บทที่ 2.8
นิวะจัง
ไม่ว่าจะเป็นที่โอซาก้าหรือเกียวโต ถึงจะย้ายบ้าน หรือย้ายโรงเรียน จินก็ยังคงต้องไปเรียนกวดวิชาอยู่ทุกวันเหมือนเดิม เพื่อนที่รู้จักกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกเด็กรวยๆ (คือถ้าไม่รวยก็ไม่มีตังค์ไปเรียนพิเศษหรอกจ้ะ) หรือไม่ก็เป็นพวกที่เอาแต่เรียนเท่านั้น
แต่พอเริ่มมาทำงานพิเศษ จินก็ได้รู้จักกับเพื่อนกลุ่มใหม่ เป็นเด็กที่สังคมเรียกกันว่า "แยงกี้"
แม้คนภายนอกจะมองว่าเป็นพวกเด็กเก แต่จินกลับชอบเพื่อนกลุ่มนี้มากกว่าซะอีก
ในบรรดาเพื่อนที่ทำงานพิเศษ คนที่จินสนิทมากที่สุดก็คือ "นิวะจัง"
นิวะจังอายุมากกว่าจินไม่กี่ปี ดูภายนอกแล้วเหมือนเป็นแยงกี้ที่ดูน่ากลัว แต่พอได้พูดคุยกันแล้วกลับเป็นคนที่น่าสนใจกว่าที่คิด เวลาว่างๆจินก็มักจะไปนั่งเล่นที่บ้านของเขาอยู่บ่อยๆ
บางวันจินก็จะมาค้างที่ห้องของนิวะจัง ฟังเพลง หรือดูหนังซีรีย์ด้วยกันทั้งคืน
"โย่ว นิวะจัง หวัดดี" จินทักทายนิวะจังอย่างเป็นกันเองหน้าประตูบ้าน
"ไง วันนี้มาเร็วนะ"
"อื้ม ก็ว่างๆน่ะ"
ในห้องของนิวะจังนั้น มีซองบุหรี่ยี่ห้อมาโบโล่ วางเรียงกันเป็นแถว ดูขัดกันกับผนังห้องที่มีโปสเตอร์เกมส์ โทคิเมคิเมโมเรียลอันใหญ่แปะอยู่
(โหว ..สำหรับคนที่ไม่รู้จักโทคิเมคิ ..อันนี้เป็นเกมส์จีบสาวที่เคยดังมากๆในอดีตนะคะ.. ใครอายุ 25+ คงรู้จักเกมส์นี้เป็นอย่างดี เช็คอายุกันเลยทีเดียว...หึหึ อย่าถามว่าแอดมินรู้จักมั้ย! ห้ามถามนะ!! ห้ามเด็กขาดดด)
นอกจากนี้ยังมีกรวยสีแดงที่ขโมยมาจากไซด์ก่อสร้างที่ไหนซักที่ตั้งประดับอยู่บนพื้นห้อง บนโต๊ะมีรูปถ่ายนิวะจังกับเพื่อนๆที่เป็นแยงกี้ด้วยกันอยู่ด้วย
ภาพของนิวะจังที่กำลังสูบบุหรี่และคุยโทรศัพท์กับใครซักคนอยู่นั้นดูเหมือนแยงกี้ทั่วๆไปก็จริง แต่จุดเด่นที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของนิวะจังก็คือ เขาเป็นแยงกี้ที่ชอบกินนมเปรี้ยวยี่ห้อ มามี่ เป็นชีวิตจิตใจ
หลังจากที่ได้ดื่มนมเปรี้ยวแบบรวดเดียวหมดแล้ว นิวะก็มักจะทำหน้าพออกพอใจมีความสุขเป็นที่สุด
(ว๊ายย~~ ดูรูปประกอบด้านล่างสิคะ กล่องนมน่ารักมุ้งมิ้งเชียว)
ที่บ้านของนิวะจังมีสุนัขนิสัยเสียอยู่ตัวนึง ด้วยความที่ไม่ได้อบรมมันให้ดี ก็เลยขับถ่ายไม่เป็นที่ไม่เป็นทาง มีครั้งนึงที่เจ้าสุนัขไปฉี่ใกล้ๆกับขวดนมมามี่สุดที่รัก นิวะจังถึงกับร้องเสียงหลง
"แม่!! ขอทิชชู่หน่อย!!"
พอเช็ดฉี่ออกหมดแล้วเขาก็กระดกกินนมเปรี้ยวทีเดียวจนหมดขวดด้วยความเสียดาย
จินถึงกับหัวเราะท้องแข็ง
นิวะจังก็คือผู้ชายแบบนี้แหละ
นิวะจังเกลียดการเรียนมาก ก็เลยไม่ได้เรียนชั้นม.ปลาย
คะแนนเฉลี่ยตอนม.ต้น ได้แค่ 23 เท่านั้น (เต็ม 100) ตอนแรกก็ไปเข้าเรียนที่โรงเรียนม.ปลายชายล้วนใกล้บ้าน แต่สุดท้ายเรียนได้แค่ปีเดียวก็เลิก
นิวะจังเองเคยมีวงเป็นของตัวเองด้วย แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ทำวงแล้ว แต่เขาก็เคยทั้งแต่งเพลงเองและเล่นกีตาร์เอง เนื้อเพลงร็อคที่มีแต่คำว่า KILL DIE เป็นอะไรที่เท่สุดๆ
ผมสีแดง เสื้อหนังสีดำ ขับมอเตอร์ไซด์ฮาเล่ย์ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่เหมือนคนญี่ปุ่นซักนิด
"นิวะจัง เสื้อหนังนั่นของยี่ห้ออะไรอะ"
"เอ๋ .. นี่เหรอ SCHOTT น่ะ"
"แพงปะ"
"แพงสิ ถามได้"
"แล้วเอาเงินที่ไหนไปซื้อมาเนี่ย"
" หึหึ ทำงานพิเศษ 20 วันที่ไซด์งานก่อสร้างโดยไม่หลับไม่นอน นายจะเอาด้วยปะล่ะ"
" ฮ่า ไม่ดีกว่า คงไม่ไหวละ แค่งานพิเศษที่ทำอยู่นี่ก็เต็มที่แล้ว"
"ไม่ว่าจะมองมุมไหน นิวะจังก็เป็นร็อคสตาร์จริงๆน๊า"
จินมองนิวะด้วยสายตาที่ชื่นชม
ถึงแม้นิวะจังจะดูมีชีวิตที่ยุ่งเหยิงและไม่ค่อยเป็นระเบียบ ไม่เหมือนคนทั่วๆไป แต่จินกลับรู้สึกยกย่องและอิจฉาชีวิตที่ดูอิสระแบบนั้นเหลือเกิน
ความกล้าที่จะทำอะไรโดยไม่แคร์สายตาของใครแบบนั้น..
นี่แหละ ชีวิตแบบชาวร็อคที่ใฝ่ฝัน
ถ้าได้ทำวงร่วมกัน.. คงจะดีนะ
" นิวะจัง มาทำวงดนตรีกันมั้ย" จินเอ่ยปากชวน
"หืม.. " นิวะจังหันมาทำหน้าตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ชั้นเป็นมือกีตาร์นะ" นิวะพูดพร้อมยิ้มเล็กๆ
"ชั้นก็เล่นกีตาร์เหมือนกันเว้ย เอาแต่ใจนี่หว่า"
ฮ่าๆ
" งั้นก็ต้องกีตาร์คู่ละนะ"
"งั้นกีตาร์คู่ก็ได้"
"งั้นมาหาสมาชิกคนอื่นกัน"
" ที่ๆชั้นมีคนที่น่าสนใจอยู่ ไว้แนะนำให้" นิวะจังที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนพูด
"ชื่อวงจะเอาไง"
่จินกับนิวะช่วยกันคิดชื่อวง เขียนคำที่คิดว่าน่าสนใจลงบนกระดาษคำแล้วคำเล่า อันไหนไม่ใช้ก็กาทิ้ง อันไหนดูน่าสนใจก็วงกลมเอาไว้
"มีอยู่คำนึง ที่ยังไงก็อยากให้มีน่ะน๊า ... CHILD เนี่ย" นิวะพูด
" อื้ม ก็ได้นะ แต่ CHILD = เด็ก? ทำไมล่ะ"
"ก็..นะ"
นิวะจังหยิบนมเปรี้ยวมามี่มาดื่มจนหมด แล้วยิ้มอย่างพอใจโดยไม่พูดตอบอะไร
เป้าหมายแรก .. ก่อนอื่นก็ต้องรวบรวมเครื่องดนตรี
ถึงจะต้องทำงานพิเศษเพิ่มขึ้น ถึงจะไม่มีเวลานอนจนต้องไปหลับที่โรงเรียน ถึงจะสอบได้ศูนย์คะแนน ถึงจะโดดเรียน จินก็ไม่ได้สนใจเพราะในหัวมีแต่เรื่องที่จะได้ทำวงกับนิวะจังเพียงเท่านั้น
ตอนม. 5 เทอม 3 คุณพ่อถูกเรียกตัวไปโรงเรียนอีกครั้งเพื่อคุยต่อรองเรื่องการเรียน
คราวนี้เพราะเวลาเข้าเรียนของจินไม่ถึง 60 วันตามที่โรงเรียนกำหนดไว้ มีความเสี่ยงที่จะต้องซ้ำชั้น
คุณพ่อโกรธมากถึงมากที่สุด
"ทำไมถึงทำอะไรงี่เง่าแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก"
คุณพ่อตะคอกเสียงดังลั่นเมื่อกลับมาถึงบ้าน
คราวนี้คุณพ่อไม่ได้ต่อยหรือลงไม้ลงมืออะไร แต่คำพูดที่ออกมา กลับทำให้เจ็บปวดมากกว่ายิ่งนัก
"พอกันที แกออกจากบ้านนี้ไปเลย ชั้นเป็นคนจ่ายค่าบ้านหลังนี้ ดังนั้นแกต้องออกไปซะ
อยู่ไปก็รบกวนเพื่อนบ้านเค้าเปล่าๆ แค่มีแกอยู่ในบ้านแบบนี้ชั้นก็นอนไม่หลับแล้ว"
คำพูดนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ขาดสะบั้นลงในทันที
"แคร์สายตาคนอื่นมากเลยสินะ เข้าใจละ ผมไปออกไปแน่ จะไปเดี๋ยวนี้เลย"
ในเย็นวันนั้นจินก็ออกจากบ้านไปเช่าอพาร์ตเม้นที่ห่างไปไม่ไกลจากบ้านนัก
ถึงแม้ว่าจินเองก็ไม่ได้แคร์มากมายกับการเรียน ถึงแม้ว่าจะทำงานพิเศษหนักหนาแค่ไหน แต่เขาก็ยังคงไปโรงเรียนอยู่ โดยตั้งใจจะใช้ชีวิตแบบนี้ไปจนจบม.ปลาย เป็นการไปเรียนไปวันๆนึง โดยไม่ได้สนใจเรื่องความรู้หรืออะไรเลยซักนิด
ชีวิตที่ต้องไปอยู่คนเดียว มีอิสระมากขึ้น มีเวลาอยู่กับเพื่อนที่ทำงานพิเศษมากขึ้น เพื่อนๆที่เป็นแยงกี้ หรือเป็นเด็กเกก็เพิ่มมากขึ้น
"จิน นี่นายอยู่คนเดียวเหรอเนี่ย ชั้นขอแวะไปค้างบ้างได้ป่าว" รุ่นพี่ที่ทำงานพิเศษพูดขึ้น
" อื้ม ได้สิ"
หลังจากนั้น ห้องของจินก็ไม่ใช่ห้องของจินเพียงคนเดียวอีกต่อไป ทั้งรุ่นพี่ ทั้งเพื่อนและแฟนของพวกรุ่นพี่ มักจะมาหลบอาศัยอยู่ที่ห้องจินอยู่เสมอ บ่อยครั้งที่จินกลับห้องมาแล้วต้องพูดว่า "รบกวนหน่อยนะครับ" ในห้องของตัวเอง เมื่อเจอรุ่นพี่กับแฟนนั่งอยู่ในห้อง
เป็นช่วงชีวิตที่โดดเดี่ยว ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร ในช่วงเวลาที่ไม่มีเงินหมุนจริงๆ บางครั้งก็ต้องประหยัดจนถึงขนาดไปหากล่องข้าวที่ทิ้งๆไว้ข้างๆร้านสะดวกซื้อ อันไหนพอจะกินได้ก็ไม่มีสิทธิ์จะเลือกอะไรมาก
โลกของชั้น..ทำไมมันบ้าบอแบบนี้
บ่อยครั้งที่เอาแต่คิดวนไปวนมาแล้วก็ไม่ได้คำตอบ ได้แต่ระบายความโกรธแค้นไปที่ใครซักคนที่มาหาเรื่อง เรียกได้ว่าแค่มองหรือสบตากันก็พร้อมจะมีเรื่องได้ทุกเวลา
แล้วจินก็เริ่มคิดว่า บางที สาเหตุที่พ่อคนที่แสนจะเข้มงวด อนุญาตให้ฮิเดะเดินทางออกจากบ้านไปเรียนที่โคจิได้ง่ายๆ บางทีอาจจะเป็นเพราะไม่อยากให้เจ้าเด็กน้อยที่ใสซื่อแบบนั้นเป็นพวกเก็บกดแบบตัวเองละมั้ง ..
เพื่อปกป้องน้องชาย จากพี่ชายที่ไม่เอาไหน
นั่นสินะ
สุดท้ายแล้ว .. ตัวเองก็เป็นคนที่ครอบครัวไม่ต้องการนั่นเอง
สุดท้ายแล้ว .. ก็ไม่มีใครต้องการจริงๆ
แต่เอาเถอะ .. ตราบใดที่ชีวิตยังมีกีตาร์ มีดนตรีอยู่
ตราบใดที่ยังสามารถขึ้นไปเล่นดนตรีบนเวทีได้ ก็ยังมีชีวิตได้อยู่ละนะ
ชื่อฮิโตะโยชิที่พ่อตั้งให้น่ะ ไม่อยากได้เลยซักนิด
จากนี้ไปชื่อของชั้นคือ "จิน" มือกีตาร์เพลงร็อคต่างหาก
เป้าหมายคือศิลปินมืออาชีพเท่านั้น!
Sorette kiseki -บทที่ 2.8 นิวะจัง
Reviewed by ITadmin
on
05:37:00
Rating:
No comments: