บทที่ 3.12
ดรีมเสตจ
อพาตเม้นที่กาคุโตะเช่าอยู่มีชื่อเรียกแบบเกร๋ๆว่า "ดรีมสเตจ"
สำหรับกาคุโตะแล้ว..
นับตั้งแต่วันที่ได้รับรองเท้า GRAVIS มาจากฮิเดะ
ได้มาเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญในวันสอบเข้ามหาวิทยาลัย ,
ได้พบกันวันปฐมนิเทศ ,
กลายเป็นเพื่อนร่วมคลาสเดียวกัน
ได้คุยกันเรื่องดนตรีมากขึ้น
ได้มาเล่นดนตรีและร้องเพลงด้วยกัน
เป็นเรื่องที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยซักนิด
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเมื่อได้เล่นกีตาร์ ความอารมณ์ดี และท่าทีเป็นกันเองของฮิเดะ ทำให้ความว่างเปล่าที่ก่อนหน้านี้เคยรู้สึกเมื่อต้องแยกกับมิอุระเพื่อมาเรียนที่๋นี่ หายไปอย่างสิ้นเชิง
การได้เล่นกีตาร์และร้องเพลงไปกับฮิเดะในห้องพัก "ดรีมเสตจ" ทำให้รู้สึกว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่
.สนุกมากๆเลย
แน่นอนว่าเรื่องการเรียนก็เป็นสิ่งที่ทิ้งไปไม่ได้
การเรียนทันตแพทย์ มีแต่เรื่องยากๆเต็มไปหมด
แต่ไม่ว่าจะเรียนหนักหรือยากลำบากแค่ไหน พอได้กลับมาเล่นดนตรีอีกครั้ง ก็เหมือนได้ปลดปล่อยทุกอย่าง
อย่างน้อยก็ได้พบว่า ชีวิตนี้ยังมีสิ่งที่สนุกๆให้ทำอยู่
ในฤดูใบไม้ร่วงตอนปี 1 มีงานประจำปีของมหาวิทยาลัย
ก่อนวันงานไม่กี่วัน รุ่นพี่ที่อยู่ชมรมดนตรีในมหาวิทยาลัยเรียกฮิเดะและกาคุโตะให้ไปช่วยงานในวงดนตรีเพื่อแสดงในวันงาน โดยฮิเดะเป็นคนตีกลอง และกาคุโตะเล่นเบส
จริงๆแล้วถ้าเป็นเพลงง่ายๆละก็ ทั้งสองคนสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้แทบทุกอย่างอยู่แล้ว
หลังจากวันงานโรงเรียน ทั้งสองคนก็ถูกชักชวนให้เข้าร่วมวงอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งคู่ก็ปฏิเสธไปด้วยเหตุผลว่า อยากจะเล่นดนตรีสนุกๆในแบบของตัวเองมากกว่า
การเรียนและการสอบผ่านไปอย่างไม่มีปัญหา
และทั้งคู่ก็ได้ขึ้นปี 2
ถึงจะเริ่มเทอมใหม่แล้ว ชีวิตประจำวันของฮิเดะและกาคุโตะก็ยังคงเหมือนเดิม
พอเลิกเรียนเสร็จ ก็มานั่งเล่นดนตรีที่ห้องพักดรีมเสตจของกาคุโตะ
ถึงแม้บางวันจะไปนั่งคุยกับเพื่อนที่ร้านกาแฟ Doutou ใกล้ๆมหาวิทยาลัยบ้าง
กลางคืนก็ไปกินดื่มและร้องคาราโอเกะกับเพื่อนๆในชั้นเรียนบ้าง
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งที่ทำแล้วสนุกจริงๆนั้นก็คือ
การได้เล่นดนตรีอยู่ในห้องพักดรีมเสตจนี่แหละ
อยู่มาวันหนึ่ง ฮิเดะที่นั่งเล่นกีตาร์อยู่บนโซฟาในห้องของกาคุโตะก็พูดขึ้นมาว่า
"นาวี.."
" หืม?"
"ว่างอะ..มาลองแต่งเพลงกันดูมั้ย"
" อ๊ะ เอาสิ น่าสนุกดีนี่" นาวีตอบทันที
ฮิเดะยิ้มกว้าง
" มา! ลองกันซักตั้ง"
ฮิเดะเล่นกีตาร์ และกาคุโตะเล่นคีย์บอร์ด พร้อมๆกับช่วยกันแต่งเพลงไปด้วย
"อินโทร เอาแบบนี้ดีมั้ย"
ลาลา ลาลาลา ลาลาลาลาลา
พอฮิเดะทำเสียงเพลง กาคุโตะก็ดีดคีย์บอร์ดเป็นทำนองตาม
"แบบนี้เหรอ ก็ดีนะ งั้นท่อนต่อไปแบบนี้ดีมั้ย"
"โอ้ ดีๆๆ อยากมีท่อนแรปด้วยอะ ต่อไปเอาท่อนแรปๆหน่อย"
" หวาย ไม่เคยร้องเพลงแรปว่ะ ไม่เคยเล่นคีย์บอร์ดเพลงแรปด้วยเหอะ"
" เอาน่าๆ ลองดู แบบนี้ๆ"
ทั้งคู่ช่วยกันแต่งเพลงตั้งแต่ตอนเย็นไปจนถึงกลางดึก (ไม่เกรงใจชาวบ้านเค้าบ้างเลย 555)
สุดท้ายก็ได้เค้าโครงเพลงมาหนึ่งเพลง
เป็นเพลงที่มีเสียงคีย์บอร์ดของกาคุโตะ และเสียงกีตาร์ของฮิเดะ รวมไว้ด้วยกัน
" เห.. ฟังดูดีเหมือนกันนี่นา เพลงนี้"
" นั่นสิ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ดีเนอะ"
ในระหว่างที่กาคุโตะจดโน๊ตเพลง ฮิเดะก็สรรหาทำนองดนตรีใหม่ๆมาใส่แบบนั้นแบบนี้ เป็นอะไรที่สนุกจนลืมเวลาไปเลย
วันต่อมา ทั้งคู่ก็เอาเครื่อง MTR มาอัดเพลงเล่นๆกันอย่างจริงจัง
" MTR อัดเสียงได้ 4 แทรค มาลองกันๆ"
แทรคแรก กาคุโตะเล่นคีย์บอร์ดเป็นทำนอง
แทรคที่สอง ฮิเดะเป็นคนตีกลองตามจังหวะเพลงเพิ่มเข้าไป
แทรคที่สาม เป็นเสียงกีตาร์ของฮิเดะ
จบช่วงอินโทรเพลง
พอเข้าช่วงร้องเพลง ก็เป็นเสียงเบสของฮิเดะ กับเสียงเปียโนของกาคุโตะมารวมกัน
พอฟังรวมๆกันทั้งเพลงแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ"
" เฮ้ยยยย เป็นเพลงแนวใหม่สุดๆ"
"เจ๋งแฮะ"
"เอาเนื้อเพลงใส่ไปด้วยดิ" ฮิเดะพุดอย่างสนุกหยุดไม่อยู่
ฮิเดะนั่งคิดเนื้อเพลงระหว่างเรียน แล้วจดใส่สมุดคร่าวๆ พอคลาสเรียนจบลง ก็เอามาโชว์ให้กาคุโตะดูทันที (เหมือนเด็กๆที่วาดรูปเสร็จแล้วเอามาอวดให้ผู้ปกครองดู 55)
"เสร็จแล้ว!!"
หนึ่งหน้าของสมุดโน๊ตถูกเขียนด้วยลายมือหวัดๆของฮิเดะเต็มไปหมด
นี่คือเพลงใหม่ที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน
เพลงที่ีฮิเดะเป็นคนเขียนเองกับมือ
และเพลงที่ฮิเดะเขียนนั้ัน..ก็ได้ถูกตั้งชื่อว่า
" Koe"
ตั้งแต่ปี 1999 ที่พวกเราได้พบกัน
พวกเราจะ ก้าวเดินออกไปยังข้างหน้านี้ละนะ
|
เสียงที่ตะโกน ร้องออกมา ส่งไปที่ไหนซักแห่ง
จนกว่าจะได้ยิน เสียงตอบมา ต้องออกวิ่งไป และ
อย่าได้หยุด อย่าเพิ่งหยุด ความรู้สึกที่ตรงนี้
ส่งมันออกไป ยังข้างหน้า พัฒนาขึ้นเรื่อยไป
"เนี่ย เป็นเพลงเริ่มต้นของพวกเราเลยนะ" ฮิเดะพูดอย่างภาคภูมิใจ
พออ่านเนื้อเพลงที่ฮิเดะเขียนมา กาคุโตะก็รู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่ลุกโชนขึ้นมาในหัวใจ
คนเราน่ะ ซักวันนึงก็ต้องตายจากโลกนี้ไป
พอตายไปแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ ทุกอย่างก็ว่างเปล่า
แต่ถึงอย่างนั้น.. ก็อยากจะหลงเหลืออะไรไว้ในโลกนี้บ้าง
กาคุโตะในวัยเด็กที่เคยใช้ชีวิตแบบที่ต้องลุ้นว่าพรุ่งนี้จะมีชีวิตต่อไปมั้ย ก่อนหน้านี้เคยคิดว่า จดหมาย เรียงความ ภาพถ่าย คือสิ่งที่จะหลงเหลือไว้เมื่อเขาตายจากไป
แต่แล้วพอได้รู้จักกับดนตรี ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไป
ดนตรี ทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้จนทุกวันนี้
อยากให้ดนตรี เป็นเครื่องหมายยืนยันถึงการมีชีวิตของตัวเอง
การที่ได้มาเล่นดนตรีและแต่งเพลงร่วมกันกับฮิเดะในอพาร์ตเม้นดรีมเสตจ..
เพลงที่ฮิเดะเขียนออกมานั้น ..
สำหรับกาคุโตะแล้วมันคือสิ่งที่ีมีค่าที่สุดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ไม่ว่าจะอ่านเนื้อเพลงซักกี่ครั้ัง..ก็ยังคงรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาจะไหลไปซะทุกที
....
..
..
และแล้วก็ได้เวลาที่จะเริ่มอัดเนื้อเพลงเข้าไปในทำนองที่แต่งกันเอาไว้
" นาวี นายร้องนำนะ"
" เอ๊ะ! ชั้นเหรอ"
" ใช่ ก็แบบว่าตอนไปร้องเพลงที่คาราโอเกะกัน นายร้องเพลง B'Z ได้เจ๋งไปเลยนี่"
" เอ๊ะ !?"
นาวีที่เคยอยู่กับมิอุระ อัจฉริยะทางด้านร้องเพลงมาตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้รับคำชมว่าเป็นคนร้องเพลงเพราะกับเค้าเหมือนกัน
" นายอะร้องเสียงสูงๆได้ฟังดูซอฟมาก ชั้ันว่านั่นอะ สุดยอดเลย "
"ดังนั้นนายร้องนำดีกว่า เดี๋ยวชั้นร้องท่อนแรปเอง"
"... อื้ม... ก็ได้ จะลองดูนะ"
" ชั้นไม่เคยร้องแรปเลย ท่าทางจะยาก ไม่ไหวแน่ๆ ฮิเดะนี่สุดยอดอะ ร้องเพลงแรปได้ด้วย"
" ฮะๆ ชั้นก็ไม่เคยร้องเพลงแรปจริงๆจังๆเหมือนกันว่ะ แต่ไม่เป็นไร อุตส่าห์แต่งเพลงกันเอง ก็อยากลองท้าทายอะไรใหม่ๆบ้าง ลองดูๆ"
ในเย็นวันนั้น การอัดเพลงก็เริ่มต้นขึ้นในห้องของกาคุโตะ
ทั้งคู่ต่อสายไมโครโฟนเข้าเครื่อง MTR และเริ่มร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน
เริ่มด้วยเสียงของกาคุโตะ และตามด้วยท่อนแรปของฮิเดะ
" ตรงนี้แปลกๆนะ เอาแบบนี้มั้ย"
" ท่อนนี้เอาแบบนี้ดีกว่ามั้ย"
" แก้ตรงนี้หน่อยมะ ร้องแบบนี้น่าจะดีกว่าปะ"
ทั้งคู่ฟังเพลงย้อนไปย้อนมา แก้แล้วแก้อีกหลายสิบครั้งไม่มีเบื่อ
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ เพลงที่ทั้งสองคนช่วยกันทำก็เสร็จสมบูรณ์
"เสร็จแล้ววว"
" อื้มม เสร็จจนได้เนอะ"
แต่ก็ดูเหมือนฮิเดะจะมีไอเดียเด็ดๆกว่านั้นรออยู่ เขายิ้มกริ่ม บอกกับนาวีว่า
" พี่ชายชั้ันอะ เป็นนักดนตรีมืออาชีพละ "
" ลองให้มืออาชีพช่วยปรับแต่งเสียงเพลงให้มันดูโปรขึ้นอีกดีมะ เดี๋ยวชั้นเอาเพลงที่อัดนี้ไปโตเกียวให้พี่ชายช่วยดู แล้วลองอัดเสียงลงซีดีกัน"
" เอ๊ะ ได้เหรอ สุดยอดไปเลย"
การได้มืออาชีพมาช่วยแก้เพลงให้เป็นอะไรที่เจ๋งสุดๆ เท่านั้นยังไม่พอ
จะได้เจอนักกีตาร์วง CHILD ที่ตัวเองชื่นชอบ ทำให้กาคุโตะดีใจมากๆ
ฮิเดะยกโทรศัพท์โทรหาพี่ชายทันที แค่คุยกันไม่กี่คำ จินก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย
" อ๋อ ได้สิ "
พอได้ยินสัญญาณโอเคจากพี่ชาย ทั้งสองคนก็จองตั๋วรถบัส เตรียมตัวไปโตเกียวทันที
Sorette kiseki -บทที่ 3.12 ดรีมสเตจ
Reviewed by ITadmin
on
11:20:00
Rating:
No comments: