GReeeeN คือ??

บทเพลงของหมอพันอารมณ์ดี ดนตรี Feel Good!

Sorette kiseki -บทที่ 3.11 แยกกับมิอุระ และมุ่งหน้าสู่โคริยาม่า

บทที่ 3.11

 แยกกับมิอุระ และมุ่งหน้าสู่โคริยาม่า




พอเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาในโตเกียว  กาคุโตะก็มีอิสระมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน 
และก็มีเวลาว่างไปเจอมิอุระบ่อยขึ้น   จากที่สัปดาห์นึงจะนัดครั้งสองครั้ง  ไปๆมาๆ  กลายเป็นว่า ได้เจอกับมิอุระบ่อยกว่าไปเรียนกวดวิชาซะอีก 
บางครั้งก็นัดเจอกับเพื่อนๆในชมรมดนตรีบ้างเหมือนกัน 

ตั้งแต่ขึ้นชั้น ม. 5 เทอมสุดท้าย มิอุระก็ออกจากบ้านไปใช้ชีวิตคนเดียว ตอนกลางคืนทำงานที่ร้านคาราโอเกะจนถึงเช้า ตอนกลางวันไปทำงานพิเศษเป็นสตาฟให้วง Mr.Children พอตกกลางคืนก็ไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะอีก  วนเวียนแบบนี้เรื่อยไป

"มิอุระ นายไม่สมัครเป็นพนักงานประจำที่ร้านคาราโอเกะไปเลยล่ะ  อาจจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการก็ได้นะ" กาคุโตะพูดด้วยความเป็นห่วงเพื่อน

"ห๋า.. พนักงานประจำ? ผู้จัดการ? ไม่เอาอะ  แค่ทำงานพิเศษก็สนุกดีอยู่แล้วนี่นา"

มิอุระที่สามารถทำตามใจตัวเองได้อย่างอิสระ  ไม่เคยหวาดกลัว หรือสนใจว่าใครจะว่ายังไง  บางครั้ง กาคุโตะก็รู้สึกอิจฉาอยู่บ้างเหมือนกัน

สำหรับกาคุโตะนั้น ...
ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะเป็นทันตแพทย์ 
แต่พอไปเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาแล้ว .. เขากลับรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ที่ของตัวเองยังไงก็ไม่รู้
สุดท้าย .. ก็เริ่มไปเรียนน้อยลง  และเอาเวลาไปหามิอุระบ่อยมากขึ้น


"ไปโรงเรียนดีๆนะจ๊ะ"  
คุณแม่ที่แสนใจดีพูดส่งลูกชายทุกๆเช้า  
โดยคิดว่าลูกไปเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาตามปกติ  แต่จริงๆแล้วเปล่าเลย 
ชีวิตประจำวันของกาคุโตะในตอนนั้นก็คือ  หลังจากออกจากบ้านตอนเช้าแล้ว  ก็มุ่งตรงไปนั่งเล่นที่อพาร์ตเม้นของมิอุระทันที 

เสียงร้องเพลงดังแว่วลอดมาจากห้องหนึ่งในอพาร์ตเม้นเล็กๆ 
ยังเสียงดี ร้องเพลงเก่งเหมือนอย่างเคยน๊า... กาคุโตะคิดในใจแล้วเปิดประตูเข้าไป
" โอ้ว หวัดดี" มิอุระหันมาทักทายอย่างเป็นกันเองแล้วก็ร้องเพลงต่อ 

กาคุโตะเอากีตาร์ที่ทิ้งไว้ในห้องมานั่งดีดข้างๆมิอุระที่กำลังร้องเพลงอย่างสบายใจ
ไม่ต้องพูดจาอะไรกันมากมาย ทั้งสองคนสามารถสนุกไปกับเสียงเพลงที่ได้เล่นด้วยกันจนลืมเวลา

"เพลงต่อไป B'Z เพลงนี้นะ"
"โอ้ส ได้เลย"
"ต่อไป MR. Children นะคร้าบ"
" รับทราบ!"

ไม่ว่ามิอุระจะร้องเพลงไหน กาคุโตะก็จะดีดกีตาร์ตามไปอย่างสนุกสนาน  เพลงแล้วเพลงเล่า
นอกจากจะเสียงดีแล้ว  มิอุระเอง ก็จัดได้ว่าเป็นผู้ชายหน้าตาค่อนข้างดีคนหนึ่ง

มิอุระเนี่ย...ถ้าเดบิวน์เป็นนักร้องจริงจังไปเลยน่าจะได้อยู่นะ...
บ่อยครั้งที่กาคุโตะคิดแบบนั้น

 1 ปี ผ่านไป โดยที่ไม่ได้ตั้งใจเรียนอย่างจริงจังเลย
ขนาดคืนวันก่อนสอบเอนทรานซ์ กาคุโตะก็ยังสนุกไปกับการเล่นดนตรีที่ห้องของมิอุระเหมือนเดิม

แน่นอน  ในปีนั้นเขาก็สอบไม่ติดทันตแพทย์ที่มหาลัยไหนๆซักที่
เอาน่า สอบไม่ผ่านซักครั้งนึงคงไม่เป็นไรหรอก...

กาคุโตะยังคงไม่เลิกไปเที่ยวเล่นที่ห้องของมิอุระ
จากที่เคยเล่นดนตรีแบบก๊อปปี้เพลงฮิตๆของวงดังๆ  กาคุโตะก็เริ่มแต่งเพลงของตัวเองบ้าง

"เอ้า  เพลงต่อไป ขอเล่นเพลงของ ชิบาตะ กาคุโตะนะคร๊าบ"
" จัดเลย "
เพลงที่กาคุโตะแต่ง มีทั้งเพลงแนว ร็อคมันส์ๆ บัลลาด เรียบๆ บางเพลงก็เป็นเสียงคีย์บอร์ด บางเพลงก็เสียงกีตาร์

" มิอุระ!! ร้องเพลงเก่งขนาดนี้ นายไปเป็นนักร้องมืออาชีพเลยเถอะ " 
กาคุโตะพูดขึ้น หลังจากได้ยินมิอุระร้องเพลงที่ตัวเองแต่งขึ้นมา
การที่ได้นักร้องเสียงดีๆมาร้องเพลงนี่มัน..รู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาปริ่มจริงๆ

อยากอัดเสียงเพลงนี้จังเลยน๊า...

พอคิดได้แบบนั้น กาคุโตะก็จัดแจงไปซื้อเครื่อง MTR (เครื่องอัดเสียงแบบแยกเสียงอัดของเครื่องดนตรีและเสียงร้องได้) เอามาไว้ที่ห้องมิอุระ
ดนตรีที่มีทั้งเสียงกีตาร์  เปียโนไฟฟ้า รวมกับเสียงร้องอันก้องกังวาลของมิอุระ ถูกบันทึกลงเครื่อง MTR กลายเป็นเพลงออริจินัลที่ไ่ม่สามารถหาฟังได้ที่ไหนอีกแล้วในโลกนี้

กาคุโตะเป็นคนแต่งเนื้อร้องและทำนอง  มิอุระเป็นคนร้องเพลง
หลังจากอัดเพลงกันเสร็จเพลงแล้วเพลงเล่า ก็เอาเพลงเหล่านั้นเก็บไว้ฟังเองบ้าง  ส่งให้เพื่อนในชมรมดนตรีฟังบ้าง คุณภาพของเพลงที่ออกมาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าได้มีเวลาทำอะไรแบบนี้ตลอดไปก็คงดีนะ   กาคุโตะคิดแบบนั้นอยู่บ่อยๆ
ถึงแม้ว่าการเล่นดนตรีแบบนี้จะดูเหมือนไม่ได้อะไร  อาจจะดูไม่มีสาระ  แต่เขาก็รู้สึกมีความสุข และสนุกทุกๆครั้งที่ได้เล่นดนตรีร่วมกับมิอุระ จนนึกอยากให้ช่วงเวลานั้นหยุดลงแค่ตรงนี้

แต่มันก็เป็นไปไม่ได้
ถ้าหากว่าไปเรียนมหาลัยละก็ .. คงทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้แล้วสินะ

ฤดูแห่งการสอบเอนทรานซ์วนเข้ามาเป็นครั้งที่สอง
สำหรับกาคุโตะที่ไม่ได้สนใจเรื่องเรียนเลยนั้น การเอนทร์ติดทันตแพทย์มันก็ไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร  แน่นอน .. เขาสอบตกไปอีกหนึ่งปี

ทั้งที่บอกกับทุกคนที่บ้านไว้ว่าอยากจะเป็นทันตแพทย์  ทั้งที่ไปเสียเงินสมัครเรียนพิเศษเอาไว้ แต่ตัวเองกลับรู้สึกไม่อยากไปเรียนซะเลย
ถ้าหากไปเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาละก็  .. คงไม่มีเวลามาเล่นดนตรีแบบนี้แน่ๆ

ในใจก็นึกชื่นชมมิอุระที่กล้าตัดสินใจเลือกเดินทางที่คนอื่นๆไม่กล้าเดินอยู่เหมือนกัน
ชั้นเองก็...อยากจะทำแบบนั้นบ้างเหมือนกันนะ

ถ้าเกิดมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ละก็ .. ก็คงไปอยู่กับมิอุระ เล่นดนตรีด้วยกัน ส่งซีดีเพลงที่แต่งกันเองไปตามค่ายเพลงต่างๆ  จากนั้นก็ ...เดบิวน์เป็นนักร้องอาชีพด้วยกัน...

กาคุโตะจินตนาการฝันไปถึงวงคู่หูดูโอ้ของตัวเองกับมิอุระ
ได้ออกซีดีเดบิวน์เป็นของตัวเอง
ได้ไปออกรายการทีวีต่างๆ
ได้ไปขึ้นไลฟ์คอนเสิร์ต

อา... ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสิ

แต่ชั้นน่ะ .. ยังไงก็ไม่มีความกล้าที่จะทำอะไรตามใจแบบมิอุระหรอก...

ด้วยสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เด็กๆ  กาคุโตะนั้นเติบโตขึ้นมาได้ด้วยความรักและความเอาใจใส่ของทุกๆคนในครอบครัวเป็นแรงผลักดันมาโดยตลอด

"ช่วยมีชีวิตอยู่ต่อไปเถอะนะ"
เป็นคำร้องขอจากทุกๆในบ้านที่มอบให้ในวันเวลาที่ไม่รู้ว่าจะตายไปเมื่อไหร่ด้วยหัวใจที่ไม่แข็งแรง


ภาพรอยยิ้มของคุณแม่ที่โบกมือส่งให้ในทุกๆเช้า ทำให้เกิดความรู้สึกผิดในจิตใจ

ตัวเองที่เข้าๆออกๆโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆตั้งแต่เด็กๆ  ทำให้ทุกๆคนลำบากไปตั้งเท่าไหร่
แต่ถึงอย่างนั้น  ทั้งพ่อ แม่ และพี่สาว ทุกคนก็ยังใจดีและช่วยดูแลมาตลอด
เปียโนไฟฟ้าอันนี้ ก็ได้มาเพราะความรักและเอาใจใส่ของที่บ้าน ...
ทั้งที่ทุกคนดีกับตัวเองขนาดนั้น...
แต่ชั้นก็ยังโกหก...

ช่วงเวลาตอนนี้  การที่ได้อยู่กับมิอุระมันช่างสนุกสนานจริงๆ...
แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คงจะทำให้ทุกคนที่บ้านผิดหวังสินะ
ถ้าที่บ้านรู้เรื่องที่ตัวเองโดดเรียนขนาดนี้ คงจะเสียใจแน่ๆ

ถึงแม้ตัวเองจะมีความสุขแค่ไหน...
ถึงแม้จะได้ทำอะไรอิสระตามใจตัวเองแบบมิอุระ ..
แต่ถ้าต้องมาเห็นคนที่บ้านต้องร้องไห้เพราะเรื่องของตัวเองละก็ ...
ไม่เอาเด็ดขาด


หลังจากสอบตกไปสองปี .
กาคุโตะต้องจำใจห่างจากมิอุระ แล้วเริ่มไปเรียนที่โรงเรียนกวดวิชามากขึ้น

คณิตศาสตร์  ชีววิทยา  เคมี  ฟิสิกส์  ไม่ว่าจะเป็นวิชาไหนๆ พอกลับมาเรียนแล้ว ก็รู้สึกว่า พอจะรับมือได้อยู่บ้าง มีเพียงวิชาเดียวเท่านั้น .. ที่ไม่ว่าจะทำยังไง ก็อ่อนด๋อยขุนไม่ขึ้นซักที

นั่นก็คือ วิชาภาษาอังกฤษ

ในการสอบย่อยที่โรงเรียนกวดวิชาทั้งสองครั้ง  วิชาอื่นๆเข้าเกณ์ผ่านหมด .. มีเพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น ที่สอบตกถึงสองครั้งสองครา

ในช่วงเวลาที่กลับมาตั้งใจเรียนนั้น  กาคุโตะก็ได้ไปแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งอย่างจริงจัง
แต่หลังจากสารภาพรักไป  ก็อกหักทันที
จากนั้นก็เอาแต่จมอยู่กับความเศร้า  จนไม่มีอารมณ์อยากจะทำอะไร
ไม่อยากไปโรงเรียน
ไม่อยากไปเจอหน้าใครๆ
แม้กระทั่งมิอุระ ก็ไม่ได้ไปเจอกันเลย

และการสอบเอนทรานซ์ปีที่ 3 ก็ตกไปซะอย่างนั้น

หลังจากผ่านไปได้ระยะเวลาหนึ่ง ก็เริ่มคิดได้
จะปล่อยให้วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ แล้วจมอยู่กับเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ

ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างแล้ว

ด้วยความที่อยากจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่  ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนง่ายที่สุด ก็คือการแต่งตัว
เสื้อผ้า รองเท้า กาคุโตะเริ่มใส่ใจกับการแต่งตัวมากขึ้น
อย่างน้อยให้ภายนอกได้เปลี่ยนไปบ้างก็ยังดี

หลังจากศึกษาเรื่องแฟชั่นอยู่พักหนึ่ง  กาคุโตะก็เริ่มแต่งตัวดูดีขึ้น
รองเท้า GRAVIS รุ่นนี้ เท่ห์จังเลยน๊า... อยากได้จัง
แต่หาซื้อยากชะมัด

หลังจากที่ได้ไปตระเวนหาทั่วชินจูกุ  ก็ได้พบว่า เพื่อนร่วมชั้นที่โรงเรียนกวดวิชามีรองเท้าคู่นี้พอดี
เป็นเด็กที่สอบเอนทรานซ์ตกมาแล้ว 3 ปีเหมือนกับตัวเอง
ชื่อของเพื่อนคนนั้นก็คือ " โกะได ฮิเดอัตสี"



หลังจากที่ทำใจเรื่องอกหักได้  ในฤดูใบไม้ร่วง กาคุโตะก็ทุ่มเทกับการเรียนอย่างเต็มที่
การสอบคณะทันตแพทย์ เริ่มในช่วงปลายเดือนมกราคม
และผลก็จะประกาศออกมาในเดือนกุมภาพันธ์

จากการสมัครสอบไป 6 ที่   สุดท้ายกาคุโตะก็ได้สอบติดที่มหาวิทยาลัยในโคริยาม่า  จ. ฟุคุชิม่า
..
.
อา.. โคริยาม่า... จ. ฟุคุชิม่างั้นเหรอ..
จากนี้ไป .. ก็ต้องไปในที่โลกที่ไม่มีมิอุระและเสียงดนตรีอยู่แล้วสินะ
เพื่อนๆในมหาลัยคงหาคนเล่นดนตรีด้วยกันยาก..

เฮ้อ .. แต่ก็ช่างมันเถอะ
3ปีที่ผ่านมา ก็ได้เที่ยวเล่นมามากพอแล้วนี่นา

กาคุโตะย้ายออกจากบ้านและห่างจากเพื่อนๆในชิบะ รวมถึงแยกห่างจากมิอุระด้วย
ถึงจะรู้อยู่ว่า การเรียนทันตแพทย์ในมหาวิทยาลัยคงไม่มีเวลามาเล่นดนตรีอีกแล้ว
แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะแบกเอากีตาร์ 2 ตัว  คีย์บอร์ด และเครื่องอัดเสียง MTR ไปที่หอพักในโคริยาม่าด้วย

พร้อมกับความเหงามากมายที่อยู่ในหัวใจ









Sorette kiseki -บทที่ 3.11 แยกกับมิอุระ และมุ่งหน้าสู่โคริยาม่า Sorette kiseki -บทที่ 3.11 แยกกับมิอุระ และมุ่งหน้าสู่โคริยาม่า Reviewed by ITadmin on 09:38:00 Rating: 5

No comments: