รีวิวคอนเสิร์ตฤดูร้อน 2018 : GReeeeN โมโม่กาตาริ

รีวิวคอนเสิร์ตฤดูร้อน 2018 

GReeeeN โมโม่กาตาริ 

ในระหว่างที่กำลังติดแหง็กในโรงแรมที่ชิสึโอกะ กับไต้ฝุ่นหมายเลข 12 ที่เพิ่งพัดขึ้นฝั่งไปหมาดๆ
ก็คิดได้ว่า ได้เวลามารีวิว คอนเสิร์ตที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครกัน ประจำปี 2018 แล้วจ้า

** ขอขอบคุณ  pocket wifi จากบริษัท 4wifi ที่ทำให้เราได้มีเน็ทสัญญาณแรงดีไม่มีหลุด ตลอดทริปทั้ง 5 วันด้วยค่า ><


ปีนี้ก็นับว่าปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้วแล้วค่ะ ที่คุณหมอจัดคอนเสิร์ตต่อเนื่องกันมาทุกปีในฤดูร้อน
แต่จะเรียกว่าคอนเสิร์ตก็ไม่ถูกเท่าไหร่ ควรจะเรียกว่าเป็นโชว์อะไรแบบนี้มากกว่า
เพราะอิหมอ นักร้องตัวจริงไม่มาจ้า (ขีดเส้นใต้แรงๆ)


มาย้อนความกันหน่อยค่ะ ว่าที่ผ่านมา มีจัดคอนเสิร์ตอะไรบ้าง

ปี 2012 

緑一色歌合戦  คอนเสิร์ตครั้งแรกที่ NHK Hall (<---อ่านรีวิวได้ที่นี่)  

NHK hall คือที่จัดงานโคฮาคุ หรืองานประชันเพลง ขาวแดงนั่นเอง (ถ้าใครตามๆญี่ปุ่นหน่อย คงรู้จักงานประชันเพลงอันยิ่งใหญ่ที่จัดในวันสิ้นปีงานนี้ อยู่แล้วเนอะ ) 
พอได้จัดคอนที่ NHK hall คอนเซ็ปของคอนเสิร์ตครั้งนี้ ก็เลยจัดเลียนแบบงานประกวดเพลงขาวแดงเลยค่ะ ชื่องานขาวแดงก็คือ Kouhaku Utagakkusen (Kouhaku = ขาวแดง) คอนเสิร์ตกรีนของเราก็เลยใช้ชื่อว่า midori isshoku uta gakkusen ( midori isshoku = สีเขียวอย่างเดียวเท่านั้น)  หรือมีชื่อเรียกสั้นๆว่า มิโดริ อิชโชคุ ค่ะ  แปลไทยได้ว่า "งานประชันเพลงสีเขียวล้วนๆ" ฮิ้วๆ

เป็นคอนครั้งแรกและครั้งเดียวที่มีการขาย DVD concert แบบโคตร limited edition คือเปิดให้แฟนคลับซื้อได้เท่านั้น คนทั่วไปคือหมดสิทธิ์ ตอนนี้เป็นสินค้าแรร์ไอเทมไปแล้วค่า

ปี 2013 

俺らレボリューション 

หลังจากที่คอนเสิร์ตครั้งแรกในปีที่แล้วประสบความสำเร็จงดงาม  ปีนี้เลยเล่นใหญ่  เป็นการจัดคอนเสิร์ตทั่วประเทศครั้งแรกค่ะ  โดยใช้ชื่อคอนที่ว่า Bokura revolution = "การปฏิวัติของพวกผม"  เป็นคอนที่เราไม่ได้ไปเพราะคิดว่าจะรอซื้อ DVD คอนดีกว่า  แต่สุดท้ายพี่แกไม่ขายจ้า ..  เลยไม่รู้เลยว่ามีอะไรในคอนบ้าง ฮือๆ

ปี 2014 

エレグリトリカルパレードへようこそ! 

ชื่อคอนเสิร์ตแปลได้ว่า "ยินดีต้อนรับสู่ขบวนพาเหรด electrical !" คอนเซ็ปงานแนวล้ำๆ นำสมัย ถ้าจำไม่ผิดเป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนรูปแบบการแสดงจากเงาดำๆบนเวที มาเป็นตัวๆมีสีสัน แบบที่เห็นกันทุกวันนี้ค่ะ

ปี 2015 

9周年だよ！10周年目前ツアー！〜9SJ〜 

เริ่มเข้าปีที่ 9 ของกรีน ใช้ชื่อคอนเสิร์ตที่แปลได้ว่า "9ปีแล้วจ้า โชว์ก่อนครบ10ปีนะจ๊ะ" ชื่อคอนเสิร์ตแสนยาวในครั้งนี้เรียกสั้ันๆว่า 〜9SJ〜 (อ่านว่า คิวเอสเจ) ค่ะ

ปี 2016  

んなぁしたぁぁぁ～・・・今日よりも好きになれる～♪ツアー」

( นับวันพี่แกยิ่งจะใช้ชื่อคอนเสิร์ตยาวขึ้นทุกปีๆ )  ชื่อครั้งนี้เป็นเนื้อเพลงท่อนแรกของเพลง kiseki นั่นเอง คำแรกในเนื้อเพลง เขียนว่า "อชิตะ" แต่การร้องเสียงแบบฮิเดะ จะร้องเป็นเสียง นชิตะ กลายเป็นชื่อคอนเสิร์ตประหลาดๆในครั้งนี้ (ใครคิดกันคะคุณ!!!) อ่ะๆๆ ไม่อยากเรียกยาวๆ เค้ามีชื่อย่อให้ว่า คอนเสิร์ต "นชิตะ" นะคะ

ปี 2017 

「あっ、リーナ、ども。はじめまして。『クリビツテンギョウ!? ル～デル～デ♪』」

(คอนพิเศษครบ 10ปี จัดเดือนมกราคม) 

อ่านรีวิวได้ที่นี่  ปกติคอนกรีนจะจัดทั่วประเทศช่วงฤดูร้อน แต่เนื่องในโอกาสครบรอบ 10ปี ก็เลยมี concert พิเศษในเดือนมกราคมนี้ขึ้นมา  ชื่อคอน เสิร์ต "อ๊ะ, รีน่า ยินดีที่ได้รู้จักครับผม กรีนบิ๊กแท้งกิ้ว !? Ru~De Ru~De " (อิรุเดะรุเดะคำสุดท้ายนี่คืออะไรก็แปลไม่ออกจริงๆ) theme ในงานคือ งานเทศกาลของ "โรงเรียนรูเด๊ะรูเดะ ルーデルーデ学園"

ปล. คำว่า  "อ๊ะ รีน่า"...มาจากคำว่า อารีน่า (คอนจัดที่ไซตามะอารีน่า) นั่นเอง

ปี 2017 

GReeeeNと不思議のダンジョン～失われた古代魔法を求めて～

(คือชื่อคอนเสิร์ตพี่แกยาวขึ้นทุกปีจริงๆนะ.. ครั้งนี้มีชื่อเรียกย่อๆว่า gu to te เป็นการเอาคำแรกกับคำสุดท้ายมาต่อกันเฉยๆเลย..คิดง่ายมากจ้า) ปีนี้เป็นคอนเซ็ปเกมส์ RPG ซึ่งนับว่าเป็นรูปแบบใหม่  เป็นธีมที่ห่างไกลจากความจริงชัดเจนมากขึ้น  (ส่วนตัวแล้วคิดว่าแบบนี้มันดูเด็กน้อยไปหน่อย ชอบแบบเก่ามากกว่าง่ะ) มีเนื้อเรื่องคือ อิหมอๆหลงเข้าไปในโลกเกมส์ RPG แล้วต้องร้องเพลงเพื่อเคลียร์ด่านต่างๆ ต่อสู้กับปีศาจบิ๊กบอส ช่วยเจ้าหญิง ไรงี้
อย่าได้ถามหาสาระกับคอนเสิร์ตนี้ .. มันไม่มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว 5555

ปี 2018 

「GReeeeNと不思議のももがたり～おこしにつけたきびだんご～」

และแล้วก็มาถึงในปี 2018

ในปีนี้..ก็ยังคงธีมหลุดโลกเหมือนปีที่แล้ว  ครั้งนี้เป็นธีมของนิทานโมโมทาโร่จ้า
(เผื่อคนไม่รู้จักนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นเรื่องนี้ ไปอ่านเรื่องย่อได้ที่นี่)

รอบที่เราไปดูมาคือ รอบวันที่ 26 กค.  2018 ที่ Nakano Sun plaza โตเกียว ค่ะมีผู้ไปร่วมชะตากรรมด้วยกันในคอนอีก 2 คนถ้วนๆ คือเพื่อนเราและแฟนเพจอีกหนึ่งคน (ขอบคุณมากค่ะที่มาดูด้วยกัน ได้คุยกับคนบ้าอะไรเหมือนๆกันนี่มันสนุกดีจริงๆ 55 )

เรานั่งรถไฟไปลงสถานีนากาโน่ ไม่ไกลจากชินจูกุมากนัก ก็เห็นคนแต่งตัวเขียวนั่งรอกันเป็นกลุ่มๆ หาง่ายมาก

ส่วนใหญ่แฟนๆ 80% จะเป็นเด็กหนุ่มสาววัยทีนอายุ 10-20 ค่ะ
แต่ว่า ก็มีพ่อแม่ที่พาลูกๆมาด้วยนะ
มีป้าๆ วัยเกษียณที่ใส่เสื้อเขียวมาดูบ้างประปรายด้วยนะ
ไม่ต้องกลัวว่าจะแก่อยุ่คนเดียวค่ะ เพราะหัวใจเรายังเด็ก  วู้วว
มีความรู้สึกว่า ทุกคนดูใสๆ น่ารัก ร่าเริง สมเป็นแฟนเพลงคุณหมออารมณ์ดีมากๆ

พอห้าโมงเย็น ก็จะเริ่มเปิดให้คนเข้างานค่ะ สำหรับครั้งนี้เป็นที่นั่ง fix ทั้งหมด   เราสามารถเดินไปต่อแถวเข้างานได้เลยโดยไม่ต้องรอเรียก

 ** แต่สำหรับคนที่ีจะไปดูคอนเสิร์ตที่ Zepp (ซึ่งจะมีตั๋วยืนด้วย)  ทาง staff จะเรียกเข้าฮอลตามหมายเลขบัตรค่ะ  ต้องไปเข้าแถวตามเลขที่เค้าตั้งไว้ แล้วรอเรียกเข้าฮอล  อันนี้ส่วนตัวเราคิดเอง ว่าเพื่อให้คนที่ซื้อบัตรรอบแรกๆ ได้เข้างานก่อน ได้สิทธิ์เลือกที่ยืนหน้าเวที อะไรแบบนี้




พอเข้ามาด้านในแล้วก็จะมีกิจกรรมละลายทรัพย์รออยู่ค่ะ
ไปค่ะ ตรงกันไปที่จุดแรกกันเลย จุดขาย official goods อันแสนแพงนั่นเอง!!

เสื้อ ผ้าขนหนู กระเป๋า บลาๆ โอ้ย อยากได้หลายอย่าง
แต่กระเป๋าตังค์พี่สั่นระริกไปด้วยเศษเงินเยนค่ะ
จากรูปจะเห็นว่า sold out กันไปหลายอย่างแล้วค่า

ถึงแถวจะยาว แต่ก็จัดการค่อนข้างดี ซื้อขายได้รวดเร็วดีค่ะ และสิ่งที่เผาผลาญเงินของแก๊งเราไปในจุดนี้ ก็ตามรูปนี้เลยค่ะ

ชอบตุ๊กตาที่ขายเป็นคู่ คู่ละ 2300 yen   (นาวี x คุนิ ) และ (ฮิเด ะ x โซ )
แหม .. จับนาวีคู่คุนิซะด้วย ทีรักเค้าละ

ในรูปนี่เหมือนจะเยอะ แต่จริงๆแล้วของที่ได้กินเงินเราไป  มีแค่แท่งไฟอันเดียวค่ะ 555
ที่เหลือคือเอาของคนอื่นมากองๆถ่ายรูปให้ดู
แบบ...จะอวดว่าเป็นแอดมินสายเปย์ไรงี๊ อิอิ

ว่าแล้วก็ขออวดแท่งไฟรูปตรูด เอ้ยยย  รูปลูกท้อ (โมโม่) ที่เราซื้อมาหน่อยค่ะ สารภาพว่าไปดูคอนมาหลายรอบ ไม่เคยมีแท่งไฟไปโบกกับเค้าเลย ในที่สุดครั้งนี้ก็ได้มีอะไรสมเป็นแฟนคลับซะที ดีใจจุง

ว่าแต่...แม่เจ้าประคุณรุณช่อง พอไปเปิดในคอน เแสงไฟนี่พุ่งแสบตามาก  เรียกได้ว่า ถ้าบ้านคุณไฟดับ ไม่ต้องมีไฟฉายแล้วค่ะ  ใช้แท่งไฟกรีน อันเดียวอยู่  ใช้ได้เลย

(อันนี้รูปจากเน็ท  แท่งไฟของเราเองขี้เกียจแกะจากกล่องค่า แต่เสียตังค์ซื้อจิงๆนะ)

ถ้าซื้อสินค้าครบ 8000 เยน ก็จะได้สิทธิ์หมุนกงล้อนำโชค ชิงของรางวัลใหญ่ เป็นวิทยุ blutooth GReeeeN ค่ะ  คนดวงดีแบบแก๊งเราก็จัดไปเลย  ได้ทิชชู่รางวัลปลอบใจหนึ่งอันจ้า

อ๊ะๆๆ  อย่าดูถูกไป ทิชชู่นี่หาซื้อข้างนอกไม่ได้นะคะ  เป็นรางวัลคนดวงตก เอาไว้อวดชาวบ้านเค้าอย่างเดียวเท่านั้น  ขออวดหน่อย  แว๊บบบบบ

มาถึงจุดที่ชวนเสียเงินอีกจุดที่คนมุงกันเยอะๆ  ...นั่นก็คือ กาชาปองจ้า   รางวัลใหญ่เป็นเสื้อยืดประจำคอนครั้งนี้  ส่วนรางวัลอื่นๆก็มีพวก เข็มกลัด สก๊อตเทป ผ้าเช็ดแว่น สายรัดข้อมือ ไรงี้ (หมุนครั้งละ 500 yen ค่ะ) ถ้าดวงดีก็จะได้เข็มกลัดที่มีลายเซ็นสมาชิกวงกรีนเอาไปอวดชาวบ้านเค้าด้วย

หมุนค่ะ หมุนเข้าไป ชีวิตคือการลงทุน
และสุดท้ายสิ่งที่ได้มาก็คือ....
แต๊น.... ของไร้สาระเหล่านี้ค่ะ

(หมุนไปหลายรอบด้วยความอยากได้เข็มกลัดที่มีลายเซ็นของเมมเบอร์อ่ะ มันช่างเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ได้เสมอกับสาวกอย่างเราจริงๆ )

อีกด้านนึงมีบอร์ดให้เขียนข้อความที่ระลึกค่ะ จัดไป

มุมละลายทรัพย์อีกอันที่ไม่ได้กินตังค์เราซักเยนเดียว  (เพราะดิชั้นมีสะสมหมดแล้ว วะฮ่าๆ)
// สะบัดบ๊อบใส่เชิ่ดๆเลย

คอนเสิร์ตของศิลปินคนอื่นเค้าอาจจะมีแสตนศิลปินให้ถ่ายรูปด้วยใช่มั้ย... มาๆๆ ของกรีนเราก็มีค่ะ  ถ่ายรูปกับเงาเขียว 555 จริงๆนี่หาช่วงว่างๆแบบไม่มีคนยากมากนะ  นี่แอบถ่ายมาช่วงเค้าสลับคนถ่ายพอดี

เอ้า ได้เวลาเข้าไปชมคอนเสิร์ตค่ะ
ด้านในห้ามถ่ายรูป ดังนั้นก็จะไม่มีรูปให้ชมนะคะ 

ที่นากาโนะซันพลาซ่า มีที่นั่งสองชั้น  เราได้นั่งชั้น 2 ก็จะเห็นมุมประมาณนี้ค่ะ

ถึงจะเป็นที่นั่งแบบสุ่มก็จริง  แต่เท่าที่ไปดูมาหลายรอบ จะรู้สึกได้ว่ามีเซ็ทที่นั่งกับรอบในการจองบัตรอยู่ค่ะ  ประมาณว่า ถ้าจองรอบแฟนคลับกลุ่ม mobile, PC, application  (แฟนคลับจริงๆจังๆ แบบเสียตังค์รายเดือนแต่ไม่มีอะไรให้เลยนอกจาก message happy birthday กับสิทธิ์ในการเสียตังค์ก่อนชาวบ้านเค้าอะค่ะ ) จะได้ที่นั่งค่อนข้างดี โซนหน้าๆ เป็นค่าตอบแทนที่ได้เสียตังค์สมาชิกไป  และได้ตั๋วลายสวยๆไว้เก็บเป็นที่ระลึกค่ะ

ส่วนคนที่จองรอบ line, official website ก็จะได้ที่นั่งรองลงมา

และสุดท้าย ที่เหลือก็จะเป็นที่นั่งสำหรับคนทั่วไปค่ะ

 (รอบขายคนทั่วไปนี้สามารถจองซื้อผ่านเว็บตัวกลาง (เช่น e+, Pia, Lawson ticket )  แล้วไปจ่ายตังทีหลัง ที่ร้านสะดวกซื้อ พวกลอว์สัน, เซเว่น ในญี่ปุ่น จากนั้นทางร้านก็จะออกตั๋วที่ระบุที่นั่งให้ทันทีเลย หน้าตาแบบนี้้ค่ะ

จะซื้อวันนี้  แล้วเอาบัตรไปดูคอนได้พรุ่งนี้เลยก็ได้ ไม่ต้องจอง ไม่ต้องลุ้นว่าจะสุ่มได้บัตรมั้ย ตราบได้ที่มีบัตรขายอยู่ก็ซื้อได้เรื่อยๆ  ขายกันจนกว่าบัตรจะหมดค่ะ)


ครั้งนี้เราซื้อตั๋วรอบคนทั่วไปค่ะ  ก็ได้นั่งชั้นสองตามคาด
คนนั่งชั้นสอง ก็จะแบบนั่งดูคอนเสิร์ตกันเรียบร้อยนิดนึง  แท่งไฟก็จะน้อยนิดนึง  ความคึกคักก็จะลดลงหน่อยนึง  จะมีทั้งคนที่นั่งเฉยๆ และคนที่โบกไม้โบกมือตามคอนเสิร์ตปนๆกันไป

ส่วนพวกนั่งชั้น 1 โดยเฉพาะพวกหน้าๆนี่ขอเรียกว่าแฟนๆเดนตาย  5555 คือเป็นพวกแฟนคลับจริงจังหน่อย   กลุ่มพวกนี้ก็จะพกอุปกรณ์เชียร์พร้อม ทั้งผ้าขนหนู แท่งไฟ ใส่พร๊อบเขียวเต็มที่  โดยเฉพาะพวกนั่งแถวหน้าๆนี่ โบกกันสะบัดตลอดคอนแน่นอนค่ะ

ในกลุ่มเรามีคนที่ได้นั่งชั้น1 คนนึง  บอกเลยว่าได้ตั๋วนั่งก็จริง  แต่ไม่ได้นั่งเลยจ้า ยืนทั้งงาน 
ชาวบ้านเค้ายืนเชียร์กัน เราจะนั่งเฉยอยู่ได้อย่างไรใช่มั้ย

ต่อไปนี้จะเป็นการสปอยคอนเสิร์ตค่ะ ... 

ใครที่มีแผนจะไปดูคอนเสิร์ตก็อย่าเพิ่งอ่านนะคะ เดี๋ยวจะหมดสนุก 

(เพราะคอนเสิร์ตพี่แกก็จัดเหมือนกันทุกรอบเหมือนฉายหนังนั่นแหละ 555 )

*******

จำรายชื่อเพลงได้ไม่แม่นเป๊ะๆนะคะ สมง สมอง เริ่มแก่แล้ว
เลยไปหามาจากลิงค์นี้ เป็นเซ็ทลิสของรอบที่ไซตามะ
(หนังม้วนเดิมอ่ะ ดูๆแล้วก็เซ็ทลิสเดียวกันนั่นแหละ)

เปิดเพลงมา ได้เห็นอิหมอๆในชุดใหม่ที่ไม่ซ้ำกับคอนรอบก่อนๆซะที ดีใจจุง
ทุกคนแต่งตัวต่างกัน แต่คงคอนเซ็ปตามสีของตัวเองค่ะ

เพลงแรก kiseki มาเลยจ้า
เริ่มเรื่องที่หนุ่มๆกรีนทั้ง 4 คน อยู่ดีๆก็เกิดปาติหาริย์ (kiseki) ทำให้ถูกดึงเข้าไปอยู่ในนิทานโมโมทาโร่ค่ะ


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.. มีตายายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่า
(หน้าจอฉายภาพการ์ตูน  จินตนาการเหมือนรูปตามหนังสือนิทานภาพนั่นแหละค่ะ)

วันหนึ่ง..ยายจะไปซักผ้าที่ริมแม่น้ำ
(เสียงคนพากย์ :: แต่เนื่องจากยายแก่แล้ว ก็เลยเดินช้าเหลือเกิ๊นนน ไปไม่ถึงแม่น้ำซะที ฮ่วย)

อ่ะ ในที่สุดยายก็ไปถึงแม่น้ำละ  ระหว่างซักผ้าก็มีลูกโมโม่ลอยมา
แต่ยายก็ไม่สนใจ (อ้าว!?)

รูปประกอบจากลิงค์นี้ค่ะ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น

ไม่ได้การละ คุณยายไม่เห็นลูกโมโม่ .. ปล่อยไว้แบบนี้เดี๋ยวนิทานไปต่อไม่ได้
หนุ่มๆกรีนเลยต้องเรียกร้องความสนใจแทนลูกโมโม่ ด้วยการ คอมโบเพลงสนุกรัวๆ
(อาจจะจำลำดับเหตุการณ์คลาดเคลื่อนไปบ้างนะคะ หลงๆลืมๆไปมากละ หลายวันเหลือเกิน)

เพลงที่ร้องช่วงนี้
2. Rookies
3. Ikarosu
4. Chikyuu-gou (地球号)
5. Orenji

รูปประกอบจากลิงค์นี้ค่ะ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น

บร๊ะ.. และในที่สุดคุณยายก็หันมาเจอลูกโมโม่แล้วจ้า
คุณยายเก็บลูกโมโม่กลับมาที่กระท่อม

พอผ่าลูกโมโม่ออกมา ก็เจอเป็นเด็กผู้ชายผอมกะหร่อง
โอ้วว โมโมทาโร่ของเรา ทำไมผอมแบบนี้!!
ต้องร้องเพลงช่วยกันเลี้ยงดูโมโมทาโร่ซะแล้ว

อ่ะ ร้องเพลงและเต้นไปด้วยกันจ้า เด็กจะได้โตไวๆ

6, Cooking Kareshi (เพลงนี้มีท่าเต้นประจำคอนนะคะ ถ้าอยู่ในคอนก็ลุกขึ้นยืนและเต้นไปด้วยกันเลย)
** เนื้อเพลงเพลงนี้จะเกี่ยวกับเรื่องทำอาหาร ... (คิดเอาเอง..คงสื่อว่า)ก็เหมือนทำอาหารเลี้ยงเด็กโมโมทาโร่ละมั้ง

7. Natsu no ne
8. Yuki no ne
** เนื้อเพลงสองอันนี้เกี่ยวกับฤดูกาล น่าจะสื่อว่า เลี้ยงเด็กน้อยโมโมทาโร่ผ่านไปแต่ละฤดูกาล....มั้ง

9. Ariarigatou
** เนื้อเพลงนี้ พูดถึงเรื่องราวต่างๆที่ได้พบเจอจนเติบโตขึ้นมา ความทรงจำต่างๆเปรียบเหมือนแท่งเทียนที่ถูกจุดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา .. น่าจะสื่อถึงเด็กน้อยโมโมทาโร่ที่ได้เติบโตขึ้นมาแล้วละจ้า

ปุ้งงงงงง
เด็กน้อยโมโมท่าโร่โตขึ้นมาแล้ว ทันใจเหลือเกิน
เอ้า โมโม่จะไปปราบยักษ์แล้ว แต่ยังไม่มีขนมคิบิดังโงะเลย
(ในนิทาน คือยายจะให้ขนมคิบิดังโงะ กับโมโมทาโร่ ตอนไปเดินทางปราบยักษ์ค่ะ)

หมอๆก็ต้องมาช่วยกันปั้นขนมคิบิดังโงะ

เพื่อนๆบอกให้ SOH ใช้เวทมนต์เสกคิบิดังโงะหน่อยซิ
(เผื่อคนไม่รู้ คุณหมอ SOH  มักจะได้รับมอบหมายให้ใช้เวทมนตร์ในคอนตลอด ตั้งแต่คอนที่ไซตามะแล้วค่ะ )

SOH ร่ายเวทมนตร์ เสกทุกคนเป็นหัวดังโงะ  ตัวเป็นก้านไม้ขีด (อีกแล้ว)
คล้ายๆแบบนี้ค่ะ แต่หัวเป็นลูกดังโงะ  .. ดูติ๊งต๊องมาก ฮ่าๆ



ไปกันหมดละ  สมงสมอง  ทั้งคุณหมอและคนดูแบบเราด้วยค่ะ

จากนั้นก็มีเล่นเกมส์โยนบอลโมโมทาโร่ คล้ายๆกับคอนที่ไซตามะ คือจะมีบอลสี เขียว แดง เหลือง ฟ้า แทนตัวเมมเบอร์  ให้ช่วยกันส่งไปที่เวที  บอลสีไหนส่งถึงเวทีก่อน ก็จะได้ดูโซโล่เพลงของคนนั้นค่ะ

เป็นโซโล่เพลงใหม่ ที่แต่งเพื่อคอนนี้เท่านั้น  หาฟังที่อื่นไม่ได้แล้วค่ะ
ชื่อเพลง "โมโมทาโร่"

ตอนที่เราไปดู บอลสีเหลืองถึงเวทีก่อน  ก็เลยได้ฟังโซโล่ของ SOH ค่ะ

10. Momotaro (new song) - SOH version

คนที่ไปดูรอบอื่นก็อาจจะได้ฟังของคนอื่นก็ได้นะคะ  เป็นความแตกต่างอย่างเดียวของคอนแต่ละรอบค่ะ


เอ้า!! มีขนมดังโงะแล้วก็เดินทางไปปราบยักษ์กันเลย
ระหว่างเดินทางก็ร้องเพลงไปด้วยค่ะ

11. Niji
12. Hana Uta
13. Aiueo ongaku
14. weeeek

เดินทางไปถึงถ้ำยักษ์กันแล้ว... โอ้ววว เห็นรูปยักษ์น่ากลัวมากกก
อิโมโมทาโร่ก็กลัวตัวสั่นงั่่กๆเลยจ้า ร้องไห้จะกลับบ้านแร้ววววว

แต่แล้วแผ่นป้ายรูปยักษ์ที่ดูน่ากลัวก็ล้มลง กลายเป็นน้องยักษ์ผอมแห้งแรงน้อยหลบอยู่ข้างหลัง
น้องยักษ์ตัวผอมๆ  กำลังยืนกลัวตัวสั่น

"แค่ผมเกิดเป็นยักษ์ ทำไมคนอื่นๆต้องว่าผมเป็นคนไม่ดี  ทำไมผมต้องถูกจ้องทำร้ายตลอดเลยล่ะ แงๆ"

ในขณะที่คนในฮอล และคุณหมอกรีนกำลังเห็นใจน้องยักษ์อยู่นั้น...

อิโมโมทาโร่ได้ที  เห็นยักษ์ตัวกะเปี๊ยก ไม่น่ากลัวละ เลยวิ่งเอาดาบไปตีหัวน้องยักษ์อีกที
หมอๆกรีนต้องร้องห้ามม " เฮ้ยย ฟังเค้าก่อนเซ่  อ่านสถานการณ์ซะบ้าง"

(โอ๊ะ ตรงนี้แอบกินใจนิดนึงค่ะ เหมือนจะได้ข้อคิดเนาะ)
แบบว่า คนเรามันก็เลือกเกิดไม่ได้อะ บางทีแค่เกิดมาในครอบครัวแบบไหนก็ถูกคนอื่นตัดสินไปแล้วว่าต้องเป็นคนแบบนั้นแบบนี้  ทั้งๆที่ความจริงอาจจะไม่ใช่เลย  เราแค่เลือกเกิดไม่ได้เท่านั้นเอง เหมือนน้องยักษ์อ่ะ แค่เกิดมาก็มีภาพลักษณ์ของยักษ์ = คนไม่ดี ไปละ ทั้งที่จริงเค้าอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้

แล้วอิคนที่คนอื่นมองว่า เป็นคนดีเป็นฮีโร่ (แบบโมโมทาโร่) บางทีก็อาจจะไม่ได้ทำทุกอย่างถูกต้องเสมอไป (อย่างที่วิ่งเข้าไปตีหัวน้องยักษ์ที่กำลังร้องไห้อย่างไร้เหตุผล  ด้วยความรู้สึกว่า ยักษ์ = คนไม่ดี อะไรแบบนี้) 

ถ้าคิดอะไรซักหน่อย มันก็เป็นคอนเสิร์ตที่มีสาระเหมือนกันนะคะ!!!
แล้วหมอๆกรีนก็พากันโอ๋ๆๆน้องยักษ์  รักกันๆนะ  เป็นเพื่อนกันนะ  แล้วก้ร้องเพลงรักให้ฟังรัวๆจ้า

15. Itosho Kimi e
16. Ai Uta
17. U R not alone

ปิดท้ายด้วย U R not alone เพื่อสื่อว่าน้องยักษ์ และทุกๆคน ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ยังมีเพื่อนๆอยู่ตรงนี้อีกเยอะแยะ  และสุดท้าย น้องยักษ์ก็ได้เป็นเพื่อนกับโมโมทาโร่ อยู่กันอย่างสงบสุขค่ะ

พอนิทานจบ หนุ่มๆกรีนก็ได้ออกมาจากหนังสือนิทาน  และร้องเพลงปิดอีกสองเพลง
18. Harou　Kagerou
19. Every

ตอนจบเพลง every มีการยิงสายรุ้ง สวยมากกกก คนที่นั้งชั้นหนึ่งก็เก็บสายรุ้งกลับบ้านเป็นที่ระลึกได้เลย

สายรุ้งของคนอื่นเค้าค่ะ ก๊อบรูปมาจากกูเกิ้ล  เราอยู่ชั้นสอง สายรุ้งมาไม่ถึง ไม่ได้เก็บซักเส้นเลย

จากนั้นไฟก็ปิดดับลง  เข้าสู่ช่วงอังกอร์ค่ะ
ตามมารยาททุกๆคอนเสิร์ตของทุกศิลปินอะนะ
ก็ต้องตะโกน อังกอร์  อังกอร์ (ประมาณว่า เอาอีกๆๆๆ ) ไรงี้

และก็จะได้ฟังหมอๆมาร้องเพลงช่วงอังกอร์อีกนิดนึง
เอ่อ..จริงๆก็ไม่นิดอ่ะ  อังกอร์รอบนี้ซัดไป 6 เพลง (ร้องไม่เต็มเพลง) เป็นคอนที่มีอังกอร์ยาวมาก

Encore ~~
20. Otono naru houhe!!!!
21. High touch !!! 
22. UNITY
23. Koe 2018
24. Koi
25. Haruka

ในตอนจบเพลง ฮารุกะ  มีปล่อยหัวใจปลิวลงมาให้เก็บเป็นที่ระลึกด้วย เหมือนคอนที่ไซตามะซุปเปอร์อารีน่าเลยค่ะ

และสุดท้ายก็เป็นธรรมเนียมของคอนเสิร์ตในทุกๆครั้ง จะต้องเปิดเพลง tomodachi no uta พร้อมกับคลิปตัดต่อสดๆของคอนเสิร์ตแต่ละที่เป็นการบ่งบอกว่า คอนเสิร์ตที่นี่จบลงแล้วจ้า เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ  ใครอยากมีรูปตัวเองถูกถ่ายในช่วงนี้ ก็ต้องมาคอนเสิร์ตเร็วนิดนึง มันจะมีช่วงที่ทางสตาฟเค้าถือกล้องถ่ายแฟนๆหน้าฮอลอยู่ค่ะ  ไปแสดงตัวได้เลย แบบ  พี่คะ ถ่ายหนูหน่อย หนูมาจากไทยเลยค่ะ  รักกรีนมากค่ะ  ดูเสื้อเขียวหนูสิคะ ไรงี้

ส่วนเราพวกขี้อายค่ะ ขอแอบดูอยู่ห่างๆ พอใจละ อิอิ


พอคอนจบแฟนๆเค้าก็จะมีถ่ายรูปหมู่กับถ่ายวีดีโอกันด้านหน้าค่ะ เป็นเหมือนธรรมเนียมของแฟนกรีนอยู่แล้ว  เราสามารถวิ่งไปแจมกับเค้าได้เลย

จริงๆถ้าตาม tag ในทวิตเตอร์ เค้ามีถ่ายรูปหมู่กันหลายรอบ  ทั้งก่อน และหลังจบงานเลยค่ะ   ถ้าเห็นเค้าตั้งแก๊งถ่ายรูปกันเยอะๆก็วิ่งเข้าไปแจมได้เลย   ส่วนใหญ่แฟนกรีนที่ญี่ปุ่นเค้าจะรู้จักกันในทวิตเตอร์ก่อน แล้วก็มารวมกลุ่มถ่ายรูปกันตามงานคอนเสิร์ตนี่แหละ แบบว่า..พอชอบอะไรเหมือนๆกัน มันก็เหมือนเป็นเพื่อนกันง่ายขึ้นเอง

ในรูปนี้มีเราอยู่ด้วย ติ่งเล็กๆเท่านั้น ฮัลโหลวววว...

พอดีวันนั้นเป็นวันเกิดของแฟนกรีน 2 คนในนี้ ก็เลยได้ร้องเพลง happy birthday ให้คนไม่รู้จักด้วยค่ะ
ได้ความสนุกไปอีกแบบ

หลังจากนั้นเราก็ไปคาราโอเกะกับแฟนกรีนคนไทย และร้องเพลงกรีนรัวๆๆๆๆๆ
โอ้ยย เกิดมาไม่เคยร้องเพลงกรีนในเกะเยอะขนาดนี้ (เพราะมันร้องยากมากๆ  หาคนบ้าร้องด้วยกันยาก)
ขอบคุณแฟนเพจที่ไปดูคอน และร้องเกะด้วยกันในครั้งนี้ด้วยค่ะ
เจอกันใหม่คอนปีหน้าค่า ><

ตั้งใจจะเก็บแท่งไฟคอนเสิร์ตกรีนทุกงานละ ฮึบๆ