บทที่ 4.2
ตั้งวง !!! ตั้งวง !!! ตั้งวง !!!
*** อ่านตอนเก่าๆได้ที่นี่ ****
***ขอเปลี่ยนชื่อจริงของ นาวี จากกาคุโตะเป็น นาบิโตะนะคะ เพราะเขียนด้วยคันจิ 学人 อ่านว่านาบิโตะได้เหมือนกัน (ในหนังสือบทแรกๆเขียนคำอ่านชื่อนี้ว่ากาคุโตะ เลยใช้คำว่ากาคุโตะเรื่อยมา แต่หลังจากบทนี้จะมีชื่อจริงของโซและคุนิมาด้วย โซ-โซอิจิ คุนิ - คุนิโอะ ดังนั้นคิดว่า นาวี - นาบิโตะ น่าจะคุ้นเคยมากกว่าค่ะ)
เพลงแรกที่ฮิเดะและนาวีได้อัดเสียงลง CD ในฐานะวง greeen ก็คือเพลง Koe
อยากให้คนได้ฟังเพลงของพวกเราเยอะๆ อยากได้ยินเสียงฟีดแบคของคนอื่นเยอะๆ
ด้วยความคิดเหล่านั้น ฮิเดะเลยเอาซีดีที่อัดมาไปแจกเพื่อนๆในห้องด้วยความตื่นเต้น และเสียงตอบรับของเพื่อนๆก็ค่อนข้างดีทีเดียว
ก่อนหน้านี้ ฮิเดะเคยถอดใจไปครั้งหนึ่งกับเรื่องดนตรี
พอเข้ามหาลัย..ช่วงเวลาที่ได้สนุกกับการตั้งวงทำเพลงแบบตอนมัธยมนั้นคงไม่มีอีกแล้ว
บรรยากาศสนุกๆตอนตั้งวงกับเพื่อนๆ หาสมาชิกวง แกะเพลง เล่นดนตรีกันเอง.
เขียนเนื้อเพลง ไปขึ้นไลฟ์เฮ้าส์
เรื่องราวแบบนั้น คงไม่ได้ทำอีกแล้ว
"ช่วงเวลาวัยรุ่นแบบนั้นคงไม่กลับมาเป็นครั้งที่สองแล้วละนะ"
ฮิเดะเข้ามาเรียนทันตแพทย์ด้วยความรู้สึกฝืนๆที่ต้องโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่โดยทิ้งเรื่องที่เหมือนไร้สาระแบบนั้นไป
แต่แล้ว การที่ได้ตัดสินใจมาเรียนมหาลัย ก็ทำให้ได้พบกับนาวี
จากนั้นก็ได้กลับมาสนุกกับการทำดนตรีครั้ง
ได้เล่นดนตรีทุกๆวัน ได้ไปอัดเสียงกับพี่ชายในโตเกียว
เรียนทันตแพทย์เหมือนจะยาก แต่ทุกวันก็ผ่านไปด้วยความสนุก
เมืองโคริยาม่าที่เต็มไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ เหมือนจะบ้านนอก
แต่พออยู่ไปก็รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
ชีวิตในตอนนี้เหมือนได้กลับไปเหมือนช่วงมัธยมอีกครั้ง
ทำให้ทุกๆวันรู้สึกได้ว่า....ดีจริงๆที่มีชีวิตอยู่
พอลองมองย้อนกลับไป ช่วงที่เคยอยู่โตเกียว
วันที่ต้องตัดสินใจจากฮาราจูกุ. เมืองแห่งแฟชั่น. แล้วมาเรียนที่บ้านนอกแบบโคริยาม่า
เคยคิดว่า ตาย..ตายแน่ๆ อยู่ไม่ได้แน่ๆ
ในหัวใจมีแต่ความเจ็บปวด. จนเกือบจะตัดสินใจสละสิทธิ์ไปแล้ว
พอมาถึงตอนนี้ ก็ทำให้คิดได้ว่า. โถ่ ความคิดเราตอนนั้นมันช่างเด็กน้อยซะจริงๆ
การได้อยู่ในเมืองหลวงอันศิวิลัยนั้นคือเจ๋งสุดยอดงั้นเหรอ
รู้สึกอายตัวเองจังที่เคยคิดว่าทุกอย่างในโตเกียวตอนนั้นคือทุกสิ่งในชีวิต
เจ้าโง่เอ๊ย
ฮิเดะนึกต่อว่าตัวเองในอดีตระหว่างที่มองไปยังภูเขาเขียวขจีในเมืองโคริยาม่า
ถ้าไม่ได้มาเรียนที่นี่. ก็คงไม่ได้เล่นดนตรีอย่างมีความสุขอยู่แบบนี้
อนาคตน่ะ. ถ้าไม่ลองเดินมาก็จะไม่มีทางรู้เลยนะว่าจะเจอกับอะไร
เฮ้อ แต่เอาน่ะ เรียวมะซังเองก็คงเหมือนกัน (หมายถึงซากาโมโตะ เรียวมะ ค่ะ)
กว่าจะมาเป็นสุดยอดซามูไรที่คนยอมรับก็ต้องผ่านความลังเล และการตัดสินใจที่ยากลำบากแบบนี้เหมือนกัน
(ตรงนี้ในหนังสือเล่าเรื่องซามูไรเรียวมะ ในความคิดของฮิเดะค่อนข้างยาว...เราจะไม่แปลนะคะ เพราะย่อหน้านี้ศัพท์ยากๆเยอะมาก ชื่อคนก็เยอะ ขี้เกียจ.. สรุปให้เท่านี้ละกัน 5555)
เริ่มเข้าปี 2003
ฮิเดะกับนาบิโตะ ก็ยังคงมุ่งมั่นช่วยกันแต่งเพลงออริจินอลของตัวเอง แล้วก็ไปอัดเพลงที่ห้องของจินประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง ชีวิตแบบนี้วนเวียนอยู่เรื่อยไป จากเพลง Koe เพลงแรกที่ได้ทำซีดีซิงเกิ้ล ก็ได้พัฒนามาเป็นมินิอัลบั้ม ที่มีถึง 4 เพลงในแผ่นเดียว จากนั้นก็เอาไปแจกจ่ายเพื่อนที่มหาลัยในฐานะวง greeen จนเป็นที่พูดถึงปากต่อปากในหมู่เด็กมหาลัย
ไม่ใช่แค่คนในคณะทันตะเท่านั้น เพลงของ greeen ได้ถูกส่งต่อๆกันไปถึงมหาลัยอื่นๆด้วย โดยเฉพาะมหาลัย F ที่เป็นมหาลัยหญิงล้วน ชื่อของ greeen นั้นถือว่าค่อนข้างโด่งดังเลยทีเดียว หลายๆคนชอบถึงขนาดอัดเพลงไว้ฟังในวอร์คแมนเลยด้วย (โหยยย วอร์คแมนคำนี้นี่ ไม่แก่จริงแปลไม่ได้นะคะ 555 โชคดีที่เราแก่พอจะรู้จักคำนี้ อิอิ)
นาบิโตะ ก่อนหน้านี้เป็นคนที่เชยๆ ไม่ถนัดในการเข้าสังคม ไม่ชอบอยู่ในที่คนเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเว้นท์หรือการดื่มฉลองอะไรกับเพื่อนๆก็มักจะหลีกเลี่ยงไม่ไปตลอด แต่พอได้มาอยู่กับฮิเดะที่เป็นพวกร่าเริงเฮฮาปาร์ตี้ถึงไหนถึงกัน ก็ทำให้ตัวเองเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย เริ่มรู้จักแต่งตัวตามแฟชั่นบ้าง เริ่มพูดคุยกับคนแปลกหน้าได้ลื่นไหลมากขึ้น พอมองย้อนกลับไปแล้ว ก็นับว่าเปลี่ยนตัวเองไปเหมือนกัน
ความโด่งดังของ greeen ในตอนนั้น เรียกได้ว่าในหมู่วัยรุ่นเมืองโคริยาม่าไม่มีใครไม่รู้จัก บางครั้งได้ไปขึ้นเวทีร้องเพลงงานต่างๆ ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ก็สามารถทำให้ผู้คนหันมามองแล้วก้พูดได้ว่า "อ๊ะ นั่น กรีนร้องเพลงอยู่นี่นา คนไหนคือฮิเดะ คนไหนนาวีกันนะ " ประมาณนั้นเลย
"เพลงดีจังเลยน๊า"
"เหมือนศิลปินตัวจริงเลยนะ เพลงสุดยอดทุกเพลงเลย"
"เอาไว้ไปคาราโอเกะด้วยกันนะ"
ผู้คนต่างพูดชื่นชมผลงานของวง greeen เมื่อได้ฟังเพลงในครั้งแรก
"ถ้าเป็นgreeen ละก็ ไปเดบิวท์เป็นมือโปรได้แน่ๆ"
"ส่งเดโมไปค่ายเพลงเลย ต้องขายได้ชัวร์"
"อยากให้ฮิเดะกับนาวีไปเดบิวท์เป็นนักร้องอาชีพจังเลยน๊า"
แต่ว่า ถึงจะมีเสียงเรียกร้องให้ไปเดบิวท์กับค่ายเพลงมากแค่ไหน แต่ฮิเดะกับนาวีก็ไม่คิดจะไปถึงขั้นนั้น
"ไม่ละๆ เราไม่ไปเป้นมืออาชีพหรอก แค่ได้ทำเพลงดีๆให้ทุกคนได้ฟัง ก็สนุกพอแล้วละ"
ทั้งฮิเดะและนาวีมีความคิดที่เหมือนกันแบบนั้น
สอบตกมาตั้ง 3รอบกว่าจะเข้าทันตแพทย์ได้ ทำให้ที่บ้านเป็นกังวล เป็นภาระไปตั้งเท่าไหร่แล้ว ยังไงก็ต้องเรียนจบไปเป็นทันตแพทย์ให้ได้นั่นแหละ
ในปี 2003 นั้น ทั้งฮิเดะและนาวี ต่างสนุกและให้ความสำคัญกับการทำเพลงในฐานะวง greeen อย่างเต็มที่ เพราะต่างคนต่างรู้อยู่แก่ใจดีว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก็จะถึงการสอบแพทย์ทั่วประเทศแล้ว และในตอนนั้นก็คงไม่มีเวลามาทำเพลงเล่นๆแบบนี้อีกแน่นอน
เรื่องแบบนี้ ถึงจะไม่ได้พูดออกมาอย่างจริงๆจังๆ แต่ทั้ังคู่ก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายก็คิดเหมือนๆกัน
ในฤดุใบไม้ผลิปี 2004 ฮิเดะและนาวีขึ้นสู่ปีที่ 3 คณะทันตแพทย์
ทั้งคู่ยังคงไปอัดเพลงที่ห้องของจินอยู่เรื่อยๆ รวมๆแล้วตอนนั้นก็ประมาณ 10เพลงได้
แล้วก็เริ่มคิดไปเล่นตามไลฟ์เฮ้าส์
"ฤดูใบไม้ผลินี้ เราแต่งเพลงเพิ่มอีก 2 เพลง แล้วพอถึงฤดูร้อน ลองไปเล่นไลฟ์ที่ ไลฟ์เฮ้าส์ club#9 ตรงหน้าสถานีโคริยาม่ากันมั้ย"
เพลงแรกที่ฮิเดะและนาวีได้อัดเสียงลง CD ในฐานะวง greeen ก็คือเพลง Koe
อยากให้คนได้ฟังเพลงของพวกเราเยอะๆ อยากได้ยินเสียงฟีดแบคของคนอื่นเยอะๆ
ด้วยความคิดเหล่านั้น ฮิเดะเลยเอาซีดีที่อัดมาไปแจกเพื่อนๆในห้องด้วยความตื่นเต้น และเสียงตอบรับของเพื่อนๆก็ค่อนข้างดีทีเดียว
ก่อนหน้านี้ ฮิเดะเคยถอดใจไปครั้งหนึ่งกับเรื่องดนตรี
พอเข้ามหาลัย..ช่วงเวลาที่ได้สนุกกับการตั้งวงทำเพลงแบบตอนมัธยมนั้นคงไม่มีอีกแล้ว
บรรยากาศสนุกๆตอนตั้งวงกับเพื่อนๆ หาสมาชิกวง แกะเพลง เล่นดนตรีกันเอง.
เขียนเนื้อเพลง ไปขึ้นไลฟ์เฮ้าส์
เรื่องราวแบบนั้น คงไม่ได้ทำอีกแล้ว
"ช่วงเวลาวัยรุ่นแบบนั้นคงไม่กลับมาเป็นครั้งที่สองแล้วละนะ"
ฮิเดะเข้ามาเรียนทันตแพทย์ด้วยความรู้สึกฝืนๆที่ต้องโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่โดยทิ้งเรื่องที่เหมือนไร้สาระแบบนั้นไป
แต่แล้ว การที่ได้ตัดสินใจมาเรียนมหาลัย ก็ทำให้ได้พบกับนาวี
จากนั้นก็ได้กลับมาสนุกกับการทำดนตรีครั้ง
ได้เล่นดนตรีทุกๆวัน ได้ไปอัดเสียงกับพี่ชายในโตเกียว
เรียนทันตแพทย์เหมือนจะยาก แต่ทุกวันก็ผ่านไปด้วยความสนุก
เมืองโคริยาม่าที่เต็มไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ เหมือนจะบ้านนอก
แต่พออยู่ไปก็รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
ชีวิตในตอนนี้เหมือนได้กลับไปเหมือนช่วงมัธยมอีกครั้ง
ทำให้ทุกๆวันรู้สึกได้ว่า....ดีจริงๆที่มีชีวิตอยู่
พอลองมองย้อนกลับไป ช่วงที่เคยอยู่โตเกียว
วันที่ต้องตัดสินใจจากฮาราจูกุ. เมืองแห่งแฟชั่น. แล้วมาเรียนที่บ้านนอกแบบโคริยาม่า
เคยคิดว่า ตาย..ตายแน่ๆ อยู่ไม่ได้แน่ๆ
ในหัวใจมีแต่ความเจ็บปวด. จนเกือบจะตัดสินใจสละสิทธิ์ไปแล้ว
พอมาถึงตอนนี้ ก็ทำให้คิดได้ว่า. โถ่ ความคิดเราตอนนั้นมันช่างเด็กน้อยซะจริงๆ
การได้อยู่ในเมืองหลวงอันศิวิลัยนั้นคือเจ๋งสุดยอดงั้นเหรอ
รู้สึกอายตัวเองจังที่เคยคิดว่าทุกอย่างในโตเกียวตอนนั้นคือทุกสิ่งในชีวิต
เจ้าโง่เอ๊ย
ฮิเดะนึกต่อว่าตัวเองในอดีตระหว่างที่มองไปยังภูเขาเขียวขจีในเมืองโคริยาม่า
ถ้าไม่ได้มาเรียนที่นี่. ก็คงไม่ได้เล่นดนตรีอย่างมีความสุขอยู่แบบนี้
อนาคตน่ะ. ถ้าไม่ลองเดินมาก็จะไม่มีทางรู้เลยนะว่าจะเจอกับอะไร
เฮ้อ แต่เอาน่ะ เรียวมะซังเองก็คงเหมือนกัน (หมายถึงซากาโมโตะ เรียวมะ ค่ะ)
กว่าจะมาเป็นสุดยอดซามูไรที่คนยอมรับก็ต้องผ่านความลังเล และการตัดสินใจที่ยากลำบากแบบนี้เหมือนกัน
(ตรงนี้ในหนังสือเล่าเรื่องซามูไรเรียวมะ ในความคิดของฮิเดะค่อนข้างยาว...เราจะไม่แปลนะคะ เพราะย่อหน้านี้ศัพท์ยากๆเยอะมาก ชื่อคนก็เยอะ ขี้เกียจ.. สรุปให้เท่านี้ละกัน 5555)
เริ่มเข้าปี 2003
ฮิเดะกับนาบิโตะ ก็ยังคงมุ่งมั่นช่วยกันแต่งเพลงออริจินอลของตัวเอง แล้วก็ไปอัดเพลงที่ห้องของจินประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง ชีวิตแบบนี้วนเวียนอยู่เรื่อยไป จากเพลง Koe เพลงแรกที่ได้ทำซีดีซิงเกิ้ล ก็ได้พัฒนามาเป็นมินิอัลบั้ม ที่มีถึง 4 เพลงในแผ่นเดียว จากนั้นก็เอาไปแจกจ่ายเพื่อนที่มหาลัยในฐานะวง greeen จนเป็นที่พูดถึงปากต่อปากในหมู่เด็กมหาลัย
ไม่ใช่แค่คนในคณะทันตะเท่านั้น เพลงของ greeen ได้ถูกส่งต่อๆกันไปถึงมหาลัยอื่นๆด้วย โดยเฉพาะมหาลัย F ที่เป็นมหาลัยหญิงล้วน ชื่อของ greeen นั้นถือว่าค่อนข้างโด่งดังเลยทีเดียว หลายๆคนชอบถึงขนาดอัดเพลงไว้ฟังในวอร์คแมนเลยด้วย (โหยยย วอร์คแมนคำนี้นี่ ไม่แก่จริงแปลไม่ได้นะคะ 555 โชคดีที่เราแก่พอจะรู้จักคำนี้ อิอิ)
นาบิโตะ ก่อนหน้านี้เป็นคนที่เชยๆ ไม่ถนัดในการเข้าสังคม ไม่ชอบอยู่ในที่คนเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเว้นท์หรือการดื่มฉลองอะไรกับเพื่อนๆก็มักจะหลีกเลี่ยงไม่ไปตลอด แต่พอได้มาอยู่กับฮิเดะที่เป็นพวกร่าเริงเฮฮาปาร์ตี้ถึงไหนถึงกัน ก็ทำให้ตัวเองเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย เริ่มรู้จักแต่งตัวตามแฟชั่นบ้าง เริ่มพูดคุยกับคนแปลกหน้าได้ลื่นไหลมากขึ้น พอมองย้อนกลับไปแล้ว ก็นับว่าเปลี่ยนตัวเองไปเหมือนกัน
ความโด่งดังของ greeen ในตอนนั้น เรียกได้ว่าในหมู่วัยรุ่นเมืองโคริยาม่าไม่มีใครไม่รู้จัก บางครั้งได้ไปขึ้นเวทีร้องเพลงงานต่างๆ ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ก็สามารถทำให้ผู้คนหันมามองแล้วก้พูดได้ว่า "อ๊ะ นั่น กรีนร้องเพลงอยู่นี่นา คนไหนคือฮิเดะ คนไหนนาวีกันนะ " ประมาณนั้นเลย
"เพลงดีจังเลยน๊า"
"เหมือนศิลปินตัวจริงเลยนะ เพลงสุดยอดทุกเพลงเลย"
"เอาไว้ไปคาราโอเกะด้วยกันนะ"
ผู้คนต่างพูดชื่นชมผลงานของวง greeen เมื่อได้ฟังเพลงในครั้งแรก
"ถ้าเป็นgreeen ละก็ ไปเดบิวท์เป็นมือโปรได้แน่ๆ"
"ส่งเดโมไปค่ายเพลงเลย ต้องขายได้ชัวร์"
"อยากให้ฮิเดะกับนาวีไปเดบิวท์เป็นนักร้องอาชีพจังเลยน๊า"
แต่ว่า ถึงจะมีเสียงเรียกร้องให้ไปเดบิวท์กับค่ายเพลงมากแค่ไหน แต่ฮิเดะกับนาวีก็ไม่คิดจะไปถึงขั้นนั้น
"ไม่ละๆ เราไม่ไปเป้นมืออาชีพหรอก แค่ได้ทำเพลงดีๆให้ทุกคนได้ฟัง ก็สนุกพอแล้วละ"
ทั้งฮิเดะและนาวีมีความคิดที่เหมือนกันแบบนั้น
สอบตกมาตั้ง 3รอบกว่าจะเข้าทันตแพทย์ได้ ทำให้ที่บ้านเป็นกังวล เป็นภาระไปตั้งเท่าไหร่แล้ว ยังไงก็ต้องเรียนจบไปเป็นทันตแพทย์ให้ได้นั่นแหละ
ในปี 2003 นั้น ทั้งฮิเดะและนาวี ต่างสนุกและให้ความสำคัญกับการทำเพลงในฐานะวง greeen อย่างเต็มที่ เพราะต่างคนต่างรู้อยู่แก่ใจดีว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก็จะถึงการสอบแพทย์ทั่วประเทศแล้ว และในตอนนั้นก็คงไม่มีเวลามาทำเพลงเล่นๆแบบนี้อีกแน่นอน
เรื่องแบบนี้ ถึงจะไม่ได้พูดออกมาอย่างจริงๆจังๆ แต่ทั้ังคู่ก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายก็คิดเหมือนๆกัน
ในฤดุใบไม้ผลิปี 2004 ฮิเดะและนาวีขึ้นสู่ปีที่ 3 คณะทันตแพทย์
ทั้งคู่ยังคงไปอัดเพลงที่ห้องของจินอยู่เรื่อยๆ รวมๆแล้วตอนนั้นก็ประมาณ 10เพลงได้
แล้วก็เริ่มคิดไปเล่นตามไลฟ์เฮ้าส์
"ฤดูใบไม้ผลินี้ เราแต่งเพลงเพิ่มอีก 2 เพลง แล้วพอถึงฤดูร้อน ลองไปเล่นไลฟ์ที่ ไลฟ์เฮ้าส์ club#9 ตรงหน้าสถานีโคริยาม่ากันมั้ย"
ฮิเดะพูดชวนนาบิโตะ
" นั่นสินะ นอกจากซีดีแล้ว ก็อยากให้คนได้ฟังเสียงสดๆจากไลฟ์บ้างเหมือนกันเนอะ"
สำหรับฮิเดะที่เคยไปเล่นไลฟ์บ่อยๆตั้งแต่ตอนม.ปลาย การแสดงต่อหน้าคนดูเยอะๆก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่สำหรับนาบิโตะที่เคยเล่นดนตรีแค่วงของโรงเรียน จริงๆแล้วในใจไม่ค่อยชอบแสดงต่อหน้าคนดูซักเท่าไหร่ ก็มันน่าอายนี่นา..
อืม.. แต่ถ้าเป็น greeen ละก็ อาจจะพอไหวก็ได้
บางทีก็อยากลองแสดงไลฟ์ดูบ้างเหมือนกันนะ
นาบิโตะคิดอยุ่ครู่นึงก่อนจะตอบตกลง
" เอาสิ ต่อไปนี้มาซ้อมขึ้นไลฟ์กันเลย"
ผู้ชมคนแรกของวง greeen ก็คือ จิน พี่ชายของฮิเดะนั่นเอง
"นาวี !!ถ้าพวกนายจะขึ้นเล่นไลฟ์ละก็ ชั้นในฐานะ มือกีตาร์วงCHILDS จะไปเล่นกีตาร์ให้ก็ได้นะ"
"เอ๊ะ... จริงเหรอครับ ได้เหรอครับ .. ไอ้ย แค่คิดว่าจะได้ยืนอยู่เวทีเดียวกัน ใจผมก็เต้นใหญ่แล้ว "
นาวีตื่นเต้นดีใจมาก เมื่อได้รู้ว่าจะได้ขึ้นเวทีกับนักกีตาร์มืออาชีพอย่างจิน
จิน ฮิเดะ นาวี ทั้ังสามคนซ้อมเพลงที่จะใช้ในไลฟ์จนลืมเวลา
เช้าของวันใหม่ ฮิเดะและนาวีกลับมาที่โคริยาม่า มีเวลาอาบน้ำและนอนอีกนิดหน่อย ก่อนที่จะแต่งตัวไปเรียน และเย็นวันนั้นก็มาซ้อมเพลงกันอีกครั้ง
**** Note ***
สำหรับ Koriyama Club#9 ที่พูดถึงในบทนี้ คุณเจ้าของไลฟ์เฮ้าส์ ก็คือคนที่เคยมาออกรายการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ GReeeeN ในคลิปนี้ค่า
https://www.facebook.com/GReeeenThaiFanclub/videos/1060390597416656/
ดูเหมือนว่าไลฟ์เฮาส์นี้จะเป็นที่แสดงไลฟ์ประจำของกรีนอยู่ช่วงนึงด้วยค่ะ
เจ้าของท่าทางสนิทกับสมาชิกวงน่าดูเลย
ใครไปโคริยาม่า ก็แวะเวียนไปดุไลฟ์เฮาส์ได้นะคะ
" นั่นสินะ นอกจากซีดีแล้ว ก็อยากให้คนได้ฟังเสียงสดๆจากไลฟ์บ้างเหมือนกันเนอะ"
สำหรับฮิเดะที่เคยไปเล่นไลฟ์บ่อยๆตั้งแต่ตอนม.ปลาย การแสดงต่อหน้าคนดูเยอะๆก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่สำหรับนาบิโตะที่เคยเล่นดนตรีแค่วงของโรงเรียน จริงๆแล้วในใจไม่ค่อยชอบแสดงต่อหน้าคนดูซักเท่าไหร่ ก็มันน่าอายนี่นา..
อืม.. แต่ถ้าเป็น greeen ละก็ อาจจะพอไหวก็ได้
บางทีก็อยากลองแสดงไลฟ์ดูบ้างเหมือนกันนะ
นาบิโตะคิดอยุ่ครู่นึงก่อนจะตอบตกลง
" เอาสิ ต่อไปนี้มาซ้อมขึ้นไลฟ์กันเลย"
ผู้ชมคนแรกของวง greeen ก็คือ จิน พี่ชายของฮิเดะนั่นเอง
"นาวี !!ถ้าพวกนายจะขึ้นเล่นไลฟ์ละก็ ชั้นในฐานะ มือกีตาร์วงCHILDS จะไปเล่นกีตาร์ให้ก็ได้นะ"
"เอ๊ะ... จริงเหรอครับ ได้เหรอครับ .. ไอ้ย แค่คิดว่าจะได้ยืนอยู่เวทีเดียวกัน ใจผมก็เต้นใหญ่แล้ว "
นาวีตื่นเต้นดีใจมาก เมื่อได้รู้ว่าจะได้ขึ้นเวทีกับนักกีตาร์มืออาชีพอย่างจิน
จิน ฮิเดะ นาวี ทั้ังสามคนซ้อมเพลงที่จะใช้ในไลฟ์จนลืมเวลา
เช้าของวันใหม่ ฮิเดะและนาวีกลับมาที่โคริยาม่า มีเวลาอาบน้ำและนอนอีกนิดหน่อย ก่อนที่จะแต่งตัวไปเรียน และเย็นวันนั้นก็มาซ้อมเพลงกันอีกครั้ง
**** Note ***
สำหรับ Koriyama Club#9 ที่พูดถึงในบทนี้ คุณเจ้าของไลฟ์เฮ้าส์ ก็คือคนที่เคยมาออกรายการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ GReeeeN ในคลิปนี้ค่า
https://www.facebook.com/GReeeenThaiFanclub/videos/1060390597416656/
ดูเหมือนว่าไลฟ์เฮาส์นี้จะเป็นที่แสดงไลฟ์ประจำของกรีนอยู่ช่วงนึงด้วยค่ะ
เจ้าของท่าทางสนิทกับสมาชิกวงน่าดูเลย
ใครไปโคริยาม่า ก็แวะเวียนไปดุไลฟ์เฮาส์ได้นะคะ
Sorette kiseki -บทที่ 4.2 ตั้งวง !!! ตั้งวง !!! ตั้งวง !!!
Reviewed by ITadmin
on
10:21:00
Rating:
![Sorette kiseki -บทที่ 4.2 ตั้งวง !!! ตั้งวง !!! ตั้งวง !!!](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjmt43fhZtytt4YI9gHSknWGIuroL5N7ZzZmgiDL0O9yiN2FZQa14jzSleYoEX5LsDFchZLA6DTnQQjoX92rfffQYri_cjqTK2ikd0r-EEUiQG7cuH_pmIwuhXemd4DTiMGJh3bWVR9ayo/s72-c/mp3tapeconverter1.jpg)
No comments: