GReeeeN คือ??

บทเพลงของหมอพันอารมณ์ดี ดนตรี Feel Good!

Sorette kiseki -บทที่ 3.8 การพบกันอีกครั้งที่โคริยาม่า

บทที่ 3.8

 การพบกันอีกครั้งที่โคริยาม่า



ภาพนี้คือหน้ามหาวิทยาลัยโฮอุ เมืองโคริยาม่า ที่หมอๆเรียนจบมานั่นเองจ้า

เดือนเมษายน ปี 2002

ในงานปฐมนิเทศที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในโคริยาม่า 
ท่ามกลางนักศึกษาใหม่มากมายที่สวมชุดสูทเดินไปเดินมา

ฮิเดะกับกาคุโตะก็ได้พบกันอีกครั้ง

ด้วยความโดดเด่นของผู้ชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อแจคเก็ทแฟชั่นสไตล์เด็กฮาราจูกุ แล้วยังย้อมผมสีแดงครึ่งหัวอย่างไม่แคร์สายตาใครๆ เป็นเหตุผลทำให้กาคุโตะได้พบกับฮิเดะอย่างง่ายดาย

"ฮิเดะคุง เรียนที่นี่เหรอ!?"  กาคุโตะพูดทักทายขึ้นก่อน

"โอ้ว  นาวี! นายก็เรียนที่นี่เหมือนกันเรอะ!!!
" อื้ม! บังเอิญจังเนอะ สุดท้ายก็เลือกเรียนที่เดียวกันเลย"

" ฮะๆ.. ที่จริง..ชั้นก็สอบติดแค่ที่นี่เท่านั้นแหละ  ไม่ได้มีตัวเลือกอื่นหรอก ฮ่าๆๆ" 
ฮิเดะตอบขำๆไปตามความจริง
"อ้าว... เหมือนกันเลย ชั้นก็สอบติดแค่ที่นี่เท่านั้นแหละ  ฮะๆ." 

ผู้ชายที่ย้อมผมแดง แถมยังแต่งตัวเด่นสะดุดตา 
และโดนอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกไปคุยตั้งแต่วันเปิดเรียน
ผู้ชายคนนั้นก็คือ ...ฮิเดะ

"นั่นมันอะไรกัน ผมสีประหลาดของเธอน่ะมันหมายความว่ายังไง?"
อาจารย์ประจำภาควิชาเรียกฮิเดะไปคุยตั้งแต่วันปฐมนิเทศ
แต่ใช่ว่าฮิเดะจะใส่ใจ

"การเรียนเป็นทันตแพทย์  มันไม่ได้เกี่ยวกับสีผมไม่ใช่เหรอครับ"
ฮิเดะตอบแบบตรงไปตรงมาไม่แคร์อาจารย์เลยซักนิด

สำหรับฮิเดะแล้ว การแต่งตัวตามแฟชั่นสไตล์เด็กโตเกียว  คือสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของตัวเองได้ดีที่สุด

ชั้นเป็นเด็กฮาราจูกุนะเฟ้ย  ก็แค่ต้องมาเรียนที่นี่หกปีเท่านั้นแหละ 
เรียนจบเมื่อไหร่ ชั้นจะกลับไปโตเกียวทันทีแน่นอน 
นั่นคือความคิดในใจที่อยากจะตะโกนบอกทุกคนผ่านทางสไตล์การแต่งตัวและแฟชั่นที่ทันสมัยสุดๆ

ชั้นจะไม่จมปลักอยู่กับบ้านนอกแบบนี้แน่ๆ

แน่นอนว่า ในสายตาของคนปกติ   เด็กปีหนึ่งที่โดนอาจารย์เรียกไปอบรมตั้งแต่วันปฐมนิเทศ อาจจะถูกมองว่าเป็นเด็กมีปัญหา หรือไอ้บ้าคนนึงก็ได้ 
เรื่องนั้นฮิเดะก็เข้าใจดี  แต่เขาก็ยังคงหนักแน่น  
ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามเสียงรอบข้างเลย

สำหรับฮิเดะ..การสอบเข้าทันตแพทย์ครั้งนี้  ก็เพียงเพื่ออยากตอบแทนบุญคุณพ่อแม่เท่านั้น  
ไม่ได้คาดหวังถึงการเรียนอย่างจริงจังในมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว
ดังนั้นพอเริ่มเปิดเทอม ฮิเดะก็ไม่ได้มีเรื่องเรียนอยู่ในหัวเลยซักนิดเดียว

ทันตแพทย์เหรอ?
ตั้งแต่เกิดมานี่ชั้นไปหาหมอฟันกี่ครั้งกันหว่า ?
ไม่ว่ายังไง  ฮิเดะก็ไม่สามารถจินตนาการถึงตัวเองนั่งทำงานเป็นหมอฟันได้เลย 
ในหัวตอนนั้นมีแต่เรื่องของแฟชั่น และฮาราจูกุเพียงเท่านั้นเองจริงๆ


และในวันหยุดสุดสัปดาห์หลังจากวันปฐมนิเทศ ฮิเดะก็ขึ้นรถไนท์บัสกลับไปโตเกียวทันที 
หลังจากเที่ยวเล่น ทักทายเพื่อนๆ ไปซื้อเสื้อผ้า อัพเดทเรื่องแฟชั่นที่ฮาราจูกุแล้ว  
ในเย็นวันอาทิตย์  เขาก็จะนั่งไนท์บัสกลับมาที่โคริยาม่า  

และชีวิตของฮิเดะก็วนเวียนอยู่แบบนี้ทุกสัปดาห์  
คืนวันศุกร์ นั่งไนท์บัสไปโตเกียว  คืนวันอาทิตย์ก็ค่อยกลับมาโคริยาม่า 

เวลาผ่านไปสองเดือน  

ในขณะที่ฮิเดะกำลังนั่งรถไนท์บัสจากโตเกียวเพื่อกลับมาที่โคริยาม่า
พอมองเห็นภาพของตัวเองที่สะท้อนบนหน้าต่างรถบัส อยู่ดีๆ ก็คิดขึ้นมาได้ว่า

นี่เราทำอะไรอยู่วะ?

เพื่อที่จะแสดงตัวตนของตัวเองออกมา 
ถึงกับต้องเสียเงิน เสียเวลา นั่งรถไปกลับโตเกียวทุกสัปดาห์ๆเลยเหรอ?? 
วุ่นวายจังเลยน๊า....
ดูบ้าบอไร้สาระมากเกินไปรึเปล่า
นี่มันใช่สิ่งที่ชั้นอยากจะทำจริงๆเหรอ?

รถบัสคันเดิมวิ่งมาถึงสถานีโคริยาม่าในเช้าวันจันทร์
พอฮิเดะก้าวลงจากรถ แสงพระอาทิตย์ยามเช้าก็ส่องเข้าตา 
เป็นครั้งแรกที่เขาได้ถึงมุมมองที่เปลี่ยนไป

เอ๋... ที่โคริยาม่า  ท้องฟ้าสวยขนาดนี้เลยเหรอ
อืม..อากาศที่นี่ดีจังนะ
ภูเขาสีเขียวขจีที่มองเห็นอยู่ทุกๆวัน.. มันก็สวยดีเหมือนกันนะ 

ที่จริงแล้ว...ชีวิตที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและอากาศดีๆแบบนี้  ก็ไม่เลวนี่นา
คิดๆดูแล้วก็มีความสุขดีนี่

ช่วงเวลานั้น ทำให้ฮิเดะหวนนึกถึงชีวิตที่โคจิ
การถูกล้อมรอบไปด้วย ภูเขา และทะเล ชีวิตบ้านนอกที่เงียบสงบ ได้กลับมาอยู่กับธรรมชาติแบบนี้อีกครั้ง มันก็ดีเหมือนกันไม่ใช่เหรอไง


หลังจากนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือหยุดยาวแค่ไหน  ฮิเดะก็ไม่ได้นั่งรถไนท์บัสไปโตเกียวอีกเลย  
..
.

ในเมื่อที่นี่ไม่มีเรื่องแฟชั่นให้ตามซักเท่าไหร่ .. 
งั้นก็กลับมาเล่นดนตรีละกัน

ตั้งแต่นั้น...ในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ฮิเดะก็จะหมดเวลาไปกับการหาซื้อซีดี  นั่งแกะเพลง เล่นกีตาร์อยู่คนเดียวในห้อง 
ถ้าเป็นเรื่องความรู้ด้านดนตรีละก็  ชั้นไม่แพ้ใครหรอกเว้ยยยยย
ฮิเดะมุ่งมั่นสร้างความเชื่อมั่นแบบแปลกๆให้ตัวเองอีกครั้ง

..
.


ในบรรดานักศึกษาใหม่ของคณะทันตแพทย์ศาสตร์ทั้ง 100 คน ได้มีการแบ่งคลาสย่อยไปเรียนในวิชาต่างๆ  ซึ่งฮิเดะและกาคุโตะก็ได้อยู่คลาสเดียวกัน  ทำให้ทั้งสองคนสนิทกันมากขึ้น

พอฮิเดะหันมาเล่นดนตรี ก็อดไม่ได้ที่จะคุยเม้าท์เรื่องดนตรีกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว 
แต่ในบรรดาเพื่อนร่วมห้องที่มหาวิทยาลัย หาคนที่คุยเรื่องดนตรีจริงๆจังๆได้ค่อนข้างยาก 
ยิ่งฮิเดะเป็นพวกที่สามารถพูดคุยเรื่องดนตรีได้อย่างไม่มีวันหยุด  ยิ่งทำให้หาคนคอเดียวกันมาคุยได้ยากทุกที  

แต่ถึงอย่างนั้น ฮิเดะก็ยังคงชวนพูดถึงเรื่องดนตรีไปเรื่อยเปื่อยแบบไม่อายใคร

" ชั้นกำลังแกะเพลงของ Blankey Jet City แหละ"
" พี่ชายชั้นเป็นนักดนตรีมืออาชีพด้วยนะ"
" โอ้ว เสียงกีตาร์เพลงนี้มันสุดยอดเลยจริงๆ"

และเพื่อนคนนึง...ที่ตั้งใจรับฟังเรื่องดนตรีจากฮิเดะตลอดเวลานั้นก็ไม่ใช่ใคร  
กาคุโตะนั่นเอง

และในวันหนึ่ง  การสนทนาเรื่อยเปื่อย  ที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมากมายก็เริ่มต้นขึ้น

"เมื่อวันหยุดที่ผ่านมานะ ชั้นไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนั่งเล่นกีตาร์ทั้งวัน  ฮ่าๆๆ"
ฮิเดะพูดขึ้นมาลอยๆ 

" เอ๋.. เหรอ" 
" จะว่าไป ชั้นก็นั่งเล่นกีตาร์กับคีย์บอร์ดอยู่ที่ห้องเหมือนกัน ฮะๆ" 

"คีย์บอร์ด!!?  นาวี  นายเล่นคีย์บอร์ดได้เหรอ!!?" 
ฮิเดะเลิกคิ้วถามด้วยความตกใจ

" อื้ม.. ก็เพราะว่าเคยเรียนคลาสสิคเปียโนมาก่อนด้วยแหละ ก็เลยเล่นคีย์บอร์ดได้"
"คลาสสิคเปียโน!!!?? นี่นายอ่านโน๊ตเพลง  เขียนโน๊ตเพลงได้ด้วยเหรอ!!!?? "

"อ่า ก็ใช่....แบบว่า.. ถ้าอ่านเขียนโน๊ตไม่ได้ก็เล่นเปียโนไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ " 

ฮิเดะรู้สึกเหมือนมีแสงสว่างพุ่งขึ้นมาในหัว แบบที่ไม่ได้รู้สึกมานานมาก

" อ่านโน๊ตได้ เขียนเพลงได้ นี่สุดยอดไปเลยนี่หว่า"
" ไม่หรอกๆ..... เออ .. จะว่าไปคราวหน้าเอากีตาร์มาเล่นด้วยกันที่ห้องชั้นก็ได้นะ " 
กาคุโตะเอ่ยปากชวน  ซึ่งฮิเดะก็ตอบรับในทันทีแบบไม่คิดเลยซักนิด

COMMENT // จากนั้นมาห้องของนาวีก็โดนยึดเป็นฐานทัพของสมาชิกกรีนทุกๆคนแบบไม่มีใครเกรงใจ ... เอ็งคิดผิดแล้วนาวีเอ๋ย... 555


กาคุโตะอาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นสองชั้นที่เพิ่งสร้างใหม่ ใกล้ๆมหาวิทยาลัยแบบที่สามารถเดินไปได้สบายๆ  

ชื่ออพาร์ตเม้น ดรีมเสตจ 

" ดรีมเสตจ...เป็นชื่อที่ดีจัง" 
ฮิเดะพูดในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนาวีที่อยู่ตรงหัวมุมของชั้นสอง

" ไม่รู้เจ้าของเค้าคิดอะไรอยู่ ตอนตั้งช่ื่ออพาร์ตเม้นนี่เนอะ อาจจะมีความฝันอะไรที่อยากทำอยู่ก็ได้ละมั้ง" นาวีตอบยิ้มๆ

อพาร์ตเม้นของนาวีมีสองห้อง เป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่นที่ดูกว้างขวางพอสมควร 
กลางห้องนั่งเล่น มีโซฟาตัวใหญ่  และมีคีย์บอร์ดตั้งอยู่ตรงมุมห้อง 
ฮิเดะกวาดตามองไปรอบๆ แล้วก็สะดุดสายตากับอุปกรณ์หน้าตาประหลาดที่วางอยู่บนพื้น

"เอ๋ อันนี้อะไรอะ" 
" อ๋อ .. นี่เครื่อง MTR น่ะ"
" MTR คือ...??
" ก็.. ย่อมาจาก multitrack reccorder ไง เป็นเครื่องที่เอาไว้ อัดเสียงเครื่องดนตรี เสียงร้องเพลง มารวมๆกัน แล้วก็บันทึกลงแผ่น MD ได้ พูดง่ายๆก็คือ ถ้ามีเครื่องนี้ก็สามารถอัพเพลงลงแผ่นง่ายๆได้น่ะ"

หน้าตาของเครื่อง MTR ( Multitrack Reccording ) ค่ะ

ทันทีที่ได้ฟัง ฮิเดะก็ตื่นเต้นบอกไม่ถูก

"เฮ้ย...นาวี..... นายสุดยอดอะ  นี่นายอัดเพลงเองได้เลยเหรอ!! "
" เอ่อ ก็ไม่ได้อัดเพลงเป็นเรื่องเป็นราวอะไรมากนะ  บางทีก็แค่ทำเอาสนุกๆเท่านั้นเอง"

ฮิเดะเคยมีความมั่นใจว่า ตัวเองเป็นผู้รอบรู้เรื่องดนตรีมากมายที่สุด และยังมีพี่ชายเป็นนักดนตรีมืออาชีพอีกด้วย   เรื่องความรู้ด้านดนตรีน่ะเรอะ  ..ไม่แพ้ใครๆในญี่ปุ่นแน่นอน 

แต่ในวันนี้เป็นครั้งแรกที่เค้ารู้สึกว่า โลกของดนตรีมันช่างกว้างใหญ่ล้ำลึกนัก 
ยังมีอะไรๆที่ไม่รู้อีกตั้งมากมายจริงๆ

" เห... สุดยอด...ชั้นนี่ยังไม่รู้อะไรอีกเยอะเลย"
พอเห็นฮิเดะตื่นตะลึงกับของที่อยู่ตรงหน้าเหมือนเด็กเห็นของเล่นใหม่  กาคุโตะก็เริ่มพูดต่อด้วยความสนุกสนาน

" อันเนี๊ย เป็น MTR แบบ 4 track  ถ้าจะใช้อัดเสียงก็กดแบบนี้ๆๆ"
ฮิเดะฟังและจำทุกเสต็ปอย่างตั้งใจยิ่งกว่าเนื้อหาในห้องเรียนซะอีก


หลังจากนั้นเป็นต้นมา  ฮิเดะก็ลากเอากีตาร์ที่มามานั่งเล่นกับนาวีบ่อยๆ
และแล้ว...โซฟายาวที่อยู่ตรงกลางห้องก็กลายเป็นที่นั่งและที่นอนประจำของฮิเดะไปเลย

เวลาว่างๆ  ทั้งสองคนก็มักจะนั่งเล่น นั่งแกะเพลง 
นาวีเล่นคีย์บอร์ด  ฮิเดะเล่นกีตาร์ และทั้งคู่ก็ร้องเพลงไปด้วย
เพลงที่ทั้งเล่น และร้องกันบ่อยๆก็คือ เพลงของ B'Z และ Mr. Children  

" ฮิเดะเป็นคนเสียงสูงเนอะ  ชั้นเองก็เป็นพวกเสียงสูงเหมือนกัน  พอมาฟังเสียงพวกเราร้องพร้อมกันสองคนแบบนี้ก็เจ๋งดีเนอะ"  

นั่นเป็นครั้งแรกที่ฮิเดะร้องเพลงแล้วอัดเสียงตัวเองมาฟังแบบจริงจัง 
พอฟังแล้วฮิเดะก็เขินจนแก้มเป็นสีชมพู

"เห......คือชั้นน่ะนะ .. ตอนทำวงกับเพื่อนก็เล่นแต่กีตาร์มาตลอด  ไม่เคยร้องนำเล้ยยยย"
"แบบว่า ตอนเด็กๆ ชั้นก็ร้องเพลงเป็นเสียงโซปราโน่ใช่มะ แต่พอโตขึ้น เสียงเริ่มทุัมขึ้น ชั้นก็คิดว่าตัวเองเป็นพวกเสียงต่ำมาตลอด .. แต่พอฟังแบบนี้แล้ว เอ๊อะ!! ไม่ใช่นี่หว่า"

พอเห็นฮิเดะเขินอาย  กาคุโตะก็อดขำไม่ได้ 

ช่วงเวลาที่ได้เล่นดนตรีด้วยกันสองคนในห้อง  ทำให้ฮิเดะได้หวนนึกถึงตอนที่เคยเล่นดนตรีกับเพื่อนๆที่หอพักสมัยมัธยม..  ดนตรีนี่มันสนุกจริงๆ

อา... เอาเถอะ  ถึงจะผิดหวังกับเรื่องแฟชั่นบ้านนอกของที่นี่ยังไงก็ตาม  ก็ยังมีดนตรีอยู่นี่นา
ท้องฟ้ากับภูเขาก็สวยดี  แล้วยังมีดนตรีให้เล่นเรื่อยๆอีก
6 ปีที่ต้องอยู่ที่นี่ มันก็ดูน่าสนุกดีเหมือนกันนะ 
ฮิเดะเริ่มรู้สึกถึงชีวิตที่สามารถเริ่มเดินออกไปอีกครั้ง 

และคนๆนึงที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้  นั่นก็คือ กาคุโตะนั่นเอง

" นาวี ดนตรีนี่สนุกดีเนอะ"  ฮิเดะพูดขึ้นลอยๆ ระหว่างที่กำลังนั่งเล่นกีตาร์บนโซฟา
" นั่นสิเนอะ " นาวีตอบยิ้มๆระหว่างที่กำลังนั่งกดคีย์บอร์ดตามเสียงเพลง 

" จากนี้ไปเรามาเล่นด้วยกันบ่อยๆนะ"
" อิ้ม  เอาสิ " 

ฮิเดะ ทิ้งตัวนอนลงบนโซฟา โดยมือข้างขวายังคงกอดกีตาร์เอาไว้ 

" คือแบบ ... ที่จริงนะ  ..ตอนแรกที่มาเรียนที่นี่ ชั้นเคยคิดว่ามีแต่เรื่องน่าเบื่อ  
จะมีชีวิตอยู่ไปได้ยังไงตั้ง 6 ปีว๊า... ฮ่าๆๆๆ"  
..
.
" อืมม...แต่ว่านะ ...ถ้าได้เล่นดนตรีเรื่อยๆแบบนี้ ชั้นว่า ชั้นก็มีชีวิตอยู่ที่นี่ได้สบายๆละ ...."
" จริงๆนะ นาวี  ชั้นดีใจจังที่นายมาเรียนที่นี่เหมือนกัน  " 

นาวีวางมือที่กำลังกดแป้นคีย์บอร์ดแล้วหันหน้ามาทางฮิเดะที่กำลังนอนกลิ้งอยู่บนโซฟา

" ที่จริงชั้นก็เหมือนกันนะ  ตอนที่มาถึงที่นี่ใหม่ๆ ก็คิดว่า คงไม่ได้เล่นดนตรีจริงๆจังๆ อีกแล้วละมั้ง..คงไม่มีเพื่อนคุยเรื่องดนตรีอีกแล้วละมั้ง แต่ตอนนี้ชั้นได้เล่นดนตรีทุกวันเลย  ทำให้คิดว่า  เออ โชคดีจังน๊าา ที่มีฮิเดะมาเรียนที่นี่ด้วย" 

จากนั้นทั้งสองคนก็เล่นเพลงด้วยกันหลายสิบเพลง เท่าที่จะนึกได้ ราวกับประตูบานใหม่ๆได้เปิดออกมา 

ถึงจะย้อมหัวสีแดงเหมือนเด็กเกเรยังไง เสียงหัวเราะ  ท่าทาง  ความคิดของฮิเดะก็ซื่อตรง บริสุทธิ์ และตรงไปตรงมาเสมอ  

กาคุโตะมองดูฮิเดะที่หัวเราะเสียงดังสดใสเหมือนเด็กๆแล้วก็อดหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้  
" ขอบคุณนะ ฮิเดะ ชั้นดีใจจริงๆที่ได้เจอกับนายอีกครั้งที่นี่"

สำหรับกาคุโตะแล้ว   ฮิเดะเป็นเหมือนพระอาทิตย์ในฤดูร้อนที่สว่างสดใส  ทำให้ทุกๆวันที่ได้เจอกัน รู้สึกได้ว่าจะมีแต่เรื่องสนุกๆเกิดขึ้นจริงๆ 








Sorette kiseki -บทที่ 3.8 การพบกันอีกครั้งที่โคริยาม่า Sorette kiseki -บทที่ 3.8 การพบกันอีกครั้งที่โคริยาม่า Reviewed by ITadmin on 09:41:00 Rating: 5

No comments: