เฉลย GReeeeN quizzes 2018 (ในปี 2019)

ได้เวลาเฉลยปัญหาแฟนพันธ์แท้ GReeeeN Thailand ที่ดองเอาไว้มานานเนิ่นนาน  ไปดูคำตอบกันจ้า

จำนวนผู้ร่วมตอบคำถาม : 21 คน
คะแนนเต็ม = 22 คะแนน
คะแนนมากทึีสุด = 21.8
ค่าเฉลี่ย = 12.29

อันดับ (1) : K. YiLing Fang (21.8) คะแนน
อันดับ (2) : K. Midori Pi  (17.2) คะแนน
อันดับ (3) : K. Kunlaya Thongruy (15.5) คะแนน


สุดยอดมากค่ะทุกคน เอ้า! ปรบมืออออออ
มาดูเฉลยกันค่ะ

เฉลย
=====
1.คนที่ตัวสูงที่สุดในวง
>>> ตอบ : SOH
>>> comment : ข้อนี้คงไม่ยากเท่าไหร่ถ้าใช้ Google ได้นะจ๊ะ  ในเว็บ official มีบอกชัดเจน

2.คนที่มีบ้านเกิดอยู่โอกินาว่า
>>> ตอบ : 92
>>> comment : ข้อนี้ก็เหมือนกัน ใช้ Google หาได้เลย มีประกาศชัดเจนในเว็บ official ด้วยค่ะ 

3.ชอบกินมายองเนสพร้อมกับกล้วย
>>> ตอบ : Navi
>>> comment : สำหรับคนที่ได้ฟังกรีนเรดิโอสุดฮาที่เราแปลไปแล้วก็คงตอบกันได้ไม่ยาก  ถ้าใครยังไม่ได้ฟัง เตรียมไปฟังคำตอบพร้อมหัวเราะฮาๆกันได้ที่นี่ http://greeeenthailand.blogspot.com/p/greeeen-radio.html  เลือกฟังตอนที่ชื่อว่า " GReeeeN Radio : ช่วงตอบปัญหาคาใจ, ขอดูในกระเป๋าหน่อยได้มั้ยครับ  "

4.เคยไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ
>>> ตอบ : SOH
>>> comment : คำตอบของข้อนี้จะอยู่ในหนังสือ sorette kiseki และอยู่ในบทความที่เราเคยเขียนแนะนำสมาชิกวงกรีนใน blog โซเคยไปทำงาน work and travel ที่ออสเตรเลียค่ะ  ไปอ่านกันได้ที่นี่ http://greeeenthailand.blogspot.com/2017/01/greeeen.html

5. ร้องเพลง koinu ท่อนแรก

>>> ตอบ : Hide, Navi

>>> comment : จริงๆแล้วคือ HIDE แต่เราก็เข้าใจผิดว่าเป็น Navi มาตลอดเลยค่ะ  เคยเขียนลงบล็อกไปด้วยว่านาวีเป็นคนร้องท่อนนี้ 555 แต่จากที่ได้ไปฟังอีกรอบ และเช็คกับบอร์ดที่คนญี่ปุ่นคุยกัน คิดว่าเป็น HIDE ละค่ะ  ดังนั้น...ความผิดเราเอง .. ใครที่ตอบฮิเดะหรือนาวี ก็ให้คะแนนทั้งคู่ค่ะ 

6.ร้องเพลง ikarosu ท่อนแรก

>>> ตอบ : 92

>>> comment :  แม้เสียงจะเหมือน SOH มากๆก็ตาม แต่ถ้าดูจาก live แล้วจะเห็นว่าคนที่ร้องท่อนแรกคือ 92 จ้า ไม่เชื่อไปดู live 2018 @ Saitama super Arena กันได้ที่นี่  https://www.bilibili.com/video/av16282836/  แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น เราเคยเขียนลงบล็อกไว้ว่า SOH เป็นคนร้องเสียงหลักๆของเพลงนี้ (อายจัง) ดังนั้นใครที่ตอบ SOH มา เราก็จะให้ 0.5 แต้มค่ะ 

7. ร้องเพลง Oh! meiwaku ท่อนแรก

>>> ตอบ : SOH

>>> comment :  จริงๆเพลงนี้ก็เสียงค่อนข้างทุ้มเป็นเอกลักษณ์ชัดเจนมากก  เช่นเดียวกับข้อ 6 ถ้าไปดุ live ก็จะเห็นได้เลยว่า SOH ร้องท่อนแรกชัดๆ จัดไป!!

8. ใครเป็นคนที่อ่อนภาษาอังกฤษมากที่สุด เคยเขียนชื่อ SOH เป็น SHO ด้วย

>>> ตอบ : Navi

>>> comment :  ถ้าฟังกรีนเรดิโอตอนแรกๆ (ที่เราไม่ได้แปล 555 ) หรืออ่านหนังสือ sorette kiseki  ก็จะตอบได้เลยว่านาวีอ่อนด๋อยภาษาอังกฤษมากๆค่ะ  ในกรีนเรดิโอ  สมาชิกเคยคุยกัน ประมาณว่า ชื่อวง GReeeeN เนี่ย ถ้าคนไม่รู้จักก็คงเขีียนไม่ถูกเนอะ  เดี๋ยวนี้มีแฟนๆมาช่วยแก้คำผิดให้ตามเว็บบ่อยๆ แบบว่า GReeeeN ต้องเขียนแบบนี้ๆนะ (GReeeeN) ไม่ใช่ Greeeeen หรือ GREEEEN แต่จริงๆพวกเรา สมาชิกเองก็ไม่ซีเรียสเรื่องนี้หรอก  จะเขียนอะไรก็ได้ ให้มันอ่านว่ากรีนก็พอแล้วละครับ  เพราะขนาดชื่อคนในวงเอง  ยังมีสมาชิกในวงเขียนผิดเลยครับ มีคนเขียน SOH เป็น SHO ด้วยละครับ  (นาวีโดนแซะเต็มๆเลยจ้า) 

9. ใครเป็นคนออกแบบโลโก้กรีนรูปนี้

>>> ตอบ : Navi

>>> comment :ถ้าตอบข้อ 8 ได้ แน่นอนว่าคงตอบข้อนี้ได้แน่นอนนะคะ เพราะลองสังเกตุดีๆ ชื่อของ SOH ในโลโก้นี้เขียนว่า SHO จ้า   

10. ใครเป็นคนโพสรูปนักกีฬาเบสบอลคนนี้ลง blog กันเอ่ย

>>> ตอบ : SOH

>>> comment : ข้อนี้คงต้องอาศัยความขยันย้อนเวลาหาอดีตกับบล็อกของสมาชิกแต่ละคนกันหน่อยค่ะ ถ้าไล่ย้อนหลังไปเรื่อยๆก็จะเจอรูปนี้ในบล็อกของ SOH เองค่ะ  เอ้า ไปหากันเลย https://ameblo.jp/greeeensoh/ 

11. คนนี้คือใคร

>>> ANS : Navi

>>> comment : เช่นเดียวกับข้อ 10 อันนี้ก็ต้องใช้สกิลการเจาะเวลาหาอดีตจากในบล็อกเช่นกันค่ะ ถ้าไปดูบล็อกย้อนหลังของนาวีก็จะเจอรูปเด็กทะเล้นๆคนนี้  พร้อมคอมเม้นว่า  รูปผมเองครับ เอ้า ไปหากัน https://ameblo.jp/greeeennavi/

12. คนนี้คือใคร

>>> ANS :SOH

>>> comment : อันนี้ก็เหมือนข้อที่ผ่านมาค่ะ ต้องไปเปิดบล็อกย้อนหลังดูนะตัวเอง อิอิ

13. คนนี้คือใคร (เด็กเสื้อน้ำเงิน)

>>> ANS :HIDE

>>> comment :  หมูอ้วนทั้งสองคนนี้คือ ฮิเดะและจินค่ะ (กรี๊ดดด มากค่ะ ) รูปอยู่ในบล็อกของฮิเดะ น่าจะประมาณปี 2007-2008 บอกว่าเป็นรูปของตัวเองกับพี่ชายค่ะ (นี่ตอนแรกนึกว่าพี่สาว) .. ทำไมอยู่ดีกินดีแบบนี้คะลูก

14. เจ้าตัวนี้คือหมาของใครกันคะ

>>> ANS :SOH

>>> comment :   นี่ก็ไปดูได้ในบล็อกเก่าๆเช่นกัน (เล่นง่ายมากๆค่ะกับการตั้งคำถามเซ็ทนี้ ) 

15. รูปใครกันนะ

>>> ANS :HIDE

>>> comment : เป็นรูปของฮิเดะจากบล็อกของฮิเดะเองเมื่อนานมาแล้ว วันเกิดจินค่ะ เอานาฬิกามาให้พี่ชายเป็นของขวัญวันเกิด

16. มือด้านซ้ายที่ใส่เสื้อแขนยาว คือมือใคร

>>> ANS : Navi

>>> comment :  นี่ก็รูปจากในบล็อกเช่นกัน แต่ในบล็อกจะไม่ได้บอกว่าใครเป็นใคร แต่ในกรีนเรดิโอตอนวันเกิดของคุนิมีบอกอยู่ค่ะ  หรือถ้าจะอาศัยการเดาแบบมีหลักการซักหน่อยก็จะตอบได้ไม่ยาก มือที่ดูแล้วสะอาดสะอ้าน เป็นสาวงาม เหมือนผู้หญิงที่สุด .. คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนาวีนั่นเองน้อ 

17. เพลง Cho-Kaze ในอัลบั้มล่าสุด ใครเป็นคนเล่นกีตาร์

>>> ANS : HIDE - NAVi

>>> comment : ถ้าใครมีอัลบั้ม Ure D อยู่ในมือคงตอบได้ไม่ยากนะคะ  มีบอกอยู่ในหนังสือเนื้อเพลงที่แถมมากับแผ่นนั่นเอง และเราเองก็เคยเขียนลงเพจไปด้วยน๊า

18. ทุกๆเพลงของ GReeeeN สมาชิกในวงจะเป็นคนแต่งเนื้อร้องเอง แต่ในส่วนของการ arrangement บางเพลงก็ทำเอง บางเพลงก็เป็นคนอื่นทำให้ ถามว่า เพลงไหนที่แต่งGReeeeN เป็นคน arrangement เองบ้าง

>>> ANS :11

>>> comment :  เช่นเดียวกับข้อ 17 อันนี้ก็มีบอกอยุ่ในสมุดเนื้อเพลงของอัลบั้มค่ะ แต่ถ้าฟังดนตรีดูแล้วก็น่าจะเดาได้ไม่ยาก  เพลงไหนที่ GReeeeN เป็นคนเรียบเรียง มันจะแบบว่า มีดนตรีตื๊ดๆหน่อย  นอกจาก 11 แล้วก็จะมีพวก .. happy holiday, แล้วก็เพลงเก่าๆหลายเพลงเลย  อย่าง mata ne, Koinu อะไรแบบนี้่ค่ะ 

19. เพลงไหนของ GReeeeN ที่ "ไม่ใช่" เพลงประกอบละคร (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

>>> ANS : ตอบถูกได้ (+) ตอบผิดได้ (-) คะแนนแต่ละข้อ ตามในวงเล็บค่ะ 

- haruka (+0.2) ประกอบภาพยนตร์ Rookies 

- Koibumi love letter (+0.2) ประกอบภาพยนตร์  Antoki no Inochi

- kiseki (-0.2) ประกอบละคร Rookies 

- HEROES (-0.2) ประกอบละคร Hero

- Koi (+0.2) ประกอบภาพยนตร์  Marmaled boy

- misenai namida kitto itsuka (-0.2) ประกอบละคร Strawberry night

- Ai Uta (+0.2) ไม่ได้ประกอบละครหรือภาพยนตร์อะไรเลย

- Sobito (+0.2)  ประกอบภาพยนตร์ kiseki a no hi no sobito

- itoshi kimi e (-0.2) ประกอบละคร Oh, My Dad!!

>>> comment :  อันนี้ถ้าอาศัยกู้เกิ้ลกันซักหน่อยก็น่าจะตอบได้ไม่ยากค่ะ 

20.เพลงที่ JIN เป็นคนแต่งเนื้อร้องตอนแรก และฮิเดะขอมาทำดัดแปลงทำเป็นซิงเกิ้ลของ GReeeeN เอง

>>> ANS : BE FREE 

>>> comment :  เรื่องราวของเพลงนี้มีเขียนไว้ในหนังสือ Sorette Kiseki ด้วยค่ะ และจำได้ว่าเราเคยเขียนบอกในเพจอยู่นะ  ถ้าใครตามๆในเพจมาก็น่าจะตอบได้ค่า

21. ซิงเกิ้ลไหนที่เปิดกล่องซีดีมาแล้วจะเจอรูปโซบะด้วยจ้า

>>> ANS : Koibumi love letter

>>> comment :   ยากมากกก  ยากมากๆข้อนี้ ขอเรียกว่าเป็นข้อปราบเซียน ฮ่าๆๆ 

ถ้าไม่มีซีดีทุกๆแผ่น  ก็ต้องรู้ว่า กรีนมี collaboration กับบะหมี่นิชิน ออกผลิตภันฑ์ตัวใหม่เป็นโซบะเขียว และใช้เพลง midori no dakeda เป็นเพลงประกอบโฆษณา .. ซึ่งเพลงนี้อยู่ในซิงเกิ้ล Koibumi love letter ค่ะ  ดังนั้นก็ต้องตอบอันนี้แหลจ้า 

22. ปกติปกซีดีกรีนจะเห่ยๆหน่อย แต่มีอยู่ซิงเกิ้ลนึงที่ทำกล่องเวอร์ชั่นพิเศษสวยงามแถมหนังสือนิทานภาพให้มาด้วยในกล่อง ซิงเกิ้ลนั้นคือ?

>>> ANS :Misenai namina wa kitto itsuka

>>> comment :   จะเป็นซิงเกิ้ลอื่นไปไม่ได้นอกจากอันนี้  มันอลังการดาวล้านดวงมากค่ะ ดูดีจริงๆนะ ลองดูตามภาพได้ค่ะ 　กล่องสวยมาก  เปิดมาจะมีหนังสือนิทานภาพอยู่ข้างในด้วยค่ะ  ดูดีมากจนไม่อยากเชื่อว่านี่คือซิงเกิ้ลของคุณหมองั้นเรอะ!!

 

================ 

และถ้ายังจำได้  เราได้ให้ส่งคำถามมาถามแอดมินด้วย  งั้นก็ขอคัดเลือกมาตอบให้ดังนี้นะคะ

ถาม : ทำไมคำถามยากจัง (คำถามนี้ถามกันมาเยอะมากก ５５５)

ตอบ : แอดมินซาดิสม์ค่ะ ชอบเห็นคนทรมาณ (วะฮ่าๆ ) 

ถาม : จะมีงานมีตติ้งแฟนคลับมั้ยคะ

ตอบ :  โอ้ บางทีก็อยากจัดเหมือนกันนะคะ  แต่จะมีคนมาเหรอคะ!!! ถ้ามีแค่คนสองคน มันก็จะเหงาๆกร่อยๆหน่อยนะ  เอาไว้มีโอกาสพิเศษจริงๆ เช่น หมอจะมาเปิดคอนเสิร์ตในไทย ไรงี้.... อาจจะนัดรวมพลทำอะไรซักอย่างก็ได้ค่ะ

 ถาม : อยากรู้เหมือนกันทำไมแอดชอบคุณหมอ รู้จักเพลงคุณหมอยังไง ฟังเพลงแรกเพลงไหน อะไรงี้ เล่ามา!!

ตอบ : โห หลายคำถามในคนเดียว ยาวนะคะ แต่ตอบให้ค่ะ รวมถึงที่มาของการตั้งเพจด้วย 

ย้อนไปเมื่อประมาณ 8-9  ปีที่แล้ว (นานมากก) มันจะมีเว็บฟังเพลงออนไลน์แบบที่เราสามารถแชร์ play listให้คนอื่นฟังได้ (เราจำชื่อเว็บไม่ได้ละ มันนานมากกก)  ตอนนั้นเราก็เพิ่งเริ่มสนใจเพลงญี่ปุ่น ระหว่างทำงาน (อู้งาน) เราก็มักจะไปฟัง playlist ของคนญี่ปุ่นไปเรื่อยๆจากเว็บนี้แหละ  เพลงไหนชอบๆก็จะไปหาโหลดมาเก็บไว้ฟัง (สมัย winamp คือโปรแกรมสามัญประจำเครื่อง  พวกเธอเกิดทันกันมั้ยคะ!   ก็แน่นอนว่าโหลดของเถื่อนค่ะ เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นานค่ะ ยังไม่มีจิตสำนึกเรื่องลิขสิทธิ์ซักนิด) .. 

เพลงแรกของกรีนที่ฟังแล้วชอบเลยก็คือ Koinu ค่ะ โอ้ยย กรี๊ดมากก  ฟังหลายรอบมาก  เพลงไรวะ น่ารักโคตร แล้วก็ได้ฟัง ayumi, กับ setsuna , tobira, kiseki, michi ( จากplaylistของหลายๆคนปนกัน  ) คือ..แค่ฟังเพลงก็ชอบเลย  อารมณ์แบบ  เอ้ย เพลงนี้โดนๆ พอมาดูชื่อนักร้อง  อ้าววว เพลงนี้ก็ของ GReeeeN　นี่หว่า เพลงนั้นก็ด้วย เพลงโน้นด้วย   เอ้ยย เริ่มรู้สึกว่าวงนี้เพลงดีจัง  ไหนๆ ลองไปหาดูเพลงอื่นๆอีกซิ 

และแล้วก็ได้เจอ playlist คนญี่ปุ่นคนนึง  มีแต่เพลงกรีนเต็มไปหมด ..

ไปค่ะ...ตุบ... ตกหลุมไปเลย

 

จากนั้นไปตามหารูปนักร้องค่ะ อยากเห็นหน้าตา  กูเกิ้ลทั้งหลาย ปรากฎว่าไม่มีเลยจ้า...

อะไรวะ มีแต่เงา วงบ้าอะไรเนี่ย 

แล้วตอนนั้นคือกรีนอยู่ในช่วงพักงาน (ประมาณปี 2009 มั้ง) หาหน้านักร้องไม่เจอ เพลงใหม่ๆในปีนั้นก็ไม่มี นี่ก็งงๆ หรือว่าวงมันยุบไปแล้ววะ  สืบไปๆมาๆ เจอ สมาคมในเว็บ popcornfor2 มีบ้านกรีนอยู่ ก็ไปสิงอยู่พักนึงค่ะ   ช่วงนั้นบ้านก็ค่อนข้างร้างๆหน่อย  นานๆจะมีคนโพสที  เหมือนว่าพอศิลปินไม่มีอะไรอัพเดทนานๆ  แฟนเพลงก็เริ่มเฟดตัวหายไปอะเนอะ  เป็นเรื่องปกติ

ช่วงปี 2010 GReeeeN come back ด้วยเพลง Hana Uta เป็นปีที่เรานอยด์โลกแตก จากคนที่ชีวิตสบายๆ ทำอะไรก็สมหวังตามที่ตั้งใจมาตลอด (เป็นเด็กเรียนดี ชีวิตดี ทำงานดี แบบว่าโลกสวยตามใจฉันมาก)  พอมาเจอกับความผิดหวังทีนึง มันก็แบบว่าไปไม่เป็นค่ะ ล้มแรง  ทั้งที่พอมองย้อนกลับไปแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไหร่เล้ยยย  แต่ด้วยความที่ตอนนั้นคือเด็กอ่ะเนอะ เราไม่มีภูมิต้านทานความผิดหวัง มันก็เลยดิ่งไปไกลมาก (ดังนั้นคนที่มีแต่เรื่องแย่ๆในชีวิตตั้งแต่เด็กๆจงรู้ไว้ค่ะ ว่าคุณเก่งมาก  โชคดีมากที่ได้สร้างภูมิต้านทานไว้ก่อน แค่ผ่านมันไปได้ก็จะเข้มแข็งขึ้นแน่นอนค่ะ)

ช่วงนั้นรู้สึกว่าไม่ค่อยมีเป้าหมายในชีวิต .. เลื่อนลอยมาก เบื่อชีวิตมาก 

เบื่อขนาดเคยคิดว่าอยากจะหายตัวไปจากโลกนี้เลยค่ะ

ถ้านอนละไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย หลับไปเลยได้ก็น่าจะดี

ละก็ไม่ได้ปรึกษาใครด้วยค่ะ  ไม่มีที่ปรึกษาเพราะไม่ค่อยไว้ใจใคร จมอยุ่กับความดาร์กในตัวเองคนเดียวมาตลอด วะฮ่าๆ 

เพลง GReeeeN - Tobira เปลี่ยนชีวิตเรามากๆๆๆๆ คือก่อนหน้านั้นก็ชอบกรีนอยู่นะ แต่ออกแนวฟังไปเรื่อยๆแบบไม่ได้สนใจความหมายมากกว่า พอชีวิตมีปัญหาแล้วเราก็ว่างค่ะ อ่ะ ก็กลับไปเรียนญี่ปุ่นใหม่อีกครั้ง (เคยเรียนญี่ปุ่นสมัยมหาลัยปี 3-4 แล้วก็ทิ้งไปเลย)  พอเรียนญี่ปุ่นละก็เลยเอาเพลงกรีนมาแปลเรื่อยๆ จนได้เจอความหมายเพลง Tobira 

เออ .. พอฟัง Tobira แล้วได้คิดว่า อ๊า...ใช่ๆ 

ชีวิตเราขาดอะไรใหม่ๆไปนะ  ต้องออกไปทำอะไรใหม่ๆบ้าง

เป็นครั้งแรกที่ได้พยายามท้าทายตัวเองเต็มที่ 

นั่นก็คือการส่งรูปถ่ายประกวดค่ะ 55

ถามว่าถ่ายรูปเก่งเหรอ .. ตอบเลยว่าไม่จ้า

แต่อยากได้รางวัลค่ะ  

เป็นทริปไปญี่ปุ่นฟรี 4 วัน 3คืน 

คือแบบ ... 

ตอนนั้นญี่ปุ่นยังไม่ free visa นะตัวเอง  

ค่าตั๋วเครื่องบินก็มีแค่การบินไทยกับญี่ปุ่นอะค่ะ  แค่ตั๋วอย่างเดียวก็ 25000 ++ แล้วจ้า

แบบว่าที่บ้านก็ไม่ได้รวยขนาดจะซื้อตั๋วเครื่องบินราคานี้ไปเมืองนอกได้หน้าตาเฉยอะนะ 

การได้ไปญี่ปุ่นคือเป็นอะไรที่ใฝ่ฝัน แบบดูยิ่งใหญ่ในชีวิตมากกกกก

ทีนี้ส่งรูปไปแล้วมันต้องกดโหวตค่ะ  ก้เลยส่งลิงค์ไปให้เพื่อนๆช่วย  ละมันต้องโหวตทุกวันเลย 

หลายๆคนก็บอกว่า 

"บ้าหรือเปล่า"

"เป็นไปไม่ได้หรอก"

"ไม่มีทาง"

ต้องบอกว่าโชคดีมากที่เรายังดื้อด้านเชื่อมั่นและทำต่อไป ด้วยความเชื่อที่ว่า

ถ้าได้ลองทำแล้ว  ถึงจะมีโอกาสแค่ 0.01% ที่จะได้มา แต่นั่นมันก็ถือว่ามีโอกาสไง 

แต่ถ้าหยุดอยู่แค่นี้ ไม่ทำอะไรเลย มันก็คือ 0 ทันทีเลยนะ ไม่มีโอกาสเลยนะเว้ย  กลับไปใช้ชีวิตห่วยๆตามเดิมนะเว้ย

เลยหน้าด้านหน้าทน ทำต่อไปค่ะ 

และสุดท้ายเราก็ชนะ  วู้ว  ทำให้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่เราได้ไปญี่ปุ่น

และเป็นการเปิดโลกมากกกก  

มุมมองต่อโลกเปลี่ยนไปเลยค่ะ 

ทำให้เราใจกล้ากว่าเดิม ปีต่อมาทำเรื่องขอทุนไปต่อโทที่ญี่ปุ่นแบบตัวคนเดียวไม่ปรึกษาใครเลยจ้า  

เพราะรู้ว่าถามใครๆไปก็ไม่มีใครเชียร์แน่ๆ 

ที่บ้านก็คงจะค้านเต็มที่  

เพราะการไปต่างประเทศมันเป้นอะไรที่ดูน่ากลัวและน่าเป็นห่วงเกินไป

( ความคิดคนสมัยเก่าๆอะเนอะ )  

เพื่อนก็คงจะบอกว่า ไม่มีทางอ่ะ

คนสมัครทุนเยอะแยะ เค้าจะเอาแกเหรอ  ไม่มีอะไรโดดเด่นซักอย่าง

เกรดก็งั้นๆ ภาษาอังกฤษก็อ่อน  เสียเวลาเปล่า

เสียดายตังค่าสอบ ไอเอล (สมัยนั้นสอบครั้งนึงก็ 5000 แล้วอ่ะ แพงมาก)

เราเสียค่าสอบไปสามรอบ  หมื่นห้า  สอบได้ 6.0 เท่ากันหมดเลย (สมัครป.โทต้องเอาคะแนน 6.5 ค่ะ) 

ก็รู้ว่าน่าจะยากละ แต่เอาวะ  ..ก็ส่งๆไปก่อน 

สุดท้ายก็ได้ทุนมาแบบเซอร์ไพรซ์มาก 

(ปี 2011 เป็นปีที่มีสึนามิ  คนขอทุนน้อยมาก ทำให้เราได้ทุนง่ายเลย ...เป็นโชคชะตามากค่ะ)

..

.

หลังจากนั้นมาก็ไปญี่ปุ่นปีละหลายรอบจนจะกลายเป็นบ้านหลังที่สองไปละ

เนี่ย  ..จากเรื่องที่ผ่านมาทำให้คิดได้ว่า  

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม  ถ้ามั่นใจว่านี่ีคือสิ่งที่อยากทำจริงๆแล้วก็ลุยเลยค่ะ

ดีกว่าไปให้คนอื่นที่เค้าไม่ได้เข้าใจเราจริงๆมาฉุดเราไว้ 

คนที่เตือนเราด้วยความหวังดีทั้งหลาย .. คือรับฟังค่ะ 

แต่สิ่งที่เราชอบ  สิ่งที่เราอยากได้  คนอื่นเค้าไม่ใช่ตัวเรา เค้าไม่มีทางรู้ดีเท่าเราหรอก  เค้าก็แค่ตัดสินจากมุมที่เค้ายืนอยู่และพูดออกมา

หน้าที่เราคือ ...รับฟังแล้วเอามาคิด  ถ้าคิดแล้วว่าคำพูดนั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น  ไม่มีประโยชน์

ก็กองไว้ตรงนั้นแหละ  ปล่อยไปค่ะ หนักแน่นเข้าไว้ 

จะดีจะร้ายก็เลือกทางเดินเองดีกว่า 

เลือกเอง เจ็บเอง  อย่างเลวร้ายสุดๆก็ยังรู้สึกว่า เออ.. เป้นการตัดสินใจของเราเอง 

ดีกว่าเดินตามความคิดคนอื่นแล้วมาเสียใจทีหลังแน่นอนค่ะ 

 

มองย้อนกลับไปช่วงนั้น ก็คิดได้ว่า เนี่ย ชีวิตเปลี่ยนเพราะได้ แรงบันดาลใจเริ่มต้นจากเพลงของ GReeeeN เลยจริงๆ ตอนไปเรียนก็ได้รับกำลังใจจากอีกหลายๆเพลงเลยด้วย 

เออ เนี่ย  ชีวิตเราเปลี่ยนเพราะเพลงๆเดียวเลยนะ ก็เลยอยากจะแชร์ความหมายของเพลงดีๆแบบนี้ให้คนอื่นบ้างค่ะ เผื่อว่าจะไปเปลี่ยนชีวิตใครซักคนที่กำลังสับสนอยู่เหมือนเรา

ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก  แค่มีซักคนที่เข้ามาได้ฟังเพลงแล้วแบบ ..

โดนใจ คิดได้ รู้สึกดี  แค่นั้นเราก็ดีใจแล้วอ่ะ

ตอนแรกๆที่เริ่มแปลเพลง ก็จะแชร์ลงเฟสบ้าง ส่งให้เพื่อนบ้าง  คนรอบข้างก็มักจะถามว่า.. 

โหย  เสียเวลาแปลขนาดนี้ ทำขนาดนี้ได้อะไรบ้างมั้ย  

ได้เงินบ้างมั้ย  ได้ค่าโฆษณามั้ย

เราก็จะตอบขำๆไปว่าหาเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนๆกันไง จะได้คุยกันรู้เรื่อง สนุกดี

แต่จริงๆในใจ นอกจากเรื่องหาเพื่อนคุยแล้วก็ยังมีอีกคำตอบนึงที่ไม่ได้บอกใครๆ 

ก็คืออุดมคติแบบโลกสวยๆของเรานั่นแหละค่ะ 

การลงแรง เสียเวลาของเรา  

ถ้ามันทำให้ชีวิตคนอื่นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้  มันก็คุ้มค่าพอที่จะทำนะ 

คนส่วนใหญ่ในสังคมยกย่องคนรวยว่าเป็นคนประสบความสำเร็จ

ทำให้เวลาจะทำอะไรซักอย่าง คนมักจะคิดถึงเรื่อง กำไร-ขาดทุน ในรูปตัวเงินก่อนเลย

ซึ่งก็ไม่ผิดนะ  .. แต่เราว่ามันเป็นชีวิตที่ไม่เท่ห์อ่ะ เอาจริงๆ 

คนประสบความสำเร็จในสายตาเราคือคนที่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ

และก็พร้อมที่จะแบ่งปันความสุขไปให้คนอื่นๆโดยไม่ต้องการอะไรตอบแทน

แบบนี้ดิ  โคตรเท่ห์เลย 

เราก็อยากเป็นแบบนั้นค่ะ  

แต่ตอนนี้ยังเป็นไม่ได้ค่ะ กิเลสหนา ต้องปั๊มเงินมาเพื่อเปย์หมอๆก่อน

ดูย้อนแย้ง แต่มันคือความจริงที่ต้องยอมรับ 555

ดังนั้นเราก็จะให้สิ่งดีๆกับคนอื่น  ในขอบเขตที่เราให้แล้วไม่รู้สึกลำบากค่ะ  

ทั้งหมดนี้เป็นที่มาของ เพจการกุศลในครั้งนี้ 555 

เวลาที่มีคนส่งข้อความมาบอกว่า ได้รู้ความหมายเพลงนี้จากที่เราแปล  ฟังเพลงแล้วชีวิตเปลี่ยนไปเลยนี่แบบว่า ดีใจมากนะคะ

ทั้งคนที่ตั้งใจจะเป็นทันตแพทย์   คนที่จะเป็นทนายความ  คนที่กำลังสับสนกับชีวิตในช่วงวัยรุ่นเพราะปัญหาการเรียนและครอบครัว  ขอบคุณมากที่ได้มาแชร์เรื่องราวให้เราใน inbox นะคะ 

และจากนี้ก็จะพยายามแบ่งปันอะไรดีๆให้คนอื่นต่อไปจ้า  ... 

เป็นเป้าหมายในปี 2019 แบบโลกสวยๆของเราค่ะ เย้~~