#GReeeeNthaifan, #kisekimovie, #GReeeeN มาเล่น tag กันเถอะ

#GReeeeNthaifan, #kisekimovie, #GReeeeN 

มาเล่น tag กันเถอะ

สืบเนื่องจากหนัง Kiseki A no hi no Sobito จะได้เข้าฉายที่ไทย  เราก็เลยได้จัดกิจกรรมเล่นเกมส์ tag แจกของเล็กๆน้อยๆ .. เป็นหนังสือไลท์โนเวลของหนังเรื่องนี้แหละ

ตอนประกาศไปก็คิดเหมือนกันว่า จะมีคนบ้าเล่นกะเราปะวะ
ก็กะว่า ..
เออ ไม่เป็นไร  เดี๋ยวถ้าคนเล่นน้อย ซัก 4-5 คนงี้ จะหาของมาแจกทุกคนเลยยยย
(มักน้อย คิดในแง่ร้ายไว้ก่อนละ ฮ่าๆ)

อ่าว ปรากฎว่ามีคนบ้าจี้ตามเราเยอะแฮะ
ดีใจมากค่ะ
ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

ยอดแชร์ facebook = 19 (แต่บางคนก็แชร์เฉยๆ ไม่ได้เขียนอะไรอะนะ)
ทวิตเตอร์ มีคนรวมเล่นประมาณ สิบคนได้ (นับคร่าวๆ ถ้าผิดก็ขออภัย)

ได้อ่านเรื่องราวของหลายๆคน สนุกมากค่ะ
ตอนแรกว่าจะประกาศแค่ชื่อคนที่เขียนถูกใจเราเฉยๆ
แต่ก้ออยากให้คนอื่นๆได้อ่านกันด้วย เลยเวิ่นเว้อมาเป็นบทความนี้

ตรงไหนที่เราอ่านแล้วคิดว่า..ชอบจัง... จะขีดเส้นใต้ไว้นะคะ ^^
คนที่ไม่ได้รางวัลก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปนะคะ ไว้โอกาสหน้าเรามาเล่นกันใหม่
รักทุกคนค่ะ ยิ้มไว้นะคะ

รางวัลชมเชย .. มี 3 คนนะคะ
ของรางวัลอันนี้เป็นความลับทางราชการ ไปลุ้นกันเอาเองค่ะ.........(จริงๆแล้วยังไม่ได้คิด)
อ่อ เป็นของเล็กๆน้อยๆ นะคะ ไม่ใช่บ้านพร้อมที่ดินอะไรแบบนั้น อย่าคาดหวังเยอะ
แล้วก็ไม่ใช่ของแพงๆด้วยค่ะ แอดมินเบี้ยน้อยหอยน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัดนะคะ

1. Facebook Account : Lith Athiwen

คิดหนักมากว่าจะเขียนอะไรถึงจะทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักกรีนมาก่อนอยากรู้จักหมอๆ ขึ้นมาได้
คิดจนจะหมดเขตร่วมสนุกก็ยังคิดไม่ออก เอาเป็นว่าเล่าเรื่องตัวเองแล้วกัน 555 //เล่นง่ายไปมั้ย

ความจริงเราเป็นพวกฟังเพลงแบบไม่ค่อยสนใจศิลปิน คือถ้าเจอเพลงไหนน่าสนใจก็จะโยนๆ ใส่เพลย์ลิสต์ของตัวเองไว้ เวลาทำงานก็จะเปิดฟังไปเรื่อยๆ จนบางทีจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเพลงไหนเป็นของใคร เพลงของกรีนที่ได้ฟังเพลงแรกก็ Kiseki จำได้ว่าสะดุดหูจนไปดูชื่อนักร้อง แต่ก็ยังไม่ได้อะไรมาก

จนกระทั่งปี 2010 เราไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น แล้วที่ที่เราทำงานพิเศษเปิดเพลงซ้ำๆแต่มีเพลงเพลงนึงที่ฟังแล้วติดหูเป็นพิเศษ เราก็มาเสิร์ชหาชื่อเพลงทีหลัง แล้วก็รู้ว่าเพลงนั้น (Haruka) เป็นของวงกรีนเหมือน Kiseki นี่นา หลังจากนั้นเลยไล่ฟังเพลงเก่าๆ เสิร์ชหาข้อมูลของวง ก็เลยมาสะดุดตรงที่เป็นวงที่ไม่เปิดเผยหน้าตาเพราะเป็นหมอฟัน

จะว่ายังไงดี...เหมือนมันกระทบความรู้สึกบางอย่างในตัวเรา เพราะเนื้อเพลง
Haruka เหมือนกับหลายๆ อย่างที่เราทำอยู่ตอนนั้น ซึ่งถ้าเทียบกับหมอๆ แล้วสิ่งที่เราทำอยู่มันง่ายกว่ามากๆ ก็เลยมีแรงฮึดขึ้นอีกเยอะ เรียกว่าวงกรีนสร้างทั้งกำลังใจแล้วก็แรงผลักดันให้เราในเวลาเดียวกัน

จนกระทั่งเรียนจบกลับมาทำงานทำการเพลงของกรีนก็ยังอยู่ในเพลย์ลิสต์เสมอ ล่าสุดก็เพลงHajimari no Uta ที่ทำเราน้ำตาแตกทุกครั้งที่ดู PV เพราะนึกถึงโรงเรียนที่เราไปเรียนภาษาตอนนั้น เรียกว่าฟังเพลงนี้ทีไรเห็นภาพที่โรงเรียนเป็นฉากๆ ทุกครั้ง คิดถึงงงงงงงงง

เวิ่นเว้อมายาวยืด สรุปว่าเพลงของกรีนถูกจริตคนโลกสวยอย่างเรา 555 เป็นวงแรกและวงเดียวที่ทำให้มนุษย์ฮิคิเรากดติดตามเพจแฟนคลับแล้วคุยกับแฟนเพลงคนอื่นได้ทั้งที่ไม่รู้จักหน้าค่าตาได้ หมอเก่งมากค่ะ บอกเลย!

ป.ล. สำหรับคนที่เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น เพลงของหมอๆ ฟังค่อนข้างง่าย ฟังแล้วจะรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นอีกสิบหน่วยที่ฟังออกด้วยนะเออ #greeeenthaifan #GReeeeN#kisekimovie

2. Facebook Account :Deah Luo

ย้อนไปเมื่อหลาย ๆๆ ปีก่อน เราได้ดูเรื่อง Rookie นอกจากเนื้อเรื่อง คนแสดง เราก็ชอบเพลงประกอบในเรื่อง ความหมายดีจัง แต่นั่นก็เป็นปกติใช่ไหมล่ะ เวลาคนเราดูละคร หรือภาพยนตร์ชอบเรื่องไหน ก็คงจะชอบเพลงประกอบของเรื่องนั้นไปด้วยจริงไหม

แล้วเวลาก็ผ่านไปเราก็ยุ่งอยู่กับการเรียนหนังสือ ฝึกงาน เรียน ป.โท หางานทำ ค่อย ๆ ลืมเรื่องนี้ ลืมไปพร้อม ๆ กับที่ว่าตัวเองมีความฝันอะไร อยากทำอะไร... จนวันหนึ่ง เราไปนั่งกินราเมงในฮาจิบังคนเดียว ระหว่างกินหมี่เย็น (แบบเพิ่มเส้นด้วย) ร้านก็เปิดเพลงนั้น เพลงที่เราเคยได้ยินเมื่อหลายปีก่อน แล้วก็ทำให้นึกถึงเรื่อง Rookie จู่ ๆ น้ำตามันก็จะไหล แต่ไม่ได้สิ ต้องคีพลุค จะมาร้องไห้ต่อหน้าหมี่เย็นไม่ได้นะ เรากลั้นใจกินหมี่เย็นจนหมดแล้วกลับหอพักโดยที่มีทำนองเพลงนั้นเล่นคลออยู่ในหัว

หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน ก็มีคนทวิตกระทู้นึงในพันทิป ชื่อประมาณ คอนเสิร์ตของหมอฟันที่ไม่เปิดเผยหน้าตามาตลอด 10 ปี เรากดเข้าไปอ่านเพราะชื่อเรื่องน่าสนใจ แล้วก็พบว่า เฮ้ย!!! นี่มันวงที่ร้องเพลงนั้นนี่นา (555++ ที่จริงถ้าไปเสิร์จในกูเกิ้ลก็เจอแล้วเหอะว่าใครร้อง) เราเลยหาเรื่องของวงนี้อ่าน เป็นครั้งแรกที่เรารู้จักว่าพวกเขาคือใคร หลังจากได้ฟังเพลงของพวกเขาเมื่อ 7 ปีก่อน แล้วก็เลยโหลดเพลงใน iTunes แล้วเปิดฟังมันซ้ำ ๆ ซ้ำ ๆ ...

ตอนอยู่คนเดียวมันไม่ได้เหงาหรอก แต่มันแค่เศร้ามาก ๆ ตอนที่เวลากลับจากทำงาน อยากอ้อนแม่เวลาเหนื่อย ๆ อยากกอดหมาขนฟู ๆ ขาสั้น ๆ ที่บ้าน อยากขย้ำพุงแมวที่ชอบเดินหนีเวลาเห็นหน้า แต่เวลาฟังเพลงของกรีนแล้วเรารู้สึกว่าไม่ได้อยู่แค่คนเดียวในโลก (เอ๊ะ! หรือว่าจริง ๆ แล้วเราเหงา...)

เราชอบฟังเพลงของกรีนนะ เหมือนมีคนตบหลังปุปุ แล้วพูดว่า “วันนี้สู้ได้ดีมาก” เหมือนมีคนถามว่า “ความฝันของนายคืออะไร? แล้วนายจะทำอะไรต่อไป?” เหมือนมีคนบอกว่า “ฉันจะคอยอยู่ข้างเธอนะ” ฟังแล้วก็ยิ้มได้ แม้บางทีจะยิ้มทั้งน้ำตา หรือยิ้มออกหลังปาดน้ำตาไปแล้ว แต่ก็จะยิ้มได้จริง ๆ …

#greeeenthaifan #GReeeeN #kisekimovie

(ยาวไปไหมเนี่ย ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนยาว ๆ เลย แถมอ่านดูเหมือนไม่ได้ช่วยให้ชวนเพื่อนเกรียนฟังเพลงกรีนเลยด้วย 555++)

3. Twitter Account :@MIRpeak

เข้าไปอ่านกันได้ที่นีค่ะ : 

**อันนี้โดนใจเพราะอุตส่าห์ทำบล็อกมาใหม่เพื่องานนี้ .. เราขอคารวะท่านหนึ่งจอก

http://aroundme07.blogspot.com/2017/04/greeeen-greeeen.html

รางวัลที่ 3 .. 

ของรางวัลอันนี้..เพิ่มขึ้นมาเพราะอยากให้ค่ะ   จะเป็นอะไรก็ไปลุ้นกันเองจ้ะ 55

Facebook account  : Primmy Kanjanathawat 

คิดว่าคนเราจะสามารถตกหลุมรักศิลปินกลุ่มนึงมาเกือบ10ปี
โดยที่ไม่เคยเห็นหน้าตาเค้าเลยได้จริงมั๊ย?

Greeeen คือศิลปินของญี่ปุ่นที่เรารักที่สุด♥
รู้จักเพลงเค้าครั้งแรกตอนม.4
มาถึงตอนนี้ก็7ปีแล้ว ความรู้สึกชอบก็ยังคงเท่าเดิม

Greeeen คือวงดนตรีที่ประกอบด้วยสมาชิก4คน
ซึ่งเป็นคุณหมอฟันทั้งหมด
ด้วยต้องทำอาชีพคุณหมอคู่กับร้องเพลง
เลยไม่สามารถเปิดเผยหน้าตาได้
นั่นหมายความว่าการที่เค้าจะเข้าถึงใจคนฟังได้
ต้องมาจากงานเพลงล้วนๆ
ลองคิดเล่นๆอย่างรายการ The Mask Singer ที่ฮิตๆตอนนี้
ไม่เห็นหน้าไม่กี่เดือนยังอยากรู้ใจจะขาด
แต่นี่เราไม่เคยเห็นหน้าศิลปินที่ชอบมาเกือบ10ปีอ่ะ5555

ก็ต้องยอมรับกันแหละว่า ศิลปินที่เราชื่นชอบหลายๆคน
เราชอบเพลงเค้าก็ส่วนนึง แต่บางทีก็รวมหน้าตาด้วย
บางครั้งก็รวมบุคลิกนิสัยด้วย
แต่สำหรับวงนี้ สิ่งเดียวที่เค้าจะแสดงออกมาได้
คือเสียงเพลงและเนื้อร้องที่แสดงทัศนคติต่อชีวิตของเค้าเท่านั้น
และแค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เราชอบเค้ามาอย่างยาวนานจริงๆ

เพลงของคุณหมอส่วนใหญ่จะเป็นเพลงให้กำลังใจ
เพลงรักก็เป็นเพลงรักที่เนื้อหาลึกซึ้งจริงใจ
เพลงจากลาก็เป็นการจากลาเพื่อเริ่มต้นใหม่
เรียกได้ว่าเป็นเนื้อเพลงฟีลกู๊ด เพื่อชีวิตทั้งนั้นเลย
เนื้อเพลงเปรียบกับวงไทยก็จะแนวๆ Bodyslam ,Ebola งี้
ฟังแล้วมีกำลังใจ เกิน10เพลงอ่ะที่อ่านเนื้อแล้วน้ำตาคลอ

เพลงที่ชอบเนื้อหาที่สุดมีหลายเพลงมาก
Haruka,Itoshi Kimi e,Mikansen ,Kiseki, Sakura Color

https://www.facebook.com/GReeeenThaiFanclub/videos/10151566289669149/

และอีกหลายเพลงไล่ไปไม่หมดง่ายๆ
แต่เพลงที่ฟังวนลูปซ้ำไปซ้ำมาบ่อยที่สุดคือ Tabidachi

https://www.facebook.com/GReeeenThaiFanclub/videos/512221005566954/

นี่เป็นคนชอบเพลงที่จากลาแบบเด็ดขาดเข้มแข็งอ่ะ
แบบถึงต้องจากกันก็ไม่เป็นไร
เพราะความรักที่เคยได้รับที่ผ่านมามันมากพอ
แล้วเพลงจากลาของคุณหมอจะแนวนี้หมดเลยฟังแล้วมีกำลังใจ
นอกจากจะทำงานเพลงของตัวเอง ก็ยังแต่งเพลง
ให้กับไอดอลดังๆอย่าง AAA , News ด้วย

ยอมรับเมื่อก่อนนี่อยากเห็นหน้าใจจะขาดแต่ตอนนี้ปลงแล้ว555
ขอแค่คุณหมอยังร้องเพลงให้ฟังต่อไปเรื่อยๆก็พอ♥
(แต่ถ้าครบรอบ20ปีหมอจะใกล้เกษียณยัง ก็ขึ้นคอนแบบเปิดเผยหน้าตาก็ดีนะหมอนะ5555)

ขอบคุณเพจ GReeeeN Thai Fanclub
ที่ทั้งแปลเพลง แปลหนังสือ บทความ
ทำให้เราได้รู้จักทั้งตัวคุณหมอ
และเนื้อหาเพลงอย่างลึกซึ้งมาตลอด
ส่วนนึงเป็นเพราะเพจนี้เลยที่ทำให้ติดตามGreeeenมานานขนาดนี้
//ขอแปะรูปคำแปลเพลงที่ชอบมากๆ 

รางวัลที่ 2 .. CD single : Sakura color

Twitter Account :@zhesszapandora 

** ขออนุญาติไม่ก๊อบมานะคะ เพราะมันเยอะมากกกก**

ถ้าลองค้นหา tag : #greeenthaifan น่าจะเจอได้ไม่ยาก ตามอ่านได้เลยค่ะ 

อันนี้เราขอมอบรางวัลให้ เพราะประทับใจในความพยายามโพสหลายอัน และหลายวันมากๆๆๆๆๆ ชอบมากค่ะ เราตามอ่านหมดนะ อยากให้กำลังใจด้วย เอาซีดีหมอไปกอดนอนฝันอีกหนึ่งอันนะคะ จุ๊บๆ

รางวัลที่ 1 .. หนังสือ Kiseki ano hi  no Sobito

เราชอบทุกประโยคเลยค่ะ อ่านแล้วซึ๊งมากอะ 

ขอมอบรางวัลเป็นกำลังใจให้นะคะ  ทำดีแล้ว สู้ต่อไปนะคะ 

ถึงจะไม่รู้จักเป้นการส่วนตัว แต่ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ 

(ขอให้กำลังใจ แม้คุณจะไม่ต้องการก็ตาม 5555 จุ๊บๆๆ )

Facebook Account :Crpl Knight 

ก่อนหน้าที่จะได้รู้จัก Greeeen
คิดอยู่เสมอว่าหากได้ทำสิ่งที่ชอบแล้ว
ไม่ว่าจะต้องทนลำบากหรือต้องเจอกับอะไรก็ยอมได้ทั้งนั้น
นั่นเป็นเพราะ ต้องการหาข้ออ้างในการใช้ชีวิตอย่างสบาย
กับการได้ทำในสิ่งที่ตนชอบ
และไม่ต้องอดทนทำสิ่งที่ไม่ชอบ
คิดแบบนั้นเรื่อยมา
จนกระทั่งได้พบกับ Greeeen และบทเพลงของพวกเขา

"ในแต่ละวันที่อะไรๆไม่ได้เป็นไปอย่างใจนึก
ความฝันที่ใครๆต่างพากันหัวเราะเยาะ
เผลอหลงลืม และเลือกที่จะหยุดมันไว้แค่นั้น
ก้มหน้าก้มตาทำเป็นไม่สนใจแล้วโกหกตัวเองเรื่อยไป"

เพลง michi เป็นเพลงแรกของGreeeenที่ได้ตั้งใจฟังอย่างจริงจัง
ในช่วงเวลาที่กำลังรู้สึกย่ำแย่ ท้อแท้ และหมดหวัง
จึงได้กลายเป็นเพลงที่ชอบที่สุดในตอนนี้
หากจะบอกว่าเป็นคิเสะคิ(ปาฏิหาริย์)
ที่นักแสดงที่ชื่นชอบได้มาเล่นหนังเรื่องนี้
ก็ดูเหมือนจะเว่อร์จนเกินไป
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นทำให้ได้มาเจอกับ Greeeen จริงๆ
ด้วยคำที่ตรงไปตรงมา แต่กลับเสียดแทงเข้าไปในใจนั้น
นั่นคือเพลงของ Greeeen
ซึ่งทำให้รู้สึกว่า "ก็มีคนที่เป็นแบบนี้เหมือนกันสินะ"
มีคนที่เข้าใจเราอยู่
แถมเรื่องของเราดูเล็กไปเลย เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ
อย่างเรื่องราวของ Greeeen นั้น
หลายคนคงรู้จักในนามกลุ่มนักร้องชาย 4คน
ที่ไม่เปิดเผยหน้าตามาตลอด10 ปี
และที่สำคัญพวกเขายังเป็นทันตแพทย์อีกด้วย
พวกเขาทำอาชีพทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ยังไงนะ?
ทั้งๆที่ชอบดนตรีขนาดนั้น
แต่กลับอดทนต่อการเรียนวิชายากๆได้ยังไงกัน
พวกเขาคงผ่านเรื่องราวมาเยอะแยะมากมายแน่ๆ
แต่พวกเขาก็ได้บอกผ่านบทเพลงมาว่า
"ถึงแม้จะเจออุปสรรคมากมาย ทั้งดีและร้าย
แต่ทุกอย่างต่างหลอมรวมให้เป็นพวกเขาในวันนี้"
พอได้รู้แบบนั้นก็ทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เราเจอในแต่วัน
ถึงบางครั้งต้องเจอกับอะไรที่ไม่ชอบ
ก็ต้องอดทนทำมันไปบ้าง
เพราะทุกอย่างนั้นจะทำให้เป็นตัวเราในอนาคต
แค่ไม่ลืมเป้าหมายก็เป็นพอ

บางครั้งเคยรู้สึกท้อแท้ ลังเลและสับสนมากมาย
ถึงขนาดเคยเลิกคิดที่จะไล่ตามความฝัน
"ความฝัน"ที่ซึ่งทั้งชีวิตนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำให้เป็นจริงได้หรือเปล่า
หากก้าวไปทางนั้นจริงๆจะสำเร็จจริงๆหรอ
ความรู้สึกอัดอั้นมากมายที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
บางครั้งอาจทำให้ไม่สามารถพูดให้ออกไปได้
แต่เมื่อได้รับรู้เรื่องของGreeeenและจินซัง(โปรดิวเซอร์)
ที่ได้อ่านจากเพจ GReeeeN Thai Fanclub เพิ่มขึ้นๆ
ความรู้สึกทุกครั้งที่ฟังเพลงกรีนก็ได้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ทุกคำ ทุกประโยค
 ไม่ได้เป็นถ้อยคำที่ร้องออกมาลอยๆ
ที่ทำเหมือนปลอบใจคนไปเท่านั้น
แต่มันคือความจริงที่พวกเขาได้เคยเผชิญกันมา
ดังนั้นเพลงของ Greeeen จึงช่วยผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าได้
แม้จะยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไรก็ตาม
ทุกๆครั้งที่ท้อแท้หรือเจอเรื่องย่ำแย่แค่ไหนในแต่ละวันพอได้กลับไปฟังเพลงของกรีนก็จะทำให้คิดขึ้นได้ว่า
"สิ่งที่เราเจอน่ะมันยังไม่เท่าไหร่เลยนะ"
มีคนมากมายที่เจอเรื่องเลวร้ายมากกว่าเราเป็นหลายเท่าๆๆๆ
ดังนั้นจึงได้เสียงเพลงของGreeeen คอยช่วยไว้เสมอๆ
จนได้กลายเป็นเครื่องเตือนใจชิ้นสำคัญอย่างนึงของฉันไปเลยล่ะ

แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้มี Greeeen ในทุกวันนี้
คิดว่าอาจเป็นเพราะคิเสะคิ (ปาฏิหาริย์)
คิเสะคิที่ทำให้พวกเขาทั้งห้าคน(รวมจินซังด้วย)
หลงรักในเสียงดนตรี
และคิเสะคิที่ทำให้พวกเขาได้มาพบกัน

เพราะคิเสะคิของ Greeeen
จึงทำให้เกิดคิเสะคิในใจของฉัน
คิเสะคิที่จะนำพาให้ตัวเองก้าวต่อไป
และทำความฝันให้เป็นจริง

แล้วทุกๆคนเชื่อในคิเสะคิกันหรือเปล่า ?
แต่เชื่อว่าหากคุณได้รับรู้เรื่องราวของพวกเขา
มันจะต้องมีบางอย่างเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
ทั้งเรื่องที่สามารถทำความฝันทั้งสองอย่างให้เป็นจริงได้
รวมถึงเสียงเพลงของพวกเขาที่คุณฟังก็จะเปลี่ยนไปด้วย
ดังนั้นจงไปตามหาความฝันและคิเสะคิ(ปาฏิหาริย์)ในใจของทุกคนได้
ในภาพยนต์เรื่อง kiseki ano hi no sobito 15 มิถุนายน นี้กันเถอะะ!!!!
#greeeenthaifan #GReeeeN #kisekimovie
ปล.วิดีโอนี้เป็นเพียงส่วงหนึ่งของภาพยนต์ เพลง michi
ขอบคุณคำแปลโดย แอดเพจ GReeeeN Thai Fanclub
ปล.2 ลองอ่านอีกรอบแล้วได้ตระหนักว่าเขียนคำว่า ปาฏิหาริย์ผิดค่ะ รีบมาก ต้องขออภัยไว้ที่นี้ด้วยค่า

--------------------------------------------

หลังจากได้อ่านเรื่องราวของทุกคน .. ก็เกิดความรู้สึกอยากจะแชร์เรื่องของตัวเองบ้างเหมือนกันน๊า

แต่แค่จะเริ่มเขียน .. ก็คิดได้ว่า ..แม่งต้องยาวแน่ๆ 

ขี้เกียจ... -*-

แต่อีกใจนึงก็คิดว่า... เราอ่านเรื่องของคนอื่น ยังได้กำลังใจเลย

คนอื่นอ่านเรื่องของเรา อาจจะได้อะไรบ้างก็ได้นะ  (โลกสวยไปอีกหนึ่งเสต็ป)

ดังนั้น...เอาไว้เวลาเหมาะๆจะมาเล่าให้ฟังบ้างค่ะ

ใครอยากอ่าน tag ที่คนอื่นเขียนๆกัน ก็ไปตามหาได้ใน facebook และ twitter นะคะ

หวังว่าจะได้อะไรบ้างจากกิจกรรมนี้จ้ะ 

vf😂

vf

♥