GReeeeN คือ??

บทเพลงของหมอพันอารมณ์ดี ดนตรี Feel Good!

Sorette kiseki -บทที่ 3.3 ชีวิตความเป็นอยู่ในโตเกียว

บทที่ 3.3

ชีวิตความเป็นอยู่ในโตเกียว



นอกจากพี่ชายของตัวเอง  บางครั้งฮิเดะก็ได้พูดคุยเรื่องดนตรีกับเพื่อนเก่าๆบ้างเหมือนกัน
โดยเฉพาะเวลาที่เพื่อนๆเข้ามาโตเกียว ฮิเดะก็จะนัดเจอกันเสมอ

เนื่องจากเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ ในสัปดาห์หนึ่ง ส่วนใหญ่ก็จะมี 1-2 ครั้งที่มีโอกาสได้นัดเจอเพื่อนๆที่เข้ามาทำธุระในโตเกียว  ไปดื่มชาบ้าง ไปคาราโอเกะบ้าง พูดคุยเรื่องดนตรีบ้าง

และหนึ่งในเพื่อนที่ได้เจอกันบ่อยที่สุดก็คือ นัทสึโกะ สาวน้อยที่เคยทำใบปลิวให้วง two phatooon  ของฮิเดะนั่นเอง

"ชั้นว่าจะเป็นกราฟฟิค ดีไซน์เนอร์หล่ะ"  นัทสึโกะพูดอย่างร่าเริง
"เอ๋..... จริงเหรอ  เหมาะมากเลย"
" คิดถึงตอนที่ทำวง two phatooon เนอะ  ตอนนั้นสุดยอดมากเลย"
" สนุกดีเนอะ"

เพื่อทำตามความฝันนั้น  นัทสึโกะจึงได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนวิชาชีพแห่งหนึ่งแถวๆเอบิสึ (เป็นย่านหนึ่งในโตเกียวค่ะ) ทำให้ได้มีโอกาสนัดเจอกับฮิเดะบ่อยๆ  

ถึงจะมาอยู่โตเกียวคนเดียว  ฮิเดะก็ไม่ได้เหงาเลย

แต่ยังไงก็ตาม  การหาเพื่อนทำวงในโตเกียวก็เป็นเรื่องยากจริงๆ
ฮิเดะเลยหันไปหาสิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องของ "แฟชั่น"

ใกล้ๆกับโรงเรียน มีร้านขายเสื้อผ้าสไตล์อเมริกัน อยู่ร้านหนึ่ง ด้วยความที่เป็นคนชอบเสื้อผ้าสไตล์นั้นอยู่แล้ว ฮิเดะเลยไปเข้าๆออกๆที่ร้านประจำจนสนิทกับพี่สาวที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของร้าน จนถึงขนาดแนะนำเรื่องดิสเพลย์เสื้อผ้าในร้านว่าน่าจะอย่างนั้นอย่างนี้

"นายนี่ชอบเรื่องเสื้อผ้าจริงๆนะ  เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับแฟนพี่ดีกว่า"
"เอ๋!?"

แฟนของพี่สาวเจ้าของร้านคนนั้น เป็นมือโปรด้านเสื้อผ้า เจ้าของแบรนด์ BEAMS 
พอได้แนะนำตัวเองกับแฟนของเจ้าของร้าน ก็คุยกันได้อย่างถูกคอ และสนิทกันได้ทันที

"นายนี่จบม.ปลายจากโคจิสินะ! "
"ครับ ทั้งม.ต้น ม.ปลาย เรียนที่โคจิตลอด 6 ปีเลยครับ"
"บ้านเกิดชั้นก็อยู่ที่โคจิเหมือนกัน!"
"เอ๋!?"

ทั้งสองคนคุยกันอย่างถูกคอราวกับรุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่รู้จักกันมานาน ทั้งเรื่องของเสื้อผ้า แฟชั่นใหม่ๆ และเรื่องราวต่างๆในโคจิ ทุกเรื่องสามารถพูดคุยได้อย่างลื่นไหลไปหมด

หลังจากนั้น เจ้าของร้านก็ได้แนะนำให้ฮิเดะได้รู้จักกับร้านขายเสื้อผ้ามือสองมากมายที่มีอยู่ในชินจูกุ 
เวลาว่างๆ ฮิเดะเลยมักจะไปเที่ยวเล่นที่ร้านเหล่านั้นอยู่บ่อยๆจนสนิทกับเจ้าของร้านหลายๆคน

ในโรงเรียนกวดวิชา หลังจากที่เข้าไปเช็คชื่อลงเวลาเรียนแล้ว ฮิเดะก็มักจะวางกระเป๋าทิ้งไว้แบบนั้น แล้วเดินไปเที่ยวเล่นในร้านขายเสื้อผ้าเหล่านั้นเสมอๆ แต่ปกติฮิเดะไม่ชอบใส่เสื้อผ้ามือสอง เลยได้แต่ไปเที่ยวเล่นเดินดูของในร้านเท่านั้นเอง

"เฮ้ย! นี่นายซื้อของใหม่ใส่อีกแล้วเหรอ"
เจ้าของร้านขายเสื้อผ้ามือสองแซว

"ก็แบบ... ผมชอบของใหม่ๆมากกว่าอ่า"
ฮิเดะตอบพร้อมยิ้มแหะๆ 

ชีวิตในโตเกียวที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งความสนุกสนาน 
ไปเที่ยวเล่นบ้านจิน คุยเรื่องเพลงบ้าง
ไปฟังเพลงใหม่ๆที่ทาวเวอร์เรคคอร์ดบ้าง
นัดเจอกับเพื่อนเก่าบ้าง
ไปเดินเล่นร้านขายเสื้อผ้าบ้าง

เผลอแป๊บเดียว เวลาก็ผ่านไปหนึ่งปี

เทศกาลสอบเอนทรานซ์เวียนมาอีกครั้ง

ฮิเดะไม่ได้ใส่ใจกับการเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาเลยซักนิด 
อนาคตของตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าอยากเป็นหมอจริงๆรึเปล่า 
ถ้าให้พูดตรงๆละก็ ไม่มีแรงจูงใจอะไรให้อ่านหนังสือเพื่อสอบเข้าหมอเล้ยย

ตรงกันข้าม  ยิ่งได้ข้องเกี่ยวกับวงการเสื้อผ้า แฟชั่นมากขึ้น ก็ยิ่งมั่นใจในตัวเองว่า

"ชั้นนี่ชอบเรื่องแฟชั่นจริงๆหล่ะ"

ถ้าเทียบกับการเรียนแพทย์แล้ว....ถึงแม้จะซื้อหนังสือเตรียมสอบมาเยอะแค่ไหน มันก็เป็นได้แค่เครื่องประดับตรงกำแพงห้องเท่านั้นเอง  ไม่มีอารมณ์จะเปิดอ่านเลยซักนิดเดียว 
เรียกได้ว่าเป็นเด็กผุ้ชายที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องเรียนต่ออย่างจริงจังเลยซักนิด

ตอนที่เรียน ม. 6 อยู่ที่โคจิก็เหมือนกัน ฮิเดะเลือกสอบเค้ามหาลัยเดียวเท่านั้น เพราะไม่รู้มาก่อนว่า สามารถเลือกสอบเข้าหลายๆมหาลัยได้ถ้าวันสอบไม่ตรงกัน

"ชั้นสมัครสอบไป 3 ที่แล้วหล่ะ  นายสมัครไปกี่ที่"

เพื่อนร่วมห้องที่โรงเรียนกวดวิชาพูดขึ้น ฮิเดะถึงกับตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน

"เอ๋!! 3 ที่!! หมายความว่าไง!?"
"ก็สมัครสอบไป 3 คณะแล้วไง"
"สมัครทีเดียว 3 คณะได้ด้วยเหรอ!? O_O!!?"
"อะไรของนาย เรื่องแค่นี้ไม่รู้เหรอ"
" นี่มันเรื่องปกตินะ ใครๆก็ทำทั้งนั้น  นายนั่นแหละทำไมสมัครไปแค่ที่เดียวล่ะ "
" ชั้นไม่เห็นรู้เลยว่า สมัครสอบกี่ที่ก็ได้..."
" หา....???"

ชีวิตของนักเรียนเตรียมสอบ มันเป็นเรื่องยากลำบากแบบนั้นแหละ 
ทุกคนอยากจะเข้ามหาลัยดีๆ อยากมีอนาคตดีๆ ก็เลยต้องพยายามอย่างหนักกันทั้งนั้น 
แต่เรื่องเหล่านั้นเป็นอะไรที่ไม่ได้อยู่ในหัวฮิเดะเลยซักนิด

ถ้าให้พูดกันตรงๆก็คือ ที่ฮิเดะสมัครเข้าสอบแพทย์ ก็เพราะพ่อแม่อยากให้สอบเข้าทางด้านนี้ 
..มันก็เท่านั้นแหละ

ยิ่งอยู่ในโลกของการอ่านหนังสือสอบมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอยากทำงานด้านแฟชั่นมากกว่าจะเป็นแพทย์มากขึ้นเท่านั้น

ทั้งที่ไม่ได้อยากจะลงสอบ  แต่ก็จำเป็นต้องลงตามเพื่อนๆไป เพราะการสอบเข้าแพทย์ให้ได้  นั่นคือเหตุผลเดียวที่ทำให้ตัวเองเข้ามาเรียนในโตเกียวได้

ในหนึ่งปีจะมีการสอบสองครั้ง
สอบครั้งแรก ฮิเดะสมัครสอบไป 3 ที่ และสอบตกหมดทุกที่
สอบครั้งที่สอง  ฮิเดะสมัครสอบไป 4 ที่  และก็สอบตกหมดทุกที่อีกครั้ง
ปีต่อมา สอบครั้งที่ 3 ก็ยังไม่ผ่าน

" ชั้นจะยอมให้ถึงแค่สามครั้งนี้เท่านั้นนะ"  เสียงที่เฉียบขาดของคุณพ่อดังผ่านโทรศัพท์มือถือ
(ว่าแล้ววววว)  ฮิเดะคิดในใจ

"ถ้าโง่ถึงขนาดสอบตกแล้วตกอีกขนาดนี้ละก็ ไม่มีปัญญาไปเรียนหมอได้หรอก  ไปเป็นนักดับเพลิงหรือไม่ก็ตำรวจซะเถอะ"

ช่วงวันหยุดฤดูร้อน ฮิเดะต้องกลับบ้านที่เกียวโต ... 
ทั้งที่อยากจะบอกพ่อไปตรงๆว่าอยากทำงานด้านแฟชั่นเสื้อผ้า..แต่ก็ไม่กล้าปริปากพูดออกไป

"แกน่ะ เสียเงิน เสียเวลาไปกับเรื่องเสื้อผ้ามากเกินไปแล้วรึเปล่า"

นั่นไง!! ยังไม่ทันพูดอะไรก็โดนดักคอซะแล้ว ) ฮิเดะคิดในใจ.. 
"อ่า..ครับ"

โอ้ยยย  ...ถึงยังไงก็ไม่กล้าพูดมากไปกว่านี้อยู่ดี

เวลาผ่านไป  การสอบรอบที่สี่เริ่มใกล้เข้ามา

"ซวยๆๆๆ อุตส่าห์ได้รับการให้อภัยมาตั้ง 3 รอบ ชั้นก็ยังไม่ได้มีอารมณ์จะตั้งใจเรียนขึ้นมาซักนิดเลย"

ยิ่งใกล้ถึงวันสอบเท่าไหร่ ฮิเดะก็ยิ่งว้าวุ่นใจเข้าไปทุกที....
อนาคตของตัวเอง...จะเอายังไงดีนะ?














Sorette kiseki -บทที่ 3.3 ชีวิตความเป็นอยู่ในโตเกียว Sorette kiseki -บทที่ 3.3 ชีวิตความเป็นอยู่ในโตเกียว Reviewed by ITadmin on 22:44:00 Rating: 5

No comments: