GReeeeN คือ??

บทเพลงของหมอพันอารมณ์ดี ดนตรี Feel Good!

บันทึก GReeeeN live 10 years aniversary @ Saitama Super Arena

 GReeeeN live @ Saitama Super Arena 

คอนเสิร์ตครบรอบ 10 ปี

การปรากฎตัวครั้งแรกของคุณหมอตัวจริง 

การแสดงสดครั้งแรกต่อหน้าแฟนๆกว่า 16000 คน


ชื่อของคอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็คือ..

อ๊ะ, รีน่า ยินดีที่ได้รู้จักครับผม
กรีนบิ๊กแท้งกิ้ว !? Ru~De Ru~De ( comment # ภาษาอะไรของเอ็งวะ -*-)


theme ในงานคือ "โรงเรียนรูเด๊ะรูเดะ ルーデルーデ学園
(คำนี้คิดว่าย่อมาจาก รีนัลรุเดย์ リーナルーデ ซึ่งก็มาจาก aREna day นั่นเอง ..ภาษาญี่ปุ่นพอเขียนเป็นอังกฤษแล้วแบบว่างงปวดตับมาก)

อยากจะเขียนบรรยายให้ละเอียดที่สุด จะได้เห็นภาพไปด้วยกัน งานนี้อาจจะยาวหน่อยนะคะ..
ใครไม่อยากอ่านอะไรยาวๆ ไปอ่านสรุปได้ในเพจจ้า

งานมีวันที่ 7 มกราคม 2017 ที่ไซตามะซุปเปอร์อารีน่า

ตารางงาน 
10 โมง : เริ่มขายของที่ระลึก 
บ่าย 2 โมง : ประตูเปิด 
บ่าย 4 โมง : งานเริ่ม 

ภาพประตูหลักทางเข้าอารีน่า  คนล้านแปดมากๆ

งานนี้เราไม่ได้ไปคนเดียว วะฮ่าๆ ดีใจมาก เพราะมีแฟนเพจติดตามไปด้วยถึง 3 คน (รวมเราก็เป็น 4 คน) หนึ่งในนี้มีแฟนเพจคนอินโดนิเซียด้วย  ทุกคนไม่เคยเจอกันมาก่อน  ต่างคนต่างก็โดนเพจเราล่อลวงให้มารู้จักกันทั้งนั้น   ภูมิใจมาก

มีความรู้สึกว่าเป็นต่างชาติผู้กล้าเพียงแค่ 4 คนในงานนี้เท่านั้น  เพราะไม่ได้ยินเสียงภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆเลยจ้า ขอบคุณน้องป๊อบ น้องมุก ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันจริงๆค่ะ เลยได้รูปที่ระลึกมาเยอะเลย >< ไม่ต้องยืนเหง๊าเหงาคนเดียวแล้ว
..
.
เราไปถึงงานตอนประมาณบ่ายสองค่ะ อยากได้แท่งไฟไว้โบกในงานกับผ้าขนหนู  แต่แถวต่อคิวซื้อของที่ระลึกยาวมากกก ยาวชนิดที่ว่ามองไม่เห็นหางแถวเลย
มีน้องคนนึงมาที่งานก่อนตั้งแต่ช่วงเช้าบอกว่า แถวยาวตั้งแต่ก่อนสิบโมงแล้วค่ะเพ่  พร้อมกับชี้ให้ดูคนที่ยืนรอในแถวที่ยาวเกือบจะวนรอบอารีน่าได้  โห.... เราคนไทยไร้ความอดทดอยู่แล้ว. ปล่อยผ่านไปค่ะ.   ส่วนนึงเราว่าการจัดการไม่ดี  เพราะคอนเสิร์ตที่รู้อยู่แล้วว่าคนจะมาเยอะขนาดนี้  น่าจะเปิดขายของหลายๆจุดให้มากกว่านี้   อยากไปหมุนชากาปองก็ไม่ได้หมุนเลย. ฮือออ

ชากาปองของที่ระลึก ถ้าโชคดีก็จะได้เข็มกลัดพร้อมลายเซ็นของสมาชิกแต่ละคนค่ะ
เห็นคนญี่ปุ่นบ่นในทวิตว่า อุตส่าห์ต่อแถวตั้งนาน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อเพราะได้เวลาโชว์เริ่มซะก่อน 
เลยคิดว่า ดีแล้วที่เราไร้ความอดทน 555
...
..
ก่อนประตูเปิด ก็จะมีมาสคอตคุณหมอมาเดินเล่น โพสท่าให้ถ่ายรูปกันเป็นระยะๆ คนมุงกันล้านแปด ... คนไทยใจไม่สู้อย่างเราก็ยืนอยู่ห่างๆค่ะ  =_=  ข้างในมาสคอตจะเป็นตัวจริงหรือไม่ อันนี้ไม่มีใครทราบ  แต่มาสคอตฮิเดะนี่คึกตลอด  เกรียนเหมือนตัวจริงเลยทีเดียว  คุนิก็นิ่งๆ กวนเล็กๆ เอามือจับคาง กอดอกตลอด   โซจังนี่ดูทื่อๆ มึนๆ โบกไม้โบกมืออย่างเดียวค่ะ ส่วนนาวีนี่เป็นพวกบ้ายอ บอกให้ทำอะไรก็ทำ แล้วก็เขิลลล เอามือจับแก้มตัวเองบ่อยมาก ถ้าไม่ใช่ตัวจริงอยู่ข้างในนี่ ก็เรียกได้ว่าถูกอบรมมาให้แสดงเหมือนตัวจริงมากค่ะ

ไปดูคลิปมาสคอตคุณหมอน่ารักๆกัน



เราเข้าฮอลประมาณเกือบๆบ่ายสาม คือเค้าเขียนไว้ว่าถ้าเข้าไปแล้วออกมาไม่ได้นะ ก็เลยลังเลว่าจะเข้าเลยดีมั้ย  สุดท้ายก็เข้าไปก่อนเวลาเริ่มค่ะ  ข้างในมีบูทย่อยๆหลายบูท  จัดรูปแบบบูทเป็นเหมือนห้องเรียนค่ะ 

อันแรกจะเป็นบูทของภาพยนตร์ Kiseki มีขายบัตรชมภาพยนตร์ (ซื้อในงานจะแถมการ์ดขนาดเท่าบัตร ATM ให้ด้วย )  แล้วก็มีขายหนังสือไลท์โนเวล ที่เป็นเรื่องแต่งจากภาพยนตร์ในราคา 600 yen ด้วยค่ะ ไปดูภาพบรรยากาศรวมๆ (ที่ก๊อบมาจากในเน็ท)กันดีกว่า


ไลท์โนเวล...ซื้อมาแล้วจะได้อ่านมั้ยก็ไม่รู้ แต่เสียตังค์ได้มีไว้ครอบครองแล้วสบายใจ

บูทรับจองอัลบั้ม All Singleeees จองในงานได้ของแถมเป็นแฟ้มใสค่ะ

สำหรับท่านที่มี app GReeeeN ไว้ครอบครอง (และจ่ายเงินรายเดือน) มารับเงินสมนาคุณได้ที่นี่ 500 yen ค่ะ
คอสเพลย์ตัวเอกจากเกมส์ Kidoku lost ค่ะ

บูทเกมส์ Kidoku Lost หมุนโชคชิงรางวัลอะไรซักอย่าง
(เกมส์ที่จินแต่งทำนองให้ และฮิเดะก็พากย์เสียงเป็นตัวละครตัวนึงด้วย)


แสตนสมาชิกกรีนเวอร์ชั่นเด็กม.ปลาย  (อย่าลืมว่าตัวจริงพวกเค้าคือลุงๆอายุ 35+นะคะ)
และ..มีคนคอสเพลย์มาเป็นสมาชิกกรีนด้วย ดูออกมั้ย 

ของที่ระลึกจากเกมส์แบบ limited edition ขายในงานนี้เท่านั้น

โปสเตอร์นี้ถึงนาดต้องต่อคิวถ่ายรูปกันเลยทีเดียว
ตอนเดินเข้างานทุกคนจจะได้รับถุงพลาสติกใสมีรูปปาก kiseki ใส่ไว้ให้ถ่ายรูปเล่นด้วยค่ะ
ซึ่งทุกคนก็มุ่งหน้ามาถ่ายที่จุดนี้กันทั้งนั้นเลย

ต่อมาเป็นนิทรรศการเล็กๆ   รวมของที่หมอเคยใช้? อะไรแบบนี้ค่ะ

(รูปทั้งหมดก๊อบมาจากทวิตเตอร์  เพราะตัวเองขี้เกียจต่อแถวถ่ายรูปอันยาวเหยียดนั่นเอง

- กล้องถ่ายวีดีโอของฺฮิเดะกับแร์เทป 
- หมวกจบการศึกษาที่มีลายเซ็นของทั้งสี่คน (เป็นของที่ระลึกในงานคอนเสิร์ตเมื่อปี 2014)



รองเท้าไนกี้ limited edition รุ่น ayumi ทำออกมาตอนซิงเกิ้ล ayumi วางขาย
- Design ผ้าขนหนูที่คิดไว้ตอนเดบิวน์แรกๆ




กระดาษจดเนื้อเพลง...มันเบลอมาก เลยไม่รู้ว่าเพลงอะไรค่ะ อันขวาสุดน่าจะเป็นเพลง michi

Cd ที่ทำกันเองสมัยอินดี้ เอาไปฝากวางขายที่ร้าน Libs ที่โคริยาม่ามีแค่ 50 แผ่นเท่านั้น
(ปล. ปกนี่มัน....เห่ยมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้วสินะ...)

ลิสเพลงในซีดีสมัยอินดี้  จะเห็นว่ามีเพลง Holiday, Moon trap ที่เป็นเพลงโซโล่ในอัลบั้มที่แล้วด้วย

กระดาษจดเนื้อเพลงparipipo แบ่งเนื้อเพลงกันร้องตามสีที่ขีดไว้

แผ่นเดโมวงกรีนที่ส่งไปให้ค่ายเพลงพิจารณา มี 17 เพลง

ใกล้จะได้เวลาเริ่มงาน. เราก็เริ่มเดินเข้าไปนั่งประจำที่
ความจุแบบเต็มจำนวนของที่นี่คือ 37,000 ที่นั่ง แต่ในคอนเสิร์ตกรีน มีการกันที่นั่งด้านนึงไปเป็นเวที (โซนขวาสุดในรูป)  และกันที่นั่งบางส่วนที่อยู่ข้างเวทีเอาไว้ (เพราะเป็นที่นั่งที่จะโดนบัง มองไม่เห็นเวทีค่ะ) ดังนั้น จึงเหลือในงานวันนี้จึงที่นั่งแค่ประมาณ 16000 - 17000 เท่านั้น

ที่นั่งแบ่งเป็น 4 zone ใหญ่ๆ  ตามนี้ค่ะ จริงๆตรงสีเหลืองจะมีทางเดินยื่นออกมาตรงกลางข้างหน้าด้วย ทำให้ที่นั่งตรงแถว 4-5 ลดลงไปอีก



ภาพที่ถ่ายก่อนเดินไปหาที่นั่งของตัวเอง คนเริ่มทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ข้างล่างพิธีกรเล่นอะไรกับคนดูอยู่ก็ไม่รู้ค่ะ

Zone Arena =  ที่นั่งในโซนตรงกลาง จุดสีขาว เป็นเก้าอี้ที่นั่งเสมอกันหมด มีข้อดีคือมองเห็นเวทีตรงหน้าเลย แต่ก็มีข้อเสียว่า ถ้าคนข้างหน้าตัวสูง โดนบังมิดไปเลยนี่ก็เซ็งเหมือนกัน 

Level 200  =  ที่นั่งโซนสีเขียว เป็นเก้าอี้แบบขั้นบันได นั่งไกลมาหน่อยแต่ไม่ต้องห่วงว่าจะโดนบังค่ะ  เรานั่งอยู่โซนนี้แหละ

Level 400 = โซนสีน้ำเงิน จะอยุ่อีกชั้นนึงขึ้นไปจาก level 200 อันนี้จะเริ่มเห็นเวทีไกลๆละ มองไม่เห็นหน้าคนบนเวทีแล้วค่ะ

Level 500 = โซนสีชมพู  อยู่บนสุดเลย  ต้องพกกล้องส่องทางไกลอย่างเดียวละอันนี้ 



ที่นั่งของเราคือ  Level 200, แถวที่ 3 ตัวที่ 351 (จำแม่นมาก เอาไปซื้อหวยแล้ว ฮ่าๆ)
วิวจากที่นั่งค่ะ ถ่ายเองก่อนงานเริ่ม  คนนั่งข้างๆหน้าตาดีมากค่ะ หล๊อหล่อ (นอกเรื่องละ อิอิ) 
ถ้าสังเกตุบนเวที จะเห็นว่ามี 2 ชั้น 



 เท่าที่สังเกตุ  รอบตัวเรามีคนถือแท่งไฟกันทุกคน รวมทั้งคนที่นั่งโซนอารีน่าด้วย 80%จะมีแท่งไฟสวยๆกันหมดเลย.  คือแถวที่เรานั่งทั้งแถวเนี่ย...เราเป็นจุดอ่อนอยู่คนเดียว T_T ส่วนคนที่นั่งสูงๆ. Level 400-600 นี่แท่งไฟจะน้อยลงไป เลยคิดเอาเองว่า การสุ่มตั๋วในคอน. น่าจะประมาณว่า. คนที่จองรอบแรกๆ ส่วนใหญ่พวกนี้คือพวกแฟนคลับกรีนจริงๆ  น่าจะได้ที่นั่งในโซนอารีน่า + level 200 คนพวกนี้จะใส่ชุดเขียวซื้อแท่งไฟ ผ้าขนหนูแบบจัดเต็ม ดังนั้นจัดคนพวกนี้มานั่งกลางๆ เวลาถ่ายวีดีโอออกมาก็จะสวยแน่นอน
ส่วนคนที่จองรอบคนทั่วไป หรือจองช้าหน่อย  น่าจะได้ level 400-600 แล้วแต่ดวงและความไวในการกดละค่ะ ดังนั้นครั้งหน้า รีบๆจองรอบแรกๆกันนะคะทุกคน

เกริ่นมายาวมาก. กว่าจะได้เริ่มงาน. คือว่าฮอลใหญ่มาก กว่าคนจะทยอยเข้ามาก็ใช้เวลาพอสมควร  บางคนยังต่อแถวซื้อของอยู่ข้างนอกด้วยซ้ำ

15:30 พิธีกรเริ่มงานน้ำจิ้ม (รอคนเดินเข้ามาให้เต็มฮอล) เป็นการประกาศผลโปรเจคประกวดแต่งเนื้อเพลงของเกมส์  Kiyoku Lost (คือจินแต่งทำนองให้ แล้วให้คนทางบ้านแต่งเนื้อเพลง ร้องเพลงประกวดกัน ) ในงาน(น่าจะ)จะเป็นคนที่ได้ที่ 1-3 มาร้องเพลงให้ฟัง. เพลงเพราะ เสียงดีกันทุกคนเลยค่ะ
ไปฟังเพลงตัวอย่างกันได้ที่นี่



15:45 น้ำจิ้มถ้วยที่สอง. เป็นการโชว์เต้น yosa koi จากจังหวัดโคจิในเพลง kono chi e 
ถ้ายังจำกันได้ ฮิเดะเคยไปเรียนม.1-6 ที่โคจิ และสร้างวีรกรรมไว้มากมาย. พอเป็นนักร้องแล้ว เมื่อสองปีก่อนฮิเดะก็ได้ไปร่วมงานเต้นโยสะโค่ยด้วยค่ะ ในตอนนั้นก็ได้แต่งเพลง kono chi e ไว้ให้ทางจังหวัดด้วย  โดยเราเพิ่งรู้ว่าเพลงนี้ยกให้เป็นลิขสิทธิ์ของทางจังหวัดไปเลยค่ะ จะนำไปเผยแพร่หรือยังไงก็ได้ ( ดังนั้นเพลงนี้จึงไม่ได้อยู่ในอัลบั้มไหนๆและไม่มีให้โหลดด้วย  เพราะยกลิขสิทธิ์ให้ทางจัวหวัดไปแล้วค่ะ)  โดยชื่อเพลง Kono Chi e (แด่ผืนแผ่นดินนี้) พอออกเสียงในเพลงเร็วๆแล้วจะพ้องกับคำว่า Kochi ที่เป็นชื่อจังหวัดโคจิ ... คนแต่งเพลงเก่งมากเลยค่ะ (อวยยยยเข้าไป ฮ่าๆ)  ฟังเพลงได้จากด้านล่างนี้



16:00 เริ่มงานจริงๆซะที  ในช่วงนี้คนเริ่มเข้ามาเกือบเต็มฮอลแล้วค่ะ ใครเข้ามาทีหลังจะมีสตาฟตามประกบให้เข้าที่นั่งไวๆทันที

พิธีกรบนเวที ที่บอกว่าตัวเองเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนรูเด๊ะรูเดะ ประกาศข้อตกลงในห้องเรียนที่ไซตามะ ซุปเปอร์อารีน่า. ประมาณว่า. จะสูบบุหรี่ จะกินขนม ไปทำข้างนอกนะเด็กๆ แล้วก็มีแนะนำ จาย์ที่ปรึกษาอีกสองคน. เป้นครูพละกับครูห้องพยาบาล. พอเสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น ก็มีเด็กๆแดนเซอร์ตัวน้อยๆในชุดเขียววิ่งออกมาเต็มเวที  สวัสดีอาจารย์กันเรียบร้อยทีเดียว
เหล่า dancer มีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งหญิงและชายจ้า


16:15 ไฟในฮอลดับมืดลง หน้าจอฉายตัวอย่างภาพยนตร์ kiseki แล้วจากนั้นสปอร์ตไลท์ก็ส่องมาที่บนกลางเวที  มีชายหนุ่ม 4 คนโผล่ขึ้นมา

กรีนบอยยยยยย
เสียงเพลง kiseki ดังขึ้นพร้อมเสียงกรี๊ดของสาวๆ 
พอสุดะร้องขึ้นมาว่า อะชิตะ~เท่านั้น ก็รู้สึกว่า.. เอ้ย ร้องสด!   เสียงดีว่ะ 

 เอ้า ไปดูวีดีโอข่าวกัน จะได้อารมณ์มากขึ้น



จากที่นั่งเรา.... เห็นแต่ด้านหลังค่ะ ฮือออ. ด้านหลังไกลๆด้วย เลยมองแต่จอมอนิเตอร์ไปค่ะ  จากนั้นพอจบเพลง kiseki ก็แนะนำตัวกันพอเป็นพิธี  แล้วก็ต่อด้วยเพลง koe เลย ซึ่งเพลงนี้จะมีพาร์ทโซโล่ของแต่ละคนด้วย  ทุกคนดูสนุกกันมาก โดยเฉพาะสุดาที่ลิงสุดๆ จริงๆแล้วรู้สึกว่าสุดะกับนาริตะเล่นหูเล่นตาเข้าขากันดีมาก  เหมือนฮิเดะกับคุนิเลยค่ะ   ดูกวนๆขี้เล่นกันทั้งคู่ อาจจะเป็นเพราะว่าอายุเท่ากัน ก็เลยคุยกันง่ายมั้ง 

ส่วนโซจัง (สุกิโนะ โยสุเกะ)  นี่ดูเกร็งอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางนางกังวลกับการคุมเสียงต่ำๆของตัวเองมาก นาวกลัวร้องผิด ยิ่งท่อนโซโล่ของ Koe นี่นางดูประหม่ามาก  มึนๆตามสไตล์ของนาง  แต่ด้วยความหล่อ ทุกคนเลยให้อภัย (อ้าว!) 

นาวี  (โยโกฮาม่า ริวเซย์) รายนั้นขึ้นหิ้งไปแล้ว. ฮ่าๆๆ. วันนี้ใส่แว่น น่ารักมาก มีช็อตนึงที่หันมาเล่นกับน้องโย โห้วว. เป็นคู่ที่มุ้งมิ้งใช้ได้เลยทีเดียว  เสียงดีเหมือนกัน มีเล่นกล้องบ้าง แต่ไม่ลิงเท่าสุดะนาริตะ ยังดูออกว่านางตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน  ดูเกร็งๆค่ะ (แ่ตไม่เท่าน้องโยนะคะ รายนั้นสติกระเจิงไปแล้ววว)

พอร้องเพลง Koe จบ ทุกคนก็พร้อมใจกันกระโดด จนได้ภาพสวยๆนี้มา  ดูสนุกันจริงๆ


กรีนบอยแสดงจบ อาจารย์ใหญ่ (พิธีกรเดินมาต้อนรับ ทักทายนิดหน่อย แล้วหนุ่มก็ชิ่งเลยเฮ้ยยมันช่างรวดเร็วมาไวไปไวมากแสดงได้แค่ 10-15 นาทีเองมั้ง.  มันไม่สะใจซะเล้ยยย

รายการสัมภาษณ์กรีนบอยหลังคอนเสิร์ตมีเยอะมาก ขอเอามาฝากแค่นี้ก่อนนะคะ

จากนั้นเป็นคิวของพระเอก GReeeeN ค่ะ มาเป็น 3d ด้วยเทคโนโลยี motion capture ตามที่เห็นในวีดีโอข้างบนนั้นแหละ  เพลง แรกเลยคือ kiseki ตามด้วยเพลงสนุกๆทั้งมากมายที่พาเหรดกันมาแบบ non stop พร้อมกับแดนเซอร์เด็กๆในชุดเขียวมาเต้นรอบเวที  ทุกเพลงเล่นเวอร์ชั่นเต็มหมดเลยจ้า ไปฟังเพลงกัน

set list เริ่มด้วย paripipo, weeek, aiue ongaku, orenji (เพลง aiue ongaku นี้มีท่าเต้นประจำ หมอๆเวอร์ชั่น 3d ก็เต้นไปด้วยค่ะ).  Paripipo นี่เป็นเพลงอัลบั้มแรกๆแถมไม่ค่อยดัง  ไม่นึกเลยว่าจะเอามาเล่นด้วย เหนือความคาดหมายมากๆ  แต่เราชอบนะ สนุกดี

Paripipo

Weeeek

ช่วงเพลง WeeeeK มีการยิงริบบิ้นออกมาจากเวทีด้วย สวยมากเลยค่ะ


aiue ongaku, 

orenji 

แล้วก็พักเบรกแนะนำตัวเอง MC เป็นคุนิเหมือนเคย (คนนี้รับเป็น MC ทุกงานเพราะนิสัยและการพูดจาเป็นปกติที่สุดแล้วค่ะ) ต่อด้วย UNITY ที่มีพาร์ทร้องโซโล่ของแต่ละคน แล้วก็เพลงสนุกๆอย่าง sorashido, tobira
 Unity

Sorashido



Tobira


พักเบรก mc กันอีกรอบ คราวนี้เป็นการขายของ 555 ฮิเดะเอาหนังสือไลท์โนเวลของภาพยนตร์  kiseki มาบอกเพื่อนๆ มีการเล่นตลกกับกราฟฟิคกันเล็กน้อย  (ตรงนี้ต้องไปดูเองถึงจะฮา) แล้วก็แสดงเพลง sobito แบบเต็มเพลงค่ะ. เพลงนี้ช่วงเริ่มต้นกับท่อนฮุกดูดีมาก. แต่พอท้ายๆมีเสียงสังเคราะห์เข้ามาอีกละ แล้วทำนองก็เปลี่ยนแปลกๆ ทำให้คะแนนความชอบลดลงไปนิดนึง  

จากนั้นเป็นช่วงงานกีฬาสีประจำโรงเรียน มีลูกบอลขนาดใหญ่ม๊ากก 4 สี สีละ 3 ลูก ส่งออกมาจากประตูด้านบน ให้ทางคนดูช่วยกันส่งไปให้ถึงบนเวที  เพื่อเลือกว่าจะฟังเพลงอะไรต่อไป
บอลเหลือง bokura no monogatari
บอลแดง ai komete
บอลฟ้า SAKAMOTO
บอลเขียว  matane

สุดท้ายแล้วบอลเหลืองก็ส่งไปถึงก่อน. บอลแดงแตกไป 2 ลูกค่ะ 555  แต่จากผลโหวตในทวิตเตอร์ เพลงที่แฟนๆอยากฟังที่สุดคือ Ai Komete นะคะ
ได้ฟังเพลง bokura no monogatari, แล้วตามด้วย tooku sora mesatsunda ซึ่งมีท่าเต้นประจำคอนด้วย. คุนิบอกให้นาวีสอนเต้น ( รายนี้ก็เจ้าประจำ. โดนเรียกทุกงานพอเต้นกันไปหนึ่งเพลงแล้วก็ต่อด้วย ai uta ค่ะ 







แล้วก็ MC เล่นมุกกันอีกรอบ คุนิบอกว่า ต่อไปจะเป็นเพลง Akatsuki no Kimini ซึ่งเป็นเพลงที่พูดถึงเช้าวันใหม่ของแต่ละคน การเริ่มต้นใหม่ จุดกำเนิดใหม่  ดังนั้นก็ต้องแสดงอะไรพิเศษให้เข้ากับเพลงด้วย ดังนั้นทุกคนเลยใช้เวทย์มนตร์แปลงร่าง  จาก 3d หนุ่มหล่อตัวสูง ไปเป็น.....จุดกำเนิดของตัวเอง...
...
..
..
.
แปลงร่างมาแล้ว หน้าตาแบบนี้อะค่ะ (โอ้ยย ปวดตับ เล่นอะไรของพวกเอ็ง)


แล้วก็โวยวายกันใหญ่ว่า จะร้องเพลงแบบนี้จริงๆเรอะ!! ตัวเป็นตะเกียบแบบนี้มันร้องพลงยากอยู่นะ 
เอ้า! แปลงร่างกันอีกที คราวนี้เป็นรูปเด็กเบบี้ในเวอร์ชั่น 3d (แบบที่เห็นแล้วต้องกุมขมับ -*-)

สุดท้ายก็ต้องกลับมาเป็นหนุ่มหล่อเวอร์ชั่น 3d เหมือนเดิม แล้วก้ร้องเพลง Akatsuki no Kini ni ในเวอร์ชั่นช้าๆ (โอ้ยย เวอร์ชั่นนี้ดีกว่าใน CD ค่ะ ฮิเดะเสียงดีมาก)

จากนั้นก็ต่อด้วยเพลงตามนี้
「虹-Niji」「花唄 - Hana Uta」「イカロス - Ikarisu」「旅人-Tabibito」「笑顔-Egao」






จากนั้นก็เป็น MC กันอีกรอบ ฮิเดะบอกว่าเหลืออีกแค่ 2 เพลงสุดท้ายแล้ว ถึงแม้ว่าโรงเรียนรุเดะรุเดะนี่จะไม่มีการจบการศึกษา แต่ยังไงงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลา อยากให้ทุกคนกลับบ้านไปพร้อมกับควาวมทรงจำดีๆในคอนเสิร์ตครั้งนี้นะครับ ดีใจมากที่ได้มาพบกับทุกคนในวันนี้

เพลงรองสุดท้าย Sotsugyo no Uta

และเพลงสุดท้ายคือ Haruka ค่ะ  ซึ้งมากเพลงนี้  ชอบมากด้วย ตอนสุดท้ายมีหัวใจกระดาษปลิวลงมาสวยงามมาก Kana จาก Whiteeeen ก็ไปดูคอนเสิร์ตนี้ด้วยค่ะ แล้วก็ยังได้หัวใจกลับบ้านไปอีกด้วย  ส่วนเรานั้นหมดสิทธิ์เลย T^T คนที่นั่งตรงโซนอารีน่าได้กันไปเต็มๆ




จากนั้นไฟทั้งฮอลก็ดับมืดลง เหลือไว้แค่แสงจากแท่งไฟของผู้ชม
เสียงคนตะโกนอังกอร์ดังขึน  เป็นอังกอร์ที่เรียกกันนานมาก นานมากกกกกก ประมาณห้านาทีได้
** สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าอังกอร์ (encore) คืออะไร .. เหมือนเป็นการเรียกหาเพลงแถมในงานคอนเสิร์ตอะค่ะ ซึ่งเกือบทุกๆคอนก็จะมีการเรียนอังกอร์กันเป็นธรรมเนียมอยู่แล้ว .. ใครไปคอนบ่อยๆคงรู้กันดี

ระหว่างที่อังกอร์กันอยู่ ด้วยความที่เราอยู่ใกล้เวที ก็สังเกตุเห็นมีสตาฟเอากีตาร์มาตั้งหลายตัวเลยเว้ยยย
แน่ะๆๆ มีแอบเปิดไฟฉายเช็คสายไฟอะไรกันด้วย
สังเกตุเวทีอีกฝั่งนึง ก็มีการตั้งคีย์บอร์ด (และน่าจะมีกลองด้วย) เช่นกัน
เอาละๆๆ ต้องมีการแสดงเพลงสดช่วงอังกอร์แน่ๆ  ตัวจริงมาร้องแน่ๆเลย

คิดในใจ แต่หมอจะมาร้องเพลงยังไงว๊าาาาาา  จะใส่หน้ากาก หรือว่าจะมาเป็นตุ๊กตามาสคอร์ต หรือยังไง

ระหว่างนั้นเสียงอังกอร์เริ่มค่อยๆลดลง (คือ เรียกกันจนเหนื่อยแล้วยังไม่ออกมาอีกอะนะ)
แล้วเสียงหลีดกีตาร์ (หรือเบสวะ) ก็เริ่มดังขึ้นช้าๆ .. ตึ้งตึ่งตึงติ่ง
คือฟังไม่ออกว่าเป็นไตเติ้ลของเพลงอะไร

จนเสียงเปียโน (หรือคีย์บอร์ดนะ) เริ่มดังขึ้นช้าๆ  แล้วก็เริ่มเร็วขึ้นๆๆๆ จนพอจะจับได้ว่า..
เอ้ยๆๆ มันเป็นทำนองเพลงเริ่มต้นของ BE FREE  นี่นา!!!



เสียงกลองแรกดังขึ้น พร้อมกับไฟหน้าจอบนเวทีด้านบนที่เปิดสว่างขึ้นมา มองเห็นเงาของผู้ชาย 4 คนยืนอยู่บนเวทีด้วยเสื้อฮู้ดสีดำ บนเสื้อด้านหน้ามีโลโก้ฟันยิ้มของ GReeeeN สกรีนอยู่ด้วย เสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอลยิ่งกว่าตอนกรีนบอยออกมาซะอีก โฮ้วววววว

ปล.. ต่อไปนี้อาจจะมีตรงไหนที่จำผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนบ้างนะคะ  คำพูดของ member เหล่านี้เรารวมๆมาจากข่าวหลายสำนักค่ะ เพราะจริงๆเราจำไม่ได้เลยว่าใครพูดไรบ้าง ฮ่าๆๆ  จำได้แต่ว่าตอนโซพูดนี่ซึ้งมาก มีเสียงสะอื้นหลายคนเลย




ยู~ยาเกะโนะนากะ...คำแรกที่ร้องมา.....พอเสียงของฮิเดะดังขึ้น  เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นอีกครั้ง
โฮ้ววว ฟินมากกกก

ด้านบนเป็นภาพจำลองการปรากฎตัวบนเวทีของคุณหมอ เสื้อฮู้ดสีดำแบบนี้ค่ะ (ของจริงจะมืดกว่านี้เยอะ) เสื้อข้างหน้ามีโลโก้ฟันยิ้ม GReeeeN  พอใส่ฮู้ดแล้วยืนบนเวทีสูงขนาดนี้ ก็คือมองไม่เห็นหน้าหรอกค่ะ เรานั่งฝั่งที่ใกล้คุนิ เห็นแวบๆว่าคุนิใส่หมวกอยู่คนเดียว  ตอนร้องเพลง จอสกรีนด้านล่างจะโชว์เนื้อเพลงตัวใหญ่ๆด้วยค่ะ

เป็นเพลง BE FREE ที่เพราะที่สุดเท่าที่เคยฟังมาเลย คือ..หลังจากกลับมาจากคอนแล้วก็ฟังเพลงนี้วนไปนับสิบรอบได้

พอ  BE FREE จบลง... เสียงนาวีก็ดังขึ้น

Lady and Gentlemannn
We're  GReeeeeeeeeN!!
นาวี : " เพราะว่าอยากเจอกับทุกๆคน เพราะว่าอยากจะเป็นหนึ่งเดียวกับทุกๆคน พวกเราจึงมายืนอยู่ที่ Saitama Super Arena ตรงนี้ครับ!!"
Soh : รักทุกคนเลย!!
เสียงกรี๊ดดดดดังก้องฮอล

จากนั้นก็เป็นการแนะนำตัว แม้มันจะมืด คือดูไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่ปกติก็ยืนเรียงกันเป็นแพทเทิร์นแบบนี้อยู่แล้ว ก็คือ คุนิ ฮิเดะ นาวี และก็โซ



เพลงต่อไปเป็นเพลง kiseki มีการพูดเข้าเพลงเล็กน้อย

คุนิ : ตอนที่ทำเพลงนี้เสร็จ ผมไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นเพลงที่มีคนร้องตามกันได้มากมายขนาดนี้  มันเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับพวกเราจริงๆครับ"

นาวี :  การได้เดินทางมาพบกับเมมเบอร์ที่สุดยอดแบบนี้ .. การที่ได้มาเจอกับแฟนๆทุกคนในตอนนี้ ทุกอย่างมันเป็นเหมือนปาฏิหาริย์จริงๆ.. เรามาทำให้ทุกคนกลับบ้านไปพร้อมความประทับใจในปาฏิหาริย์นี้กันเถอะ!

ฮิเดะ : ทุกคน มาร้องเพลงนี้ไปด้วยกันน๊า!!

เสียงดนตรีเพลง Kiseki ดังขึ้น แฟนๆทั้งฮอลช่วยกันร้องเพลงตั้งแต่ต้นจนจบ น้ำตาไหลกันเป็นแถวๆ 

คุนิ : ด้วยความรักของทุกๆคน พวกผมถึงได้ก้าวผ่านเรื่องราวต่างๆมาจนถึงวันนี้  .. จากนี้ต่อไป พวกเราวง GReeeeN ก็จะพยายามต่อไปครับ  ขอความกรุณาด้วยครับ!! (กรี๊ดดดด)

ก่อนจะมาถึงเพลงสุดท้ายของเราในวันนี้ ขอให้แต่ละคนพูดอะไรกันซะหน่อยนะครับ .. เริ่มจากโซจัง
( เสียงเปียโนเบาๆดังขึ้น  บิ้วบรรยากาศให้ชวนซึ้งเข้าไปอีก ) โซเป็นคนที่พูดได้ยาวที่สุด และซึ้งที่สุดของวันนี้เลย

Soh : ผมอยากจะยืนอยู่บนเวทีแบบนี้มาตลอด.. เหตุผลก็เพราะว่า.. ผมมีคำๆนึงที่อยากพูดต่อหน้าแฟนๆทุกๆคนด้วยตัวของผมเอง...
 การที่พวกเราอยู่มาได้จนถึง 10 ปี!!  ขอบคุณแฟนๆทุกคนมากนะครับ!!

(เสียงกรี๊ดดังลั่น เสียงสะอึกสะอื้นก็มา อารมณ์แบบ .. ฮือออ ตามกันมาตั้งนาน ในที่สุดก็ได้เจอกันซะที)

ตั้งแต่ตอนที่เดบิวน์ช่วงแรกๆ หลายๆคนมักจะบอกผมว่า จะเป็นหมอฟัน หรือจะเป็นนักร้อง ก็เลือกเอาซักทางนึงเถอะ  นายไม่มีทางทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกันได้หรอก มีช่วงเวลาที่ท้อใจตั้งมากมาย
การที่ผมได้มายืนอยู่บนเวทีตรงนี้ ในวันนี้  เป็นเพราะการสนับสนุนของแฟนๆทุกคนจริงๆครับ!
จากนี้ต่อไปก็เช่นกัน เราจะค่อยๆก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความรักและความกล้าหาญที่ได้รับมาจากทุกๆคน ... และพวกเราสี่คนก็จะช่วยผลักดันให้ทุกๆคนได้ก้าวไปได้เหมือนกัน..จากนี้ต่อไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ!!!

(เสียงเฮดังลั่นอีกครั้ง)

นาวี : มันมีความรู้สึกมากมายจุกอยู่ในอกเต็มไปหมดเลยครับ .. แต่คำนึงที่ยังไงก็อยากจะพูดให้ได้ก็คือ ..ทุกๆคนครับ..
ขอบคุณครับ  ขอบคุณมากก ขอบคุณจริงๆครับ!!
เพราะด้วยความอบอุ่นที่ได้รับมาจากทุกๆคน พวกเราถึงได้เดินมาถึงตรงจุดนี้ได้  ความรักที่ทุกๆคนมอบให้มา มันคือสิ่งที่คอยผลักดันให้พวกเราก้าวต่อไปได้ครับ...  พวกเราทั้งสี่คนจะค่อยๆเดินหน้าต่อไป  ผมอยากจะทำวง GReeeeN ต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ....ดังนั้นต้องขอความกรุณา...จากนี้ต่อไปก็ช่วยสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ!!

ฮิเดะ : พวกเราทุกคนต่างก็มีเส้นทางเดินของตัวเอง .. แล้วจากเส้นทางที่ต่างๆกันเหล่านั้น เรากลับได้มาบรรจบพบกัน  ได้ร่วมเดินไปด้วยกัน จนผ่านมาถึง 10 ปี .. จากนี้ต่อไป ผมก็อยากจะเดินร่วมไปกับทุกคนในเส้นทางสายนี้ต่อไปเรื่อยๆครับ
บางที..ทุกคนในที่นี่ก็คงเหมือนกัน ชีวิตคนเราต่างก็มีเส้นทางเดินของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป  ในระหว่างที่กำลังเดินทางนั้น ก็จะพบกับจุดตัดของเส้นทางกับคนอื่นๆบ้าง ได้พบเจอทางแยกที่ต้องเลือกเดินไปบ้าง ในเส้นทางของอนาคตนั้น.. ถ้ามีแสงแห่งความหวังหรือความฝันช่วยส่องลงมา ก็จะทำให้เลือกเดินเส้นทางที่ถูกที่ควรได้ดีขึ้น ...
พวกผมเอง อยากจะอย่างเคียงข้างและสร้างแสงแห่งความหวังให้ทุกๆคนครับ ในเวลาที่หลงทาง มองไม่เห็นว่าจะเดินไปทางไหนดี เดินผิดไปบ้าง อยากให้ทุกๆคนมองแสงสว่างแห่งความหวังตรงนี้..หันกลับมาแล้วก็ก้าวต่อไปครับ   ...

รบกวนทุกท่านชูนิ้วชี้ขึ้นมาหนึ่งนิ้วด้านหน้านะครับ

จากนี้ต่อๆไป ในถนนเส้นนี้ ...เรามาเดินต่อไปด้วยกันนะครับ

เสียงดนตรีเพลง michi ดังขึ้น พร้อมกับเสียงร้องที่ทรงพลังกว่าที่เคยฟัง

"ก้าวออกไป ครั้งหนึ่ง แม้เจ็บปวดไปบ้างคนเดียวก็ตาม"
"พอถึง สองครั้ง แม้ไม่ไหวยังไงก็ตาม"
"แต่พอ สามครั้ง ที่เธอนั้นได้พยายาม"
" 4 you ไม่เป็นไร เดินต่อไป สู้ต่อไป!!"

ไม่ว่าเป็นเวลาที่เจ็บปวดซักเท่าไร 
แม้ว่าแต่ละวันไม่ได้หยุดพักสักเท่าไร
มุ่งไปสู่พรุ่งนี้จากถนนที่เดินมา 
ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ที่ผ่านมา และ
ไม่ว่าช่วงเวลาแบบไหนก็ข้ามไป 
โดยไม่หลงลืมในเส้นทางที่มุ่งไป
เพราะวันเวลานั้นไม่อาจย้อนคืนกลับมา
คำตอบนั้นมองเห็นได้อยู่ข้างหน้า

แต่ละวันอะไรๆ ที่ไม่ได้เป็นไปอย่างใจ 
ความฝัน ที่ใครๆต่างหัวเราะเยาะเย้ยกันใหญ่
เผลอลืมตัว เลือกที่จะหยุดความฝันเอาไว้ 
ก้มหน้าไม่สนใจแล้วโกหกตัวเองเรื่อยไป
เอาแต่แก้ตัวหาข้ออ้างไม่ทำอะไร 
แล้วหลงลืมตัวเองว่าพยายามไปเพื่ออะไร
เป็นผู้ใหญ่ซะทีได้มั้ย พอโดนว่าเมื่อไร 
แต่ละวันที่เคยยอมแพ้มาจนวันนี้ผ่านมาเท่าไร

แต่ว่าเธอมองเห็นนั่นไหม ในหัวใจของตัวเธอเอง 
อนาคตที่ฝันเอาไว้ยังคงอยู่ในตัวเธอนั่นเอง
โอ้ย ไม่เป็นไร เธอต้องไปต่อได้แน่นอน 
ความหมายของชีวิตนั้นเธอจะพบมันได้แน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ใช้ชีวิตได้แค่ครั้งเดียว 
เส้นทางนี้มันถูกมั้ยก็ไม่มีใครรู้ซักคนเดียว
แต่นั่นแหละคือชีวิต! ที่ต้องก้าวดำเนินต่อไป 
เก็บความรู้สึกสำคัญเอาไว้แล้วมาร่วมก้าวร่วมเดินออกไป

ไม่ว่าจะเจ็บปวดมากมายซักเท่าไร  
แม้ไม่ได้พักเลยในหนทางที่ก้าวไป
มุ่งไปสู่พรุ่งนี้จากถนนที่เดินมา 
ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ที่ผ่านมา
ไม่ว่าช่วงเวลาแบบไหนก็ข้ามไป 
โดยไม่หลงลืมในเส้นทางที่มุ่งไป
ในช่วงเวลาที่ต่างจากใครๆ 
จะได้มองเห็นคำตอบนั้นขึ้นมา

พอลองมองย้อนไป ในเส้นทางที่ ได้เดินมา 
ได้เรียนรู้อะไรๆ จากความเจ็บปวดเหล่านั้นมั้ยล่ะ?
ถ้าหากว่า ยังไม่รู้เรื่องแบบนั้นน่ะ 
เส้นทางของเธอนี่นา ก็ค้นหามัน มองหาให้เจอ

ชีวิตเราก็ไม่ได้มีความสุขไปซะทุกวัน
บางวันก็จำเป็นต้องกัดฟันทนไปอยู่บ้างเหมือนกัน
แน่นอนถ้าเข้าใจมันได้แล้วน่ะ นั่นละจุดเริ่มต้น
ปลดโซ่ตรวนทิ้งไป แล้วเริ่มวิ่งออกไปข้างหน้า

แต่ว่าเธอมองเห็นนั่นไหม ในหัวใจของตัวเธอเอง 
อนาคตที่ฝันเอาไว้ยังคงอยู่ในตัวเธอนั่นเอง
โอ้ย ไม่เป็นไร เธอต้องไปต่อได้แน่นอน
ความหมายของชีวิตนั้นเธอจะพบมันได้แน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ใช้ชีวิตได้แค่ครั้งเดียว
 เส้นทางนี้มันถูกมั้ยก็ไม่มีใครรู้ซักคนเดียว
แต่นั่นแหละคือชีวิต! ที่ต้องก้าวดำเนินต่อไป 
เก็บความรู้สึกสำคัญเอาไว้แล้วมาร่วมก้าวร่วมเดินออกไป

ก้าวออกไป ครั้งหนึ่ง แม้จะต้องเจ็บปวดคนเดียวก็ตาม
แล้วพอ สองครั้ง แม้จะยืนไม่ไหวยังไงก็ตาม
แต่พอ สามครั้ง  ที่เธอนั้นได้พยายาม

4 you ไม่เป็นไร เดินหน้าไป สู้ต่อไป


บันทึก GReeeeN live 10 years aniversary @ Saitama Super Arena บันทึก GReeeeN live 10 years aniversary  @ Saitama Super Arena Reviewed by ITadmin on 22:14:00 Rating: 5

3 comments:

  1. อ่านแล้วอยากไปด้วยเลยล่ะค่ะ!! ฮือออ //_\\ แต่ละเพลงเป็นเพลงที่ชอบทั้งนั้นเลย! แล้วยังได้เจอหมอตัวจริงอีก! ถ้าได้ไปคอนด้วยคงมีสลบในงานอ่ะค่ะ555555 ถ้าเป็นไปได้อยากให้ตอนครบรอบ20ปีมีคอนอีกจังเลยน้า~ อยากให้หมอทำวงนี้ไปอีกนานๆเลยล่ะค่ะXD

    ReplyDelete
  2. พออ่านจบแล้วยิ่งตอกย้ำความเสียดายในครั้งนี้มากๆเลยค่ะ ทั้งเสียดายที่ไม่ได้ไปฟังเสียงกรีนจริงๆและเสียดายที่ไม่ได้ร่วมร้องเพลงไปพร้อมๆกับกรีนด้วย แต่ถึงจะไม่ได้ไปแต่ก็ยังมีแอดเขียนรีวิวมาให้ได้อ่านซึ่งอย่างน้อยๆก็ทำให้ได้เข้าใจความรู้สึกและความคิดของกรีนต่อมินนะมากขึ้น ถึงแม้จะเล็กน้อยแต่ก็ดีใจค่ะ แอดเขียนรีวิวได้ดีมากเลยค่ะ ยิ่งในช่วงหลัง(ที่กรีนตัวจริงมา)ก็ซึ้งมากๆจนน้ำตาผลอยไหลตามค่ะ มันคงเป็นความรู้สึกตื้นตันและดีใจที่อัดแน่นอยู่ภายในใจมาโดยตลอด โดยเฉพาะตอนที่พวกกรีนตัวจริงออกมา ที่โซซังพูดว่า "ผมอยากจะยืนอยู่บนเวทีแบบนี้มาตลอด.. เหตุผลก็เพราะว่า.. ผมมีคำๆนึงที่อยากพูดต่อหน้าทุกๆคน" มันบาดลึกในใจจริงๆค่ะ แค่คำสั้นๆอย่างคำขอบคุณจากกรีนนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่อยากได้ยินด้วยตัวเองมากๆค่ะ และการที่นาวิซังบอกว่า "มันมีความรู้สึกมากมายจุกอยู่ในอกเต็มไปหมดเลยครับ" ก็รู้สึกเข้าใจค่ะไม่รู้ทำไม แต่แค่รู้สึกว่าทางนี้เองก็มีความรู้สึกมากมายที่อยากจะบอกออกไปให้ฟังเหมือนกันค่ะ ความรู้สึกมากมายที่ก่อเกิดขึ้นมาจากการได้ฟังเพลงของพวกเขา แม้แต่คำขอบคุณสั้นๆที่บทเพลงเหล่านั้นช่วยผลักดันตัวเราให้ก้าวเดินต่อไปก็คงไม่มีวันได้บอกออกไปให้พวกเขาได้ยินด้วยตัวเองได้ แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้ก็อยากจะพยายามทำสิ่งที่ตนเองทำได้ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังและเพื่อจะได้ไปดูคอนเสิร์ตของกรีนได้อย่างเต็มภาคภูมิ(พร้อมๆกับแอด><) สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้นั่นก็คือ การขอบคุณแอด ขอบคุณสำหรับทุกๆสิ่งที่แอดทำให้กรีนมาโดยตลอด ทั้งการแปลเพลงแปลหนังสือและเรื่องทั้วๆไป จนทำให้ได้รู้จักกรีนมากขึ้นๆและชอบกรีนมากมาจนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่มีโอกาสได้ไปขอบคุณด้วยตัวเองแต่สักวันนึงในอนาคตจะต้องไปบอกด้วยตัวเองแน่ๆค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่เขียนรีวิวในครั้งนี้มาให้ได้อ่านกัน ชอบมากค่ะ

    ReplyDelete
  3. ฮือออ เม้นไม่ติด เอาใหม่ TvT

    ขอบคุณมากๆๆๆๆเลยค่ะ รออ่านรีวิวคอนนี้อยู่ แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย รู้สึกดีจริงๆ นี่ก็ลุ้นรอตอนคุณหมอตัวจริงจะออกมา เขียนได้อารมณ์มากค่ะ ชอบๆ 555 แอบน้ำตาซึม.. คือรอจะเห็นหน้าจนตอนนี้ไม่อยากเห็นแล้ว 5555 แต่ขอให้เป็นกรีนอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ หวังว่าซักวันจะได้มีโอกาสฟังเสียงร้องสดๆบ้าง ชอบคำพูดของฮิเดะจัง แบบ...ฟังดูเป็น นี่ล่ะ คนแต่งเพลงของกรีน! ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆนะคะ ^^

    ReplyDelete