GReeeeN คือ??

บทเพลงของหมอพันอารมณ์ดี ดนตรี Feel Good!

Sorette kiseki -บทที่ 2.3 ความอิสระที่แท้จริง

บทที่ 2.3

ความอิสระที่แท้จริง


พอกลับมาถึงเกียวโต จินก็ได้แวะกลับไปที่บ้านก่อนจะไปเก็บของที่แมนชั่นเดิมของตัวเอง
ถ้ากลับบ้านช่วงบ่ายๆแบบนี้ละก็ คุณพ่อน่าจะยังไม่กลับบ้าน  จะได้ไม่ต้องเจอหน้า

"กลับมาแล้วฮะ"
"อ้าว..จินซัง ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้ะ"  
คุณแม่พูดอย่างยิ้มแย้มพร้อมกับเดินออกมาจากห้องครัว  

จินยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆส่งให้

"ผมว่าจะย้ายไปอยู่โตเกียวนะแม่  อันนี้ที่อยู่ใหม่ของผมนะ "
"บังเอิญได้เจอคุณลุงใจดี เลยได้ที่พักในโตเกียวแล้วละฮะ  เป็นแมนชั่นสำหรับนักดนตรีด้วยนะ ออกแบบได้เจ๋งสุดๆไปเลย "
"ค่าเช่าก็ลดให้ จาก แสนสองหมื่น เหลือแค่เก้าหมื่นเยนเอง ผมเลยคิดว่าเดือนหน้าก็จะย้ายไปละ "
..
"อา..เหรอจ๊ะ"
คุณแม่ที่ได้แต่ตอบรับยิ้มๆ เก็บเศษกระดาษใบนั้นใส่กระเป๋าไว้ราวกับเป็นสิ่งสำคัญ

"อ้อ ฝากบอกฮิเดะด้วยนะฮะ  ว่าถ้าจะสมัครเรียน มาเที่ยว หรืออยากมาซื้อของที่โตเกียวก็มาพักที่ห้องผมได้เลย เห็นพักนี้ชอบบ่นว่าอยากไปโตเกียวอยู่บ่อยๆน่ะนะ รับรองเจ้านั่นมันต้องดีใจแน่ๆ  "

"ได้จ้ะ แม่จะรีบบอกฮิเดะเลย ขอบใจมากนะ"
....
..
ความเงียบที่ปกคลุมไปชั่วขณะหนึ่ง จินที่แสดงความรู้สึกไม่ค่อยเก่ง  ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปอีกดี

ความลังเลระหว่างความฝันที่ตัวเองอยากเป็น กับความฝันที่ผู้มีพระคุณนั้นอยากให้เป็น .. มันมักจะขัดแย้งกันเสมอ  
เส้นทางไหนถึงจะดี เส้นทางไหนถึงจะถูกต้อง? แม้จะตัดสินใจไปแล้ว แต่เสี้ยวหนึ่งในหัวใจของจินก็ยังคงมีความไม่สบายใจและลังเลอยู่บ้าง

"แม่ฮะ...."
"ผม.. "

เรื่องดนตรีนั้น ก็มั่นใจอยู่ว่านี่คือสิ่งที่ตัวเองชอบและอยากทำจริงๆ  ถ้าเลือกเส้นทางนี้ละก็ ต่อให้ต้องลำบากแค่ไหนก็ยอม 
ความฝันน่ะ.. เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะปล่อยมันทิ้งไว้ .. คือสิ่งที่จินเชื่อมั่นจากใจ

แต่ว่า..
การทำตามความฝันของตัวเองนี้ .. มันหมายถึงการที่ต้องละทิ้งความหวังของครอบครัวไว้ข้างหลัง 
ในฐานะของลูกชายคนโตของบ้านตระกูลโกะไดที่เป็นหมอกันมารุ่นต่อรุ่น .. 
ตั้งแต่ตอนที่จินเกิดมา ก็แบกเอาความคาดหวังของตระกูลทางคุณพ่อไว้แล้วว่าจะต้องเป็นหมอ
ลูกชายคนโตของตระกูล คือคนที่เกิดมาเพื่อจะเป็นหมอเท่านั้น
เป็นคำพูดที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก...

แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่ได้..
เขาไม่สามารถตอบแทนความคาดหวังของคุณพ่อได้อีกแล้ว.

ความรู้สึกผิดที่ผสมปนเปกันอยู่ในอก ยากที่จะอธิบายออกมา ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

คุณแม่ที่รับรู้ได้ถึงความในใจของจิน เดินเข้ามาจับมือทั้งสองของลูกชายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย

"ไม่ต้องคิดมากนะ ไม่เป็นไรจ้ะ  แม่เชื่อมั่นในตัวลูกนะ "

แค่คำพูดสั้นๆ แต่ก็ทำให้จินรู้สึกคลายกังวลไปได้มากทีเดียว

"แค่ลูกได้ใช้ชีวิตแบบที่ลูกอยากเป็น ..แค่นี้แม่ก็ดีใจที่สุดแล้วละ "
" ถ้าได้เป็นนักดนตรีมืออาชีพ .. ก็จะได้เล่นดนตรีที่ชอบทุกๆวัน แม่ว่านั่นมันสุดยอดไปเลยนะ...แม่เชื่อว่าซักวันคุณพ่อต้องเข้าใจแน่นอน  ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้หรอก"

ฝ่ามือของคุณแม่ ยังคงอบอุ่นเหมือนเคย

ผู้หญิงที่อยู่ตรงนี้คนนี้..คือผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่ไม่เคยดุด่าจินซักครั้ง 
ทั้งทำตัวเกเร
ทั้งโดดเรียนอยู่บ่อยๆ  
ทั้งแอบไปทำงานพิเศษจนกลับบ้านตอนเช้า
ทั้งตัดสินใจเอาเองว่าจะไม่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย แล้วไปเป็นนักดนตรี
แล้วในตอนนี้ก็กำลังจะเดินทางจากบ้านไปไกลถึงโตเกียวอีก

ทั้งหมดนี้มีแต่เรื่องที่ทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น
ส่วนนึงเขาก็รู้สึกว่า เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลที่เห็นแก่ตัวจริงๆ

แต่ถึงแบบนั้น..
ผู้หญิงคนนี้ก็ยังมีแต่รอยยิ้มและความเชื่อใจให้มาโดยตลอด  ไม่ว่าจะโดนเรียกไปตักเตือนที่โรงเรียนตั้งกี่ครั้ง แต่เธอก็ยังไม่เคยดุว่าจินซักครั้งเดียว

"ไม่เป็นไรนะ  จากนี้ไปก็เริ่มต้นใหม่เนอะ .."
"ตัวเรายอมเจ็บเอง ดีกว่าไปทำให้คนอื่นเจ็บปวดนะลูก "
"แม่รู้ว่าลูกเป็นคนที่เข้มแข็ง ต่อให้เจ็บปวดแค่ไหนก็สามารถหัวเราะแล้วผ่านมันไปได้แน่นอน "
"จินซัง คนที่ทั้งเข้มแข็งและอ่อนโยนคนนี้น่ะ แม่รักที่สุดเลย"

จินยืนนิ่งด้วยความรู้สึกขอบคุณมากมายที่จุกอยู่ในอก  ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้เลย  ทำได้แค่ตอบรับสั้นๆไปเท่านั้น..

"ฮะ"

"เอาละ ! กินอะไรมารึยัง  เดี๋ยวแม่ทำกับข้าวให้นะ  เดี๋ยวเผื่อให้เอากลับไปกินที่แมนชั่นด้วย"
"อ๊ะ  งั้นเดี๋ยวผมช่วยทำนะ"

จริงๆแล้วตั้งแต่ชั้นประถม  จินมักจะช่วยงานคุณแม่อยู่ในครัวหลายต่อหลายครั้ง

ในวันนี้บรรยากาศเก่าๆเริ่มหวนคืนกลับมาเหมือนเดิม จะต่างไปนิดหน่อยก็ตรงที่เด็กน้อยวัยประถมที่เคยยืนข้างๆคุณแม่ในวันนั้น กลายเป็นชายหนุ่มสูงใหญ่ไปซะแล้ว

"จินซัง หั่นผักได้สวยมากเลยจ้ะ"
" เอ๋..ที่จริงแล้วจินนี่เก่งงานครัวนะเนี่ย" คุณแม่เอ่ยปากชมไม่หยุด

"ก็เพราะว่าตอนทำงานพิเศษได้ทำบ่อยๆน่ะฮะ"  
จินตอบแบบยิ้มๆ แล้วหยิบจับงานอย่างคล่องแคล่ว
ระหว่างที่กำลังทำนู่นทำนี่ คุณแม่ก็พูดขึ้นมาลอยๆ

"จินซัง"
"ฮะ?"
"การเชื่อใจคนอื่น..มันง่ายกว่าคอยหวาดระแวงผู้คนนะลูก".
"เพราะว่าถ้ามีแต่ความหวาดระแวงกันและกัน .. ก็เจ็บปวดทั้งสองฝ่าย"
"แต่ถ้าเราเชื่อใจกัน .. อย่างน้อยมันก็จะทำให้เรารู้สึกสบายใจดีนะ"
"...."
"แม่เชื่อมั่นในตัวจินนะจ๊ะ  จากนี้ไปจินก็ลองเชื่อมั่นในตัวคนอื่นๆบ้างนะจ๊ะ"
"..อื้ม!..ฮะ.."

คำสอนของคุณแม่ฝังเข้าไปในหัวใจ ..
ความสุขที่ได้รับเมื่อได้รับความเชื่อใจจากใครซักคนนั้น .. จินรู้ซึ้งดีที่สุด
...
.
จากบ้านเดินไปประมาณสิบนาที ก็ถึงแมนชั่นที่จินเช่าอยู่
จินจัดการเก็บข้าวของเพื่อส่งไปโตเกียว

กีตาร์
เครื่อง synthesizer
แอมป์
ไมค์
คีย์บอร์ด

พอจัดของแล้วก็พบว่า .. ของสำคัญๆของตัวเองก็มีแต่เครื่องดนตรีเท่านั้นจริงๆ  ของอย่างอื่นแทบจะเรียกได้ว่า ทิ้งไว้ที่นี่ให้หมดเลยก็ยังได้

3 ปีกว่าแล้วสินะที่ได้มาอยู่ที่นี่
ตั้งแต่ตอน ม.5 สินะ ที่ย้ายเข้ามาที่นี่ ...

จะว่าเร็วก็เร็ว จะว่าช้าก็ช้าแฮะ
ตอนนี้ก็ได้เวลาบอกลากันซะแล้ว

 การอาศัยอยู่คนเดียว .. บางครั้งก็รู้สึกเหงาไปบ้าง 
แต่มันก็ทำให้ได้รับรู้สึกถึงอิสระที่แท้จริง

เอาละ!! ก่อนไป จัดซักเพลง

จินเปิดสวิตเครื่อง synthesizer  แล้วเริ่มบรรเลงเพลงของ TM NETWORK
ทั้งเล่นดนตรี ทั้งร้องเพลง ..ด้วยหัวใจพองโต 

"เอาอีกแล้วเหรอ!! หนวกหูเว้ย!"
แม้ข้างๆห้องจะตะโกนไล่มาก็ตาม  จินก็ยังคงเล่นต่อไปไม่หยุด

ยิ่งเล่นดนตรีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมั่นใจในทางที่ตัวเองเลือกมามากขึ้นเท่านั้น
ดนตรีนี่มันสุดยอดจริงๆนะเนี่ย!!!




Sorette kiseki -บทที่ 2.3 ความอิสระที่แท้จริง Sorette kiseki -บทที่ 2.3 ความอิสระที่แท้จริง Reviewed by ITadmin on 10:21:00 Rating: 5

No comments: