แฟนๆก็มีอีโมชั่นน่ารักๆมาหยอดอยู่เรื่อย น่ารักที่สุด)

//สปอยเนื้อหาในหนังสือ
ถึงแม้จะเป็นพี่น้องที่โตมาด้วยกัน แต่ JIN กับ HIDE ก็ใช้ชีวิตต่างกันแบบสุดขั้ว 
JIN ที่เป็นพี่ชายคนโตถูกกดดันและคาดหวังจากคุณพ่อ(ที่เป็นหมอ) ว่าจะต้องตั้งใจเรียนเพื่อโตไปเป็นหมอเช่นกัน  สุดท้ายแล้ว JIN พบว่าจริงๆแล้วตัวเองอยากเป็นนักดนตรีมากกว่า  ทั้งทำตัวต่อต้านพ่อ โดนพ่อไล่ออกจากบ้าน ไปทำงานพิเศษ ชีวิตดราม่ามากมาย  ในขณะที่ HIDE เป็นน้องคนสุดท้อง ดูเหมือนจะได้รับความเอ็นดูจากพ่ออยู่พอสมควร ในช่วงมัธยม HIDE ได้ไปใช้ชีวิตคนเดียวในจ.โคจิ เพราะสอบติดโรงเรียนเอกชนที่นั่น.. เลยค่อนข้างมีอิสระที่จะเล่นดนตรีตามใจตัวเอง ไม่โดนกดดันเรื่องเรียนหนังสือเท่าไหร่  ทำให้นิสัยของทั้งสองคนดูภายนอกแล้วต่างกันมากมาย  แต่สิ่งหนึ่งที่มีเหมือนๆกันก็คือ "ความอ่อนโยน"  ที่ HIDE จะแสดงมันออกมากับทุกคนแบบตรงๆ ส่วน JIN จะเก็บซ่อนเอาไว้สำหรับใครบางคนเท่านั้น 
**เรื่องราวของสองพี่น้องในหนังสือนี้แปลแล้วนะคะ ไปตามอ่านกันได้ (งานขายตรงมาอีกแล้วว)

ในเมื่อไม่มีการเปิดเผยหน้าตา ไม่มีการออกรายการทีวี ไม่มีสัมภาษณ์ ไม่ลงนิตยสาร  ดังนั้นจุดขายอย่างเดียวของวงกรีนก็คือ "เพลง" อย่างเดียวเท่านั้น (คือ..เอากันตรงๆ ..หน้าปกซีดีก็เห่ย  ชื่ออัลบั้มก็ไม่น่าสนใจ  โฆษณาก็แนวเกินไป เรียกได้ว่านอกจากเพลงและ PV แล้วอย่างอื่นนี่ไม่มีอะไรดีเลยจริงๆนะ... )




เพลงของกรีนนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่มีเนื้อหาดีมากๆ (โลกสวยว่างั้นเถอะ) มักจะเป็นเพลงให้กำลังใจ ให้ทำตามฝัน ก้าวไปข้างหน้า หรือไม่ก็เป็นเพลงที่พูดถึงความรัก ความสัมพันธ์ระหว่าง เพื่อน พ่อแม่ แฟน  หรือไม่ก็เพลงที่ฟังแล้วรู้สึกสนุกสนานจนอยากจะยิ้มเลยทีเดียว  PV (Promotino Video) ที่ทำออกมาแต่ละอัน  แม้จะไม่มีนักร้องอยู่ใน PV เลยซักครั้ง  แต่ก็เป็น PV ที่มีเรื่องราวน่าสนใจเกือบทุกครั้ง

เอกลักษณ์ของวง GReeeeN ก็คือ 
เสียงร้องสูงต่ำที่ประสานกันทั้ง 4 คน
เนื้อเพลงที่ใช้คำพูดง่ายๆธรรมดาๆแบบที่พบได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป แต่งออกมาเป็นจังหวะที่คล้องจองกัน ทำให้ฟังแล้วติดหูและเข้าถึงจิตใจคนได้อย่างดี
นอกจากนี้ยังดนตรี เมโลดี้ที่มีจังหวะชัดเจน
เป็นการผสมผสานระหว่าง J-POP และฮิปฮอป
ทุกอย่างนี้ทำให้เพลงของกรีนโดดเด่น ไม่เหมือนใคร เรียกได้ว่าถึงจะไม่เคยฟังมาก่อน  แค่ได้ยินเสียงเพลงนั้นก็รู้แล้วว่า นี่เป็นเพลงวงกรีนแน่ๆ

ปี2006 คือช่วงที่กรีนได้เดบิวน์

ในตอนที่เดบิวนั้นทั้งสี่คนยังเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ ชั้นปี 5 อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองโคริยาม่า จังหวัดฟุคุชิม่า

พวกเขาคือคนที่เรียนมาอย่างหนักเพื่อจะเป็น "หมอฟัน"
(ตอนนี้เป็นหมอเต็มตัวแล้วจ้า)

ก็คือถ้าเปิดเผยหน้าตาอาจจะกระทบกับการทำงานในอนาคตได้ (แหม .. หมอเป็นนักร้อง ใครๆก็คงอยากจะไปรักษาด้วยละนะ) ในตอนเดบิว ฮิเดะที่เป็นหัวหน้าวงก็เลยยื่นข้อเสนอกับค่ายเพลงว่า

"จะไม่ขอเปิดเผยหน้าตานะครับ....."

ก่อนหน้าที่จะเดบิวน์, GReeeeN เป็นนักร้องอินดี้ที่ขึ้นไลฟ์เฮาส์อยู่แถวๆมหาลัยในจังหวัดฟุคุชิม่า  มีค่ายเพลงทั้งเล็กและใหญ่มากกว่า 10 ค่าย ที่สนใจติดต่อพวกเขาไปเดบิวน์ แต่ด้วยเงื่อนไขที่กรีนเสนอมา มันยากที่จะยอมรับได้

นักร้องที่ไม่เปิดเผยหน้าตาจะขายออกได้ยังไง

ออกรายการทีวีก็ไม่ได้  คอนเสิร์ตก็ไม่ได้ ถ่ายรูปลงนิตยสารก็ไม่ได้  จะต้องอัดเม็ดเงินซักเท่าไหร่ถึงจะขุนให้ไอ่นักร้องโนเนมแบบนี้มันดังได้!!

มีเพียงตัวแทนจาก Universal Music Japan เท่านั้น ที่ยอมรับเงื่อนไขนี้ เมื่อได้ฟังเพลง Michi ที่พวก GReeeeN แต่งขึ้นมา

"เพลงดีๆแบบนี้แหละที่วงการเพลงญี่ปุ่นยังขาดไป..  ไม่ว่ายังไงก็อยากให้ทั่วประเทศได้ฟังเพลงนี้นะ."
"แค่ให้ทุกคนได้ลองฟังเพลงของพวกเขา  รับรองว่าขายได้แน่ๆ"
เป็นคำพูดของคนที่เป็นตัวแทนจาก Universal Music Japan ณ ตอนนั้น

หลังจากที่คุยงานกันแล้ว .. ผลก็คือ.. GReeeeN ก็ได้เดบิวน์ออกมาในรูปแบบของเงาแบบนี้...
และเนื่องจากเป็นวงหมอฟันที่มีเพลงฟีลกู้ดโลกสวยอยู่มากมาย... ก็เลยได้มีโลโก้เป็นฟันยิ้มแบบนี้..

บ่งบอกว่า..
"ฟังเพลงเราสิ! แล้วคุณจะยิ้มได้เองแหละ!!"



กรีนเดบิวน์เมื่อปี 2006 ด้วยซิงเกิ้ลแรก " Michi " เป็นเพลงที่แต่งกันเองตั้งแต่เป็นวงอินดี้ใต้ดิน
หลังจากที่เดบิวน์มา ก็ถือว่าเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่คนจับตามองพอสมควร เพราะเพลงที่มีทำนองที่หาได้ยากในท้องตลาด  ฟังแล้วติดหูในทันที  ได้รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในปีนั้นไปครองด้วย

เพลงดี ความหมายดี ไปฟังเพลงเดบิวของคุณหมอกัน..



ปี 2007 

ซิงเกิ้ลที่ 3  "Ai Uta"  ที่ออกมาในปีนี้ดังถล่มทลาย   เป็นเพลงรักที่ใช้คำง่ายๆ มีเนื้อหาตรงไปตรงมา โดนใจผู้คนเป็นจำนวนมาก แบบว่าโคตรดัง โคตรฮิต โคตรจะพีคจริงๆ  ติดอันดับชาร์จต่างๆมากมาย จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังติดอันดับ top10 karaoke ที่คนญี่ปุ่นนิยมร้องด้วยนะคะ



ถึงจะเล่นตัวปิดบังหน้าตา แต่ก็ได้ไปออกรายการทีวีอยู่ครั้งนึงนะคะ (ชื่อรายการ Music Bar ....เป็นรายการที่ฉายเฉพาะแถวฟุคุชิม่าค่ะ ) ...และด้วยความพี่ต้องปิดบังหน้าตา ก็เลยไปออกทีวีสภาพแบบนี้ ...



จากรายการนี้ ฮิเดะเล่าว่า ใน CD เพลง Ai Uta เปิดมาข้างในจะมีซองจดหมายสอดไว้ด้วย  เอาไว้เขียนความในใจ แล้วส่ง CD ให้คนที่ชอบค่ะ ..เป็นการสารภาพรักด้วยบทเพลงค่ะ!!! ซึ้งซะไม่มี!!


//สปอยเนื้อหาในหนังสือ
ด้วยความดังของเพลง Ai Uta ทำให้กรีนถูกทาบทามให้ช่วยแต่งเพลงให้กับละครเรื่อง "Rookies" เป็นละครเกี่ยวกับเบสบอลและมิตรภาพลูกผู้ชาย  สร้างมาจากการ์ตูนชื่อดัง (เรื่องนี้สนุกมาก ทั้งการ์ตูนและหนังทำได้ดีมาก.. แน่นอน..เพลงก็ดีมากเช่นกัน อิอิ)

"อยากได้เพลงรักดีๆแบบ Ai Uta น่ะครับ" นั่นคือโจทย์ที่กรีนได้รับมา

ช่วงที่แต่งเพลงนี้เป็นช่วงที่ยากลำบากมาก เพราะสมาชิกกรีน 3 คน (Hide, Navi, 92) ต้องเตรียมตัวสอบใหญ่เพื่อเป็นทันตแพทย์ (SOH เรียนช้ากว่า 1ปี ก็เลยยังไม่ได้สอบปีนี้)  อีกแค่2สัปดาห์ก็จะสอบแล้ว  และเป็นการสอบทั่วประเทศที่จัดแค่ปีละครั้งด้วย  ถ้าสอบผ่าน ก็จะมีคำนำหน้าว่าเป็นคุณหมอเต็มตัว แต่ถ้าสอบตก ก็ต้องไปเตรียมสอบใหม่ปีหน้าเลยทีเดียว  

เพลงที่ให้แต่ง ก็ต้องแต่งให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์นั้นเช่นกัน

ตอนแรก JIN ที่เป็นโปรดิวเซอร์ลังเลที่จะรับงานนี้ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่างของสมาชิก  แต่โอกาสที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ใช่ว่าจะได้กันมาง่ายๆ และทางทีมงานสร้างละครก็อยากได้เพลงจาก GReeeeN มากๆ

"ชั้นจะไม่พูดหรอกนะว่านายควรจะทำยังไง ...แต่ในเมื่อนายเลือกเส้นทางที่จะเป็นทั้งนักร้องและทันตแพทย์พร้อมๆกันแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบในการเลือกของตัวเองสิวะ" 
จินพูดกับฮิเดะที่คร่ำเคร่งกับการอ่านหนังสือวันละ 20 ชั่วโมงจนไข้ขึ้น

และเพลงที่ฮิเดะเขียนขึ้นด้วยช่วงเวลาที่จำกัดและแสนยากลำบากนั้น ได้ชื่อว่าเพลง "Kiseki" 
มันได้กลายเป็นเพลงฮิตตลอดกาลของวงกรีนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา....

ปี 2008 

ละคร Rookies ที่สร้างจากการ์ตูนเบสบอลชื่อดังในตอนนั้นฉายทางทีวี  เพลง Kiseki, ซิงเกิ้ลลำดับที่ 7 ของกรีนได้ถูกใช้เป็นเพลงประกอบละครเรื่องนี้ด้วย


ด้วยความที่ละครทำได้ดีมาก เนื้อเรื่องดีมาก และเพลงก็ขึ้นมาได้จังหวะดีมากๆ  เนื้อหาของเพลงก็ดีมากๆ  ทำให้เพลงนี้ขึ้นอันดับหนึ่งโอริกอนชาร์จและทุกๆชาร์จในตอนนั้น  ยอดขายซิงเกิ้ลนี้แซงหน้าทุกศิลปินไปเป็นหลายแสนแผ่น

ปี 2008 นี้ นับได้ว่าเป็นปีทองของกรีนอย่างแท้จริง ดังมากจนได้รับเลือกให้ไปออกรายการเพลงขาวแดง (Kouhaku) ที่ฉายในวันสิ้นปี .. แต่กรีนก็ต้องปฏิเสธไปอย่างน่าเสียดายเพราะไม่อาจเปิดเผยหน้าตาได้...

ปี 2009  

ซิงเกิลที่ 9 Tobira (ประตู) และซิงเกิ้ลที่ 10  Ayumi (ก้าวเดิน) ถูกปล่อยมาติดๆกัน
ความหมายของทั้งสองเพลงล้วนสื่อถึงการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆเหมือนกัน
Ayumi เป็นอีกซิงเกิ้ลที่กรีนขายได้มากกว่าแสนแผ่นอีกด้วย ความหมายดีมากๆ



เมื่อกรีนโด่งดังมากขึ้น ก็ทำให้เมืองโคริยาม่าเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปด้วย
หลังจาก single Ayumi ออกมาไม่นาน  ท่านผู้ว่าการเทศบาลเมืองโคริยาม่าก็ได้จัดทำอนุสรณ์ประตูเขียวของ GReeeeN ขึ้นที่ตรงหน้าสถานี JR Koriyama เพื่อเป็นที่ระลึกให้คุณหมอ

ประตูสีเขียวนั้น สื่อถึงเพลง Tobira และที่พื้นก็มีรอยเท้าที่เดินผ่านประตู สื่อถึงเพลง Ayumi พร้อมทั้งมีรอยพิมพ์มือของหมอทั้ง 4 คน และข้อความ+ลายเซ็นของทุกคน ติดไว้อยู่ที่ตรงกำแพงข้างๆอีกด้วย

ในตอนนี้ก็ยังมีอยู่นะคะ ออกจากสถานีมาก็เจอเลย  ไปถ่ายรูปกันได้

ในช่วงปลายปี  กรีนปล่อยซิงเกิ้ล ที่12 เพลง Haruka มาใช้ประกอบภาพยนตร์ Rookies (เป็นเวอร์ชั่นหนังโรง) ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่โด่งดังอีกด้วยเพลงที่มีเนื้อหาซึ้ง  PV ดูแล้วสื่อมาได้ดีมาก


ในขณะที่กำลังดังๆอยู่ดีๆ  กรีนก็ประกาศพักงานยาว....โดยให้ข่าวว่า

"เป็นการพักงานเพื่อเตรียมตัวสอบทันตแพทย์ครับ"

เล่นเอาแฟนตัวเขียวเพลงตั้งตัวกันไม่ทันทีเดียว

//สปอยเนื้อหาในหนังสือ
ที่จริงแล้วปีที่ฮิเดะ คุนิ นาวีสอบกันนั้น  ผลสอบที่ออกมาในปี 2009 ก็คือ Navi สอบตก  มีแค่ Hide กับ 92 ที่สอบผ่าน  การที่วง 4 คนต้องมาเหลือแค่ 2 คน คิดๆกันแล้วมันก็ไม่ใช่ GReeeeN ดังนั้นเลยมีมติกันว่าจะขอพักงานจนกว่าสมาชิกทั้งหมดจะสอบทันตแพทย์ผ่านดีกว่า 

ปี 2009  HIDE กับ 92 ไปทำงานในโรงพยาบาลเดียวกัน  ส่วน Navi กับ SOH ยังอยู่ในโคริยาม่าเพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบในช่วงปลายปี

อนุสรณ์ที่ทางเทศบาลเมืองจัดทำให้นั้น เป็นเพราะว่า ช่วงนั้นเป็นครั้งแรกที่สมาชิกวง GReeeeN จะต้องแยกจากกันไป  ฮิเดะก็บ่นเหงาๆ  ต้องไปแล้ว ..คงจะคิดถึงเมืองนี้แน่ๆ มีความหลังซะมากมาย  อะไรแบบนี้ แล้วจินก็เอาเรื่องนี้ไปคุยกับนายกเทศบาลเมือง (ที่เหมือนว่าจะรู้จักกันอยุ่)  ทางเมืองก็อยากจะตอบแทนคุณงามความดีของ GReeeeN ที่ทำชื่อเสียงมาให้ ก็เลยกลายเป็นประตูสีเขียวอยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟ มีความหมายถึงการเริ่มต้นออกเดินทางครั้งใหม่ (เปิดประตูบานใหม่ๆ)  และเป็นสัญลักษณ์ว่า ไม่ว่ากรีนจะไปอยู่ที่ไหน แต่บ้านเกิดของพวกเขาก็ยังคงอยู่ตรงนี้นั่นเอง

ต้นปี 2010 ประกาศผลสอบ ..ปรากฎว่า Navi สอบผ่าน แต่ SOH สอบตก  เลยต้องรอไปอีกหนึ่งปี  กลายเป็นว่าทั้งวงมีแค่ SOH คนเดียวที่ยังสอบไม่ผ่าน  ช่วงนั้น SOH เครียดและกดดันตัวเองมาก 

ถ้ายังสอบไม่ผ่านไปแบบนี้ก็จะไม่มี GReeeeN อีกต่อไป... 

ในขณะที่เพื่อนๆไปเริ่มทำงานที่โรงพยาบาลกันแล้ว  ตัวเองก็ต้องหมกตัวอ่านหนังสืออยุ่แต่ในห้อง 
สิ่งที่ทำให้ SOH มีกำลังใจในการอ่านหนังสือมากขึ้นก็คือ..เพลงซิงเกิ้ลที่ 11, Setsuna ของ GReeeeN นั่นเอง

และในที่สุด  ปีต่อมา SOH ก็สอบผ่านจนได้.. 


single ที่ 11 : Setsuna

ปี 2011  

หลังจากหายหน้าไปเกือบ 2 ปี พอ SOH สอบผ่านได้เป็นคุณหมอเหมือนเพื่อนๆ  กรีนก็กลับมาออกซิงเกิ้ลใหม่ในปี 2011 ด้วยซิงเกิ้ล " Hana Uta"
แม้ผลจากการพักงาน จะทำให้แฟนๆหายไปเยอะ  แต่เสียงตอบรับนั้นก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี


วันที่ 13 มีนาคม 2011

เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่แถบโทโฮคุ ทั้งปัญหาซึนามิและปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูเลวร้ายไปหมด ในช่วงนั้น สมาชิกของ GReeeeN เองทุกคนก็ยังอยู่ในจ.ฟุคุชิม่าอีกด้วย

ในตอนนั้น  HIDE และ Navi เข้าเวรอยู่ที่โรงพยาบาลประจำเมืองโคริยาม่า พยายามพาคนไข้หนีออกจากตึกที่สั่นไหวอยู่เป็นระยะๆ  หันไปทางไหนก็เจอแต่ความหวาดกลัวและซึมเศร้า ผู้คนหลายคนไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง หลายคนต้องสูญเสียคนสำคัญไปในเหตุการณ์นั้น

มีอะไรที่พอจะทำให้ทุกคนได้บ้างนะ

หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านไป สมาชิกกรีนก็ได้ร่วมแต่งเพลง Green boy และเปิดให้โหลดฟรี ทั้งทำนอง เนื้อร้อง และคำแปลเป็นภาษาต่างๆมากมาย ทั้งเสปน จีน เกาหลี และภาษาไทยด้วย

รูปทั้งหมดที่นำมาทำใน PV ได้มาจากการขอรวบรวบจากแฟนๆนั่นเอง   โดยหวังว่า...เพลงนี้จะพอเป็นกำลังใจให้ผู้คนได้บ้างไม่มากก็น้อย  เพลงนี้ ได้คุณบอย ฟักกลิ้งฮีโร่ ไปร้อง cover เป็นภาษาไทยด้วย  เป็นเพลงที่ดีมากจริงๆ



ในช่วงนั้น HIDE ได้เข้าร่วมเป็นแพทย์อาสาสมัครตรวจพิสูจน์ศพในเขตฟุกุชิม่าอีกด้วย แต่ข่าวเพิ่งจะมีออกมาในมีนาคมปี 2016 เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปีเหตุการณ์สะเทือนใจในครั้งนั้น
(มีซับไทยค่ะ เชิญชม)



ปี 2012, 

มีการจัดคอนเสิร์ตครั้งแรกที่ NHK Hall (<---อ่านรีวิวได้ที่นี่)

คอนเสิร์ตครั้งแรงของวงหมอฟันที่ไม่เคยเปิดเผยตัวเองมาก่อน .. มันจะเป็นคอนเสิร์ตแบบไหนนะ ??
แฟนๆต่างตื่นเต้นดีใจ  บัตรขายหมดเกลี้ยง  ที่นั่งใน NHK Hall ถูกจองจนเต็ม
จะได้เห็นตัวจริงมั้ยนะ?? แม้ว่าตอนจองบัตรมันจะเขียนอยู่ทนโท่ว่า "หมอตัวจริงไม่มาคอนเสิร์ตนะครับ"

แต่เราก็ยังแอบหวังให้มีเซอร์ไพร์อยู่ลึกๆ

พอไปถึงแล้ว... เราก็พบว่ามันเป็นคอนเสิร์ตที่มีแต่เงาดำๆบนเวที 5555
ใช้เทคโนโลยี motion capture ในการเคลื่อนไหว จริงๆก็เป็นคอนเสิร์ตที่เรียกว่าคอนเสิร์ตได้ไม่เต็มปากนัก เพราะสมาชิกตัวจริงมาแต่เสียงโทรศัพท์!! ตัวจริงอยู่โน่นนน ฟุคุชิม่า -*-
ตอนไปครั้งแรกเราก็แอบเฟล ..ไรแว๊..
แต่เสียงเพลง  กิจกรรมในฮอล และ MC ทำได้ดีจนลืมเรื่องแย่ๆไปเหมือนกัน

บรรยากาศในงาน concert ค่ะ  ตอนร้องเพลง Kiseki มีดาวตกที่เหมือนจริงมากๆจนร้องว้าวเลย


เพลงที่ชอบที่สุดในปีนี้
ขอยกให้ Pride เพราะได้ฟังครั้งแรกจากในคอน มันพีคมาก น้ำตาจิไหล.. เพลงนี้ใช้เป็นธีมของการแข่งเบสบอลมัธยมปลายรายการใหญ่ของญี่ปุ่นในปีนี้ด้วยค่ะ

ปี 2013

ต้นปีได้ออกซิงเกิ้ลที่ 21 ชื่อเพลง Sakura Color
ความหมายของเพลงสื่อถึงการเริ่มออกเดินทางตามความฝันครั้งใหม่ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย

เหล่าคุณหมอเอง..ก็ได้เวลาที่ต้องเดินทางจากเมืองนี้ออกไปอีกครั้งเช่นกัน



1 มีนาคม 2013
สมาชิกกรีนประกาศอำลาเมืองโคริยาม่า เพราะสมาชิกแต่ละคนจะต้องแยกจากกันไปตามโรงพยาบาลต่างๆที่ได้เลือกไว้  ฮิเดะและนาวีไปอยู่ที่ฮอคไกโด (สองคนนี่ก็แพคคู่ติดกันตลอด) ส่วน 92 กลับบ้านเกิดที่โอกินาว่า  SOH ยังคงทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลในโคริยาม่าคนเดียว 

ข้อความที่ส่งถึงแฟนเพลงในวันนั้น(ก๊อบมาจาก fan page ของเรานะคะ)


ในฤดูใบไม้ผลินี้ สมาชิกของกรีนทั้งสามคน คือ HIDE, navi, 92 จะย้ายออกไปจากเมืองฟุคุชิม่าแล้วครับ
โดย HIDE และ navi จะไปอยู่ที่ฮอกไกโด  ส่วน 92 จะไปโอกินาว่า (กลับบ้านเกิดว่างั้นเถอะ)

ตั้งแต่ปี 2002 พวกเราได้มาพบกันที่เมืองโคริยามะแห่งนี้ เราช่วยเหลือกันและกัน  ตอนที่เราเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนทันตแพทย์ เราได้ร่วมกันทำงานเพลงสนุกๆมากมาย ในช่วงเวลานั้น.. เราหัวเราะและร้องไห้ ผ่านเรื่องราวต่างๆมาด้วยกัน ทำให้พวกเราเป็นเพื่อนกันจนทุกวันนี้


พวกเราทั้งสี่คนได้นั่งรถไปเที่ยวกันด้วย
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ  เราไปดูต้นทาคิซากุระที่เมืองมิฮารุ** กิ่งก้านที่แตกขยายยิ่งใหญ่ตระการตา  มันดูสุดยอด น่าประทับใจมาก 
ในฤดูหนาว เราไปเล่นสโนวบอร์ดที่ภูเขาบันได (จังหวัดฟุคุชิม่า) ทั้งแข่งขันกันและช่วยเหลือกัน เป็นวิธีที่พวกเราใช้ขัดเกลาฝีมือของกันและกันตลอดมา

ก่อนหน้าที่เราจะได้เดบิว เรามีอัลบั้มแรกที่พวกเราทำกันเอง  และมันก็ได้ไปวางขายอยู่ในร้านซีดีหน้าสถานีโคริยามะด้วยละ
นอกจากนี้ ก็ยังได้ไปร้องเพลงสดๆตรงลานวงกลมกว้างๆหน้าสถานีอีกด้วย

เมืองโคริยามะนี้ ..เป็นเมืองที่ทำให้ฝันของพวกเราเป็นจริง
ทั้งเรื่องที่เราได้เป็นทันตแพทย์ ..และเรื่องร้องเพลง


พวกเรานั้นจากที่ตรงนี้ จะเปิดประตูออกไป และเริ่มวิ่งไล่ตามความฝันของตัวเองอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าเราสามคนจะออกจากเมืองโคริยามะไปแล้ว ในอนาคตที่แตกต่างกันนั้น ถ้าต้องเจอเรื่องเลวร้ายที่ทำให้หยุดเดินไปละก็ เราจะนึกถึงประตูแห่งนี้แน่นอน

ประตูบานนี้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะเปิดอยู่แบบนี้เสมอ  
เป็นสัญลักษณ์ว่าที่นี่นั้นคือบ้านเกิดที่เฝ้าดูแลพวกเราตลอดมา

บ้านเกิดของ GReeeeN นั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ ก็คือเมืองโคริยามะนี้เท่านั้น

จะออกก้าวเดินไปอีกครั้งหนึ่งละนะ
ขอบคุณมาก...เมืองโคริยามะ
ขอบคุณมาก...จังหวัดฟุคุชิม่า


//สปอยเนื้อหาในหนังสือ
การแยกทางกันในครั้งนี้เริ่มต้นมาจากคุนิซังเป็นคนเปิดประเด็นว่าอยากจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิด เนื่องจากคุณพ่อเพิ่งจะเสียชีวิตไปเพราะว่าทำงานหนัก (คุณพ่อและคุณแม่ของคุนิซังเป็นหมอทั้งคู่) คุณพ่อจากไปโดยที่คุนิซังไม่มีโอกาสได้ไปดูแลเลย ขนาดตอนที่พ่อป่วยก็ไม่มีใครบอก  กว่าจะรู้อีกทีก็คือสายเกินไปแล้ว   ตอนนี้เหลือแม่เพียงคนเดียว  คุนิซังก็เลยอยากกลับไปทำงานที่โอกินาว่า จะได้ดูแลแม่ได้ด้วย ((น่ารักอะไรอย่างนี้)) พอคุนิซังเปิดประเด็นมา ฮิเดะก็เลยบอกมาเหมือนกันว่าอยากไปอยู่ที่ฮอคไกโด ก็เลยสรุปว่าต่างคนต่างก็ไปคนละทางกันแบบนี้แล..

ในตอนนั้น....ประตูสีเขียวที่อยู่หน้าสถานีโคริยาม่า ก็ถูกทาเปลี่ยนเป็นสีชมพู ซึ่งเป็นสีของซากุระ 
เป็นสัญลักษณ์ในการเริ่มต้นใหม่ของคุณหมอ
(กลายเป็นหน้าตาเหมือนประตูของโดเรมอนไปเลย)



ก็แค่ห่างกันไป .. ไม่ใช่ว่าจะยุบวงนะคะ

หลังจากนั้น ในช่วงกลางปี  กรีนก็เปิดช่องทางให้แฟนๆได้รู้จักตัวตนของสมาชิกแต่ละคนมากขึ้นโดยการเปิดเกมส์ออนไลน์ GReeeeN Land ซึ่งเป็นเกมส์ที่เราจะได้สร้าง character ของตัวเองเข้าไปในโลกเสมือนจริง ไปคุยกับแฟนๆกรีนคนอื่นๆได้

และวันดีคืนดีก็จะอาจจะได้เจอ member วงกรีนเข้ามาเดินเล่นพบปะพูดคุยด้วย  อารมณ์เหมือนเดินๆอยู่ในเมืองแล้วเห็นดาราเลยค่ะ

งานนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดคาร์แรคเตอร์ของสมาชิกแต่ละคนขึ้นมา  แทนที่จะเป็นเงาดำๆเหมือนเมื่อก่อน
คาร์แรคเตอร์ในเกมส์ของเราเอง .. ส่วนด้านหลังคือคาร์แรคเตอร์ของ 92 -- HIDE -- NAVI --- SOH

หากสมัครสมาชิกแบบเสียเงินรายปี บัตรหน้าตาแบบนี้จะถูกส่งไปที่บ้านสมาชิกทุกคน
รูปด้านบนเรียงจากซ้ายไปขวา   92 -- HIDE --- NAVI --- SOH
ในฤดูร้อนปีนี้  หลังจากที่คอนเสิร์ตครั้งแรกประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆมากมาย ปีนี้กรีนเลยเล่นใหญ่  จัดเป็นทัวร์ทั่วประเทศ ที่ Zipp Hall ซะเลย(เป็น hall ที่เล็กกว่า NHK มากนัก แต่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ)

พร้อมทั้งตั้งโปรเจค GReeeeN OTP (Omoi Todoke Project) ก็คือ "การส่งผ่านความรู้สึกจากแฟนๆทั่วประเทศ ไปยังสมาชิกวงกรีน"  โดยคู่หุฟูจิซัง (กับอีกคนนึง ..จำชื่อไม่ได้ T_T) จะขับรถหน้าตาแบบด้านล่างนี้  ตระเวนไปทั่วประเทศ  ตั้งแต่ฮอคไกโด ยาวไปจนถึงคิวชู  แฟนๆสามารถติดตามได้จาก facebook + twitter ว่าวันนี้พี่แกจะร่อนไปที่ไหน จะไปตั้งรถตรงไหน  แล้วก็ไปพูดคุย มอบของที่ระลึกให้กรีนได้  ซึ่งทั้งสองหนุ่มจะรวบรวมและส่งไปถึงมือสมาชิกให้เอง

(จริงๆ คุ้นว่าปี2013นั้นเป็นรถสีเขียว..แต่หารูปไม่เจอค่ะ เอารูปนี้ไปก่อน อันนี้เป็นของปี 2015) 
และในวันที่มีคอนเสิร์ตแต่ละจังหวัด เจ้ารถหน้าตาแบบนี้ก็จะไปจอดรอที่งานคอนเสิร์ต พร้อมสร้างความบันเทิงให้กับแฟนๆอีกด้วย
หลังจบคอนเสิร์ตทุกจังหวัด  ของที่ระลึกต่างๆที่แฟนมอบให้มา  ได้ถูกส่งต่อให้ถึง HIDE หัวหน้าวงเรียบร้อย มีการถ่ายวีดีโอลับในช่วงนั้นให้ดูสำหรับคนที่ซื้อ CD เท่านั้น (จำไม่ได้ละว่าซิงเกิ้ลไหน) โดยต้องไปโหลด app douga มา  แล้วก็ scan QR code ที่อยู่ใน CD ก็จะได้ดูวีดีโอที่ฮิเดะรับกล่องของขวัญและนั่งดูรูปต่างๆที่แฟนๆส่งมาให้ แฟนๆก็ฟินกันไป~~

GReeeeN x LINE collaboration!

ไม่พูดถึงเพลงนี้คงไม่ได้ เป็นเพลงที่ดังที่สุดในปีนี้ของกรีนเลย ใช้ประกอบการ์ตูนที่สร้างมาจาก sticker LINE ที่ทุกคนรู้จักกันดี มีวีดีโอสอนท่าเต้นให้ด้วย ได้ฟังเพลงครั้งแรกตอนการ์ตูนเริ่มฉาย  ก็คิดอยู่ว่า เฮ้ย เพลงแบบนี้ GReeeeN เป็นคนร้องแน่ๆเลย  แล้วก็ใช่จริงๆด้วย (บอกแล้วว่ามันมีเอกลักษณ์มาก)

เราว่า GReeeeN เป็นพวกที่แต่งเพลงตามโจทย์ที่ให้มาได้ดีมาก ไม่แปลกที่จะมีคนโน้นคนนี้มาขอให้แต่งเพลงให้หน่อย อย่าง AIUEO ongaku อันนี้ เป็นของ LINE ก็จะพูดถึงการเอาตัวหนังสือมารวมกันเพื่อสื่อความรู้สึกให้อีกฝ่ายเข้าใจ เข้ากับ application LINE ได้เป็นอย่างดี

มีคนใจดีแปลเพลงเป็นไทยให้แล้ว อันนี้เราไม่ได้แปลนะ ไปฟังกันค่ะ



ในปลายปีนี้  HIDE ได้มีโอกาสกลับไปที่จ.โคจิ ที่ตัวเองเคยใช้ชีวิตอยู่คนเดียวช่วงมัธยม  ได้เจอเพื่อนๆและครู คนเก่าๆแถวนั้น  และได้มีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นผู้นำกลุ่มเต้น โยสะโค่ย  ที่เป็นการเต้นชื่อดังประจำจังหวัดโคจิ

ในโอกาสนี้  HIDE ได้แต่งเพลงพิเศษให้เพื่อใช้ในงานเต้นนี้โดยเฉพาะ  โดยเป็นเพลงที่แต่งแบบไม่หวังผลกำไร  ไม่มีให้download ไม่ออกวางขาย (อยากได้ก็ทำใจนะคะ) เพลงนี้ชื่อ Konochi e ซึ่งคำว่า Konochi แปลว่า "แผ่นดินนี้" เวลาออกเสียงเร็วๆแล้วก็จะพ้องกับคำว่า Kochi ที่เป็นชื่อจังหวัดนี้นี่เอง


เพลงที่ชอบที่สุดในปีนี้...

ต้องเพลงนี้เลย Ryoshi e no Tegami
เป็นเพลงที่ฮิเดะแต่งขึ้นมาเพราะว่าในงานแต่งงานของตัวเอง ... อยากจะหาเพลงที่พูดถึงการขอบคุณพ่อแม่ที่ได้เลี้ยงดูมา แต่หาเพลงที่ถูกใจไม่ได้เลย   เป็นที่มาของเพลงนี้ค่ะ  รูปในนี้ได้ศิลปิน Pon mash มาวาดให้ มีทำเป็นรวมเล่ม Ryoshin e no Tegami ด้วยนะคะ



ปี 2014

ปีนี้เริ่มต้นปีด้วยโปรเจคพิเศษ ให้แฟนเพลงมาแต่งตัวเขียวแล้วร่วมถ่าย PV ด้วยกันในเพลง Aisubeki Isshunwo issho wo


นอกจากนี้ยังเปิดให้โหลด GReeeeN application บนมือถือ ที่จะสามารถติดตามข่าวสารต่างๆของกรีนได้โดยตรงด้วย มีห้อง chat room ไว้คุยกับแฟนๆคนอื่น  มีมุม GreeeN radio (แต่ต้องเสียเงินเข้าไปฟังนะคะ) ที่คุณหมอจะมาคุยเรื่อยเปื่อยไร้สาระให้ฟังเดือนละครั้ง
(หลังๆนี่เริ่มหมดมุกจะคุย เลยให้แฟนๆเขียนมาว่าอยากรู้อะไรถามหมอได้นะคะ) กลายเป็นมุมตอบคำถามเพี้ยนๆไปแล้ว~~

GReeeeN application มีให้โหลดทั้ง iphone + andriod นะคะ ไปหาโหลดกันได้

และในหน้าร้อนก็มีคอนทัวร์ทั่วประเทศ พร้อม Project OTP เช่นเดียวกันกับปีที่แล้ว (จัดมันทุกปีเลย  ท่าทางจะกระแสตอบรับดีแฮะ)  แต่มีเพิ่มเติมก็คือ มีสอนเต้นด้วยคร่า...โดยเพลงที่ใช้เต้นก็คือ เพลงดังของปีนี้ aiue ongaku นั่นเอง ให้แฟนๆไปรวมกลุ่มเต้นกันตามที่ต่างๆ แล้วส่งคลิปมาค่ะ ตัวอย่างคือแบบเน้  ในงานคอนก็จะมีเต้นกันอีกด้วย



มีการเปิดตัวตุ๊กตาคุณหมอในงานคอนเสิร์ตอีกตะหาก
คนใส่ก็จะทำตามคาแรกเตอร์ของคนๆนั้นเลย
(ฮิเดะ -เกรียน, นาวี-ขี้อาย, คุนิ-เท่ๆ, โซ-ขี้เล่น สดใส)... น่ารักมาก


ปลายปีมีการเปิดรับสมัครออดิชั่นวงน้องสาว (แต่ดูจากอายุแล้วน่าจะเป็นลูกสาวมากกว่านะคะ)  ผ่านทาง application LINE โดยให้ร้องเพลง Ai Uta สดๆ แล้วถ่ายคลิปส่งทาง LINE

งานนี้เห็นบอกว่ามีผู้เข้าสมัครเป็นหมื่นคนเลยนะคะตัวเอง ...

เพลงที่ชอบที่สุดในปีนี้ ... 
มี 2เพลง
คือเพลง Niji ที่กรีนแต่งให้วง AAA แล้วเอามาร้อง cover ใหม่


กับเพลง CREW ที่ใช้ในแคมเปญของเครื่องดื่ม Pocari Sweat

ปี 2015

ก้าวสู่ปีที่ 9 ของวงหมอฟัน
มีการประกาศชื่อวงลูกสาวอย่างเป็นทางการ  นั่นก็คือ WhiteeeeN
เป็นวงสาวๆวัยทีน 4 คน ที่ปิดบังหน้าตาเช่นกัน

เพลงเดบิวน์ของสาวๆ เป็นการ cover เพลง Ai Uta  เพลงฮิตของคุณหมอนั่นเอง
เพลงนี้ใช้ประกอบภาพยนตร์ Strobe edge ที่สร้างจากการ์ตูนโชโจชื่อดังด้วย  ยอด download เพลงนี้สูงมาก จนทำให้ WhiteeeeN ได้รางวัลศิลปินหน้าใหม่ในปีนั้นไปด้วย


ส่วนตัวแล้วชอบเพลง Pokketto ของสาวๆมากที่สุด  เพราะ GReeeeN เป็นคนแต่งให้ .. เนื้อร้องและทำนองมันแบบว่า .. ดูมีเอกลักษณ์ดี


ปีนี้คุณหมออกเพลงใหม่เป็นว่าเล่น  แต่งเพลงให้คนโน้นคนนี้ไปทั่ว ทั้งโฆษณา ทั้งแคมเปญต่างๆมากมาย (แต่ไม่ค่อยจะเปิดให้โหลด 55555  แนวมาก)

ในฤดูร้อนปีนี้ ก็ยังคงมีคอนทัวร์ทั่วประเทศเหมือนกัน ภายใต้ชื่อทัวร์ 9SJ  มีคลิปสอนเต้นและ OTP เหมือนเช่นเคย

เพลงที่ชอบที่สุดในปีนี้ ... 

Hajmari no Uta เลยค่ะ ชอบตั้งแต่ได้ฟังครั้งแรกที่ใช้ประกอบโฆษณาบริษัทรับหาบ้าน  คือเพลงออกมาตั้งแต่ 2015 แต่ PV มาออกโน่นเลย ปี 2016 กว่าจะวางขาย... T_T PV เพลงนี้ทำได้ซึ้งมาก และมีเรื่องราวดีๆอยู่เบื้องหลังมากมาย ไปตามอ่านกันได้ที่นี่ 



ปี 2016

ครบรอบ 10 ปีวงกรีน ..
มีข่าวประกาศและการเปลี่ยนแปลงมากมายจนแทบจะตามไม่หมด
เริ่มต้นด้วยการออกหนังสือ Sorette Kiseki ออกมาให้แฟนๆได้รู้จักเรื่องราวเบื้องหลังกันมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ออกหนังสือมาได้ไม่นาน .. ก็กลายเป็นหนังสือขายดีจนต้องพิมพ์ใหม่ถึง 3 ครั้งในช่วงเวลาไม่ถึง6เดือน

จากนั้นก็ประกาศคอนทัวร์ทั่วประเทศ โดยเพิ่มรอบ เพิ่มจังหวัด มากยิ่งขึ้น
ไปจัดรายการวิทยุ All Night Nippon ยาวถึง 2ชั่วโมง!
อันนี้ตัดมาแปลแค่บางส่วนนะคะ



แล้วก็ไปออกรายการทีวีเป็นครั้งแรกโดยซ่อนอยู่ในตุ๊กตาของตัวเอง

ที่สำคัญคือ...ประกาศทำภาพยนตร์!!!
Kiseki ano hi no Sobitto


นอกจากนี้ยังประกาศคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ปีหน้าที่ Saitama Super Arena !!
โดยมีวี่แววว่าครั้งนี้ .. สมาชิกจะมากันเองด้วย!!

น่าสนุกมาก .. รอติดตามกันต่อไปว่าที่นั่งตั้ง 3หมื่นกว่าที่ใน super arena จะขายหมดหรือไม่ (ขนาดเรายังคิดว่าไม่น่าจะขายหมดเลย 555)

ทิ้งท้ายด้วยคลิปฮาๆจาก GreeeeN radio ค่ะ อาจจะทำให้ได้รู้จักตัวตนและนิสัยของทุกคนมากขึ้น :)













10ปีผ่านไป..มาทำความรู้จัก GReeeeN กันใหม่นะ 10ปีผ่านไป..มาทำความรู้จัก GReeeeN กันใหม่นะ Reviewed by ITadmin on 10:22:00 Rating: 5

No comments: