GReeeeN คือ??

บทเพลงของหมอพันอารมณ์ดี ดนตรี Feel Good!

Sorette kiseki -บทที่ 2.4 จินกับคุณพ่อ

บทที่ 2.4 

จินกับคุณพ่อ 


จุดเริ่มต้นที่ทำให้จินเริ่มสนใจในดนตรีก็คือช่วงฤดูใบไม้ร่วงตอน ม. 2
ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่จินได้มีโอกาสไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่เพิ่งจะเริ่มสนิทกัน

พอเข้าไปในห้องของเพื่อน สายตาก็พลันไปสะดุดตากับอุปกรณ์หน้าตาประหลาดที่ตั้งอยู่ที่มุมห้อง หน้าตาของมันคล้ายๆกับคีย์บอร์ดที่ใช้เล่นดนตรี แต่ต่างกันตรงที่เจ้าเครื่องนี้มันมีปุ่มนั่นนี่เยอะแยะไปหมด แถมยังมีแสงสีต่างๆส่องออกมาราวกับเป็นอุปกรณ์จากโลกอนาคต

"นั่นมันเครื่องสังเคราะห์เสียงน่ะ (synthesizer ) รู้จักป่าว  "  
เพื่อนของจินพูดขึ้นมา เมื่อเห็นจินทำท่าสนอกสนใจซะเหลือเกิน

"? เอาไว้ทำอะไรน่ะ"
"ไว้ทำเพลงไง  ลองฟังเพลงเดโมดูมั้ยล่ะ"
"เดโม? "
"เพลงเดโม ก็คือเพลงตัวอย่างที่ใส่อยู่ในเครื่องนี้อะนะ  อ่ะ ลองฟังดู"

เพื่อนของจินกดปุ่มนั้นปุ่มนี้ แล้วเพลงก็เริ่มเล่นขึ้น พร้อมกับแสงสีต่างๆที่ส่องออกมาราวกับเป็นเครื่องดนตรีแห่งอนาคตที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน

"โห ไม่ต้องใส่ CD ก็เล่นเพลงได้ด้วยเหรอเนี่ย สุดยอดไปเลย"
สำหรับเทคโนโลยีในตอนนั้น (ประมาณ 15 ปีที่แล้ว) การเล่นเพลงจากเครื่องเสียงโดยไม่ใช้ CD เป็นอะไรที่น่าประหลาดใจมาก
"มันก็แค่เพลงตัวอย่างอะนะ จริงๆมันทำอะไรได้มากกว่านี้อีก  มีเพลงของ TM Network ด้วยนะ รู้จักป่ะ "
"อ่า.. แบบว่า..ชั้นไม่ค่อยได้ฟังเพลงน่ะ"
"เหรอ งั้นดูนี่!"

เพื่อนของจินลุกขึ้นไปปิดม่านหน้าต่าง แสงอาทิตย์ที่เคยส่องสว่างเข้ามาก็หายไป  กลายเป็นห้องที่มืดมิด มีเพลงแสงไฟจากเครื่อง synthesizer  เท่านั้นที่ยังคงส่องสว่างอยู่
แล้วเพื่อนคนนั้นเอื้อมมือไปกดปุ่มนั้นปุ่มนี้  แล้วเพลงของ TM NETWORK ก็ดังขึ้น พร้อมกับแสงระยิบระยับที่ส่องมาจากเครื่อง synthesizer ที่สะท้อนไปทั่วห้อง ราวกับอยู่ในเมืองมายา

"สุดยอด .. สวยมากเลย"  จินพูดออกมาจากใจ
"ยินดีต้อนรับสู่โลกอนาคต.. เจ๋งไปเลยใช่ม้า"  

แล้วเสียงหัวเราะของเด็กวัย 14 ทั้งสองคนก็ดังขึ้นประสานกับเสียงเพลงที่กำลังเล่นอยู่ 


มาลองฟังเพลงจากเจ้าเครื่อง synthesizer  นี้กัน

หลังจากที่กลับมาจากบ้านเพื่อน เพลงของ TM NETWORK ยังคงดังอยุ่ในหัวรอบแล้วรอบเล่า  แสงสีที่เห็นในตอนนั้นมันไม่สามารถลืมไปได้เลย  ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  จินก็เริ่มหันมาสนใจเรื่องดนตรีมากขึ้น

สำหรับบ้านตระกูลโกะไดที่มีคุณพ่อเป็นเสาหลักอันเข้มงวด ทีวีนั้นเป็นเหมือนสิ่งไร้สาระที่คุณพ่อห้ามไว้อยางเด็ดขาด  เด็กๆจะไม่ได้รับอนุญาติให้ดูทีวีเลยถ้าไม่ใช่โอกาสพิเศษจริงๆอย่างเช่นช่วงปีใหม่   

แต่อย่างไรก็ตาม .. ในบางครั้งเวลากลางคืนที่คุณพ่อไม่อยู่บ้าน คุณแม่ก็จะเปิดรายการเพลงให้ดูบ้างเหมือนกัน  เวลาที่อยากฟังเพลงใหม่ๆ จินก็จะต้องแอบเอาวิทยุเข้ามาใต้ผ้าห่มแล้วแอบฟังเพลงเงียบๆคนเดียว

ในระหว่างทางกลับบ้านจากโรงเรียน มีร้านขายเครื่องดนตรีอยู่ร้านหนึ่ง ซึ่งปกติก็เดินผ่านไปโดยไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่พอได้รู้จักเจ้าเครื่อง synthesizer ..จินก็มักจะไปยืนมองเจ้าเครื่องดนตรีที่ตั้งโชว์อยู่หน้าร้านอยู่บ่อยๆ

อยากได้ อยากได้ อยากได้เจ้าเครื่องนั้นมากๆ  ทำไงดีนะ

สำหรับจินที่ก่อนหน้านั้นชีวิตมีแต่การเรียนอยู่บ้าน ไปเรียนที่โรงเรียน และไปเรียนกวดวิชา  นี่เป็นครั้งแรกที่มีสิ่งอื่นที่น่าสนใจกว่าเรื่องเรียนผ่านเข้ามา  เขาไม่สามารถจะหยุดคิดเรื่องของดนตรีได้เลย

วันหนึ่ง .. จินตัดสินใจเอาแผ่นพับของที่ร้านขายอุปกรณดนตรีกลับบ้านไปด้วย  

คุณพ่อของจินและฮิเดะเป็นหัวหน้าทีมศัลแพทย์หัวใจที่ประจำอยู่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นงานที่เกี่ยวพันกับความเป็นความตายของมนุษย์ ทำให้ปกติแล้วคุณพ่อจะมีสีหน้าที่เคร่งเครียด พูดน้อย ดุดัน และชอบอ่านแต่หนังสือยากๆตลอดเวลา 

นอกจากนี้มราสำคัญคือ คุณพ่อเป็นพวกที่เกลียดเสียงดังทุกชนิด  

เวลาที่คุณพ่อกลับมาที่บ้าน ทุกคนก็จะรู้ว่า ทุกอย่างจะต้องเงียบสนิท จะเป็นเสียงทีวี เสียงคุยกัน หรือแม้กระทั่งเสียงเข็มที่ตกลงพื้นเพียงแค่กิ๊งเดียว  ก็ห้ามมีเด็ดขาด  
..ถ้าเกิดดังขึ้นมาก็..เป็นเรื่องแน่นอน

ตอนที่ทานข้าวเย็น บ่อยครั้งที่คุณพ่อจะพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า "กินข้าวให้มันเงียบๆหน่อยสิ"  
และบนโต๊ะกินข้าวนั้น ..ในบางครั้งพ่อก็จะเล่าเรื่องที่โรงพยาบาลให้ฟังบ้าง

"วันนี้ก็ไม่รอด ตายไปอีกคนแล้ว"
"รถไฟทับ ตัวขาดสองท่อน ก็ช่วยไม่ได้ละนะ"

เมื่อการสนทนาบนโต๊ะอาหารที่ชวนขนหัวลุกแบบนั้นเริ่มขึ้น  เด็กๆก็มักจะกลัวและเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวกันโดยที่ไม่รู้จะตอบอะไร มีแต่ฮิเดะที่ยังคงไม่ประสีประสากับบรรยากาศอึมครึมเท่านั้นที่ยังทำตัวเป็นปกติ

"ฮู้ววววว  อิ่มแล้วคร๊าบบบ"

ฮิเดะ  น้องชายคนเล็กตัวจ้ำม่ำพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอย่างร่าเริง  พอหันไปเห็นพี่ชายและพี่สาวที่เอาแต่กินข้าวเงียบๆแบบเครียดๆ ก็โพล่งขึ้นมาว่า

"นี่..!! พี่ชายยย อาร์ ยูว โอเค๊?"
"พี่สาวว อาร์ ยูว โอเค๊?"
"อาร์ยูว โอเค๊?"

ฮิเดะตัวน้อยพูดภาษาอังกฤษเร็วๆ วนไปวนมา เลียนแบบไมเคิล แจคสัน ..นักร้องที่เขากำลังปลื้มสุดๆในตอนนั้น

"ฮิเดะ.. หนวกหู!" คุณพ่อสวนขึ้นมา  สิ้นคำนั้น ฮิเดะตัวที่กำลังคึกๆอยู่ก็หงอยไปทันที

ในช่วงเวลาที่คุณพ่อยังอยู่ในบ้าน ..จิน ฮิเดะ และพี่สาว ต้องค่อยๆเดินในบ้านอย่างเงียบเชียบราวกับนินจา และทุกคนมักจะเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องของตัวเอง นอน ทำการบ้าน อ่านหนังสือ  หรือทำอะไรเงียบๆกันเอง ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ลงไปเจอหน้าพ่อเด็ดขาด


เพราะคุณพ่อน่ะ น่ากลัวจะตาย
เสียงตะคอกของพ่อนั้น แค่ได้ยินก็น้ำตาจะไหลอยู่แล้ว..

การที่ต้องเผชิญหน้ากับคุณพ่อแล้วพูดขออะไรซักอย่างนั้น ต้องใช้ความกล้าหาญมากเลยทีเดียว
และตั้งแต่จำความได้ .. ลูกๆทั้งสามคนยังไม่เคยมีใครกล้าลองที่จะทำแบบนั้นซักครั้ง

แต่เพื่อเครื่องเล่นเพลง synthesizer  
คราวนี้เป็นไงเป็นกัน ...

จินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ในมือกำโบรชัวร์เครื่อง synthesizer  ไว้แน่น
แล้วรวบรวมความกล้าทั้งหมดเดินตรงเข้าไปหาคุณพ่อในห้อง

"เอ่อ.. พ่อฮะ.."
"ถ้าสอบคราวหน้าผมได้ 100 คะแนนเต็มทุกวิชา .. 
ซื้อไอ้นี่ให้ผมหน่อยได้มั้ยฮะ"

สายตาที่แสนดุดันของคุณพ่อหันมาจ้องเขม็งที่ลูกชาย ราวกับงูจงอางที่จ้องจะกินเหยื่อ
"อะไรน่ะ"
"เอ่อ ..เครื่องสังเคราะห์เสียง synthesizer  ฮะ"
"นั่นมันคียร์บอร์ดไม่ใช่รึไง"
"ไม่ใช่ฮะ มันเป็นเครื่อง synthesizer  ครับ .. ไม่ว่ายังไงก็อยากได้มากๆเลยครับ "
"ช่วยซื้อให้หน่อยนะครับ!"
จินรวบรวมความกล้าทั้งหมดแล้วก้มหัวขอร้องพ่อเป็นครั้งแรกในชีวิต

"ซื้อไอ้ของพรรค์นี้ให้ เดี่ยวแกก็เอาแต่เล่น ไม่เป็นอันเรียนกันพอดี"

คุณพ่อเริ่มเสียงเข้ม  ปกติแล้วถ้าถึงจุดนี้ จินคงจะยอมแพ้ไปแล้ว
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่!

"ไม่หรอกฮะ ถ้ามีเจ้าเครื่องนี้ในมือละก็ ผมจะมีสมาธิเรียนกว่าเดิมแน่นอนฮะ"
"จะไปมีสมาธิได้ยังไง?"

"ก็.. ตอนนี้ผมอยากได้มันมากเลย  ถ้ายังไม่ได้มันไว้ในมือละก็ ผมคงจะเอาแต่คิดถึงจนไม่มีสมาธิเรียนนะฮะ .. แต่ถ้าได้มันมาแล้วละก็.. คงจะสงบจิตใจได้ดีขึ้น แล้วผลการเรียนก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ!"
..
"แล้วก็!! ราคามันไม่ได้แพงเลยฮะ แต่สองแสนเยนเองฮะ"
(ประมาณหกหมื่นกว่าบาท..ไม่แพงเหรอคะคุณ ..โถ ตรรกะของคนรวย)

"มั่นใจขนาดนั้นเลย?"
"แน่นอนครับ!"
"ถ้าซื้อให้แล้วจะทำคะแนนได้ดีขึ้นแน่นะ"
"ครับ!"   จินรวบรวมความกล้าทั้งหมดพูดออกมาจากใจ
...
..
"ถ้ารับปากถึงขนาดนั้น ไว้คริสมาสปีนี้จะให้เงินไปซื้อก็ได้"
"เย้!!!"
จินดีใจจนร้องตะโกนออกมาแบบเก็บอาการไม่อยู่
"ก่อนอื่นน่ะ สอบครั้งนี้ต้องได้ 100 คะแนนเต็มทุกวิชานะ"
"แน่นอนครับ! ขอบคุณครับ!"

แล้วจินก็ทำได้ตามที่พูดไว้ ผลสอบในเทอมสองนั้นได้ 100 คะแนนเต็มทุกวิชา  และในวันคริสมาส ก็ได้รับเงินปีใหม่ 2แสนเยน ตามที่คุณพ่อได้ให้สัญญาไว้

ในห้องนอนที่ปิดไฟมืดมิด มีเพียงเสียงดนตรีและแสงไฟจากเครื่อง synthesizer  ที่ส่องสว่างวิบวับราวกับแดนสนธยา ในระหว่างที่จินกำลังมีสมาธิกับของเล่นชิ้นใหม่นั้น .. เขาก็รู้สึกได้ถึงแววตาคู่หนึ่งที่กำลังจับจ้องอยู่

"ฮิเดะ แอบดูอะไร"
ไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่าใคร  สายตาคู่นั้นก็คือน้องชายที่ห่างกันสามปี..ฮิเดะนั่นเอง
"นั่นมันอะไรอะพี่"
"synthesizer  ไง"
"ได้มาได้ไงอะ"
" เอาเงินปีใหม่ไปซื้อมาน่ะ"
"หูวว แพงป่าว"
"ถามเซ่อๆน่า ชั้นอุตส่าห์ใช้เงินปีใหม่ที่เคยสะสมมาทั้งหมดไปซื้อมาเลยนะ"
"โหวว"
แทนที่จะบอกว่าพ่อซื้อให้เป็นข้อแลกเปลี่ยน   จินโกหกฮิเดะไปว่าเป็นเงินเก็บของตัวเองอย่างเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะว่า.. ถ้าบอกไปว่าพ่อให้เงินมาซื้อ เดี๋ยวฮิเดะก็คงพูว่า "ขอผมลองเล่นบ้างสิ "แน่ๆ
แล้วในฐานะพี่ชายเค้าก็คงต้องเสียสละให้ยืมอีกตามเคย

ถ้าเป็นของอย่างอื่นก็คงไม่เท่าไหร่  แต่เครื่อง synthesizer  นี้ไม่อยากให้คนอื่นแตะแม้แต่คนเดียว

"ฮิเดะ นายห้ามมายุ่งกับ synthesizer  ของพี่นะ  ถ้ามาแตะเมื่อไหร่ละก็ชั้นเตะนายกระเด็นแน่ๆ"
"โห่!..ไม่เห็นจะน่าสนใจเลย"  
แม้ว่าเด็กน้อยฮิเดะพูดไปแบบนั้น แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องที่เครื่องนั้นตลอดเวลา

หลังจากที่ได้เครื่อง synthesizer  มาไว้ในมือ จินก็เล่นเพลงนั้นเพลงนี้ทุกคืน ในห้องที่มืดมิด มีเพียงแสงจากsynthesizer  ที่ส่องสว่างนั้น ..บางทีจินก็ชอบจินตนาการไปว่าตัวเองเป็นนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ แล้วก็ดีดเพลงไปเต้นไป ยกไม้ยกมือ สะบัดหัว ร้องเพลงอย่างสนุกสนานทุกวัน 
โดยมีน้องชายคอยแอบดูอยู่ตลอด
"ฮิเดะ แอบดูอะไรอีก"  พี่ชายทักขึ้นเมื่อหันมาสบตากับน้องชาย
"พี่จิน  ห้องพี่ดูน่าขนลุกชะมัด"
"ฮ่าๆๆ " จินหัวเราะแล้วก็ดีดเจ้าเครื่อง synthesizer  ดังแช๊งๆๆๆๆๆ  แบบไม่สนใจใคร

"หนวกหูจริง อยู่กันเงียบๆไม่เป็นรึไงห๊ะ!!"
เสียงของคุณพ่อดังลั่นมาจากชั้นล่าง ทำให้สองพี่น้องพร้อมใจกันเงียบกริบในทันที
....
...
จินเริ่มที่จะคุ้นมือกับเครื่อง synthesizer จนสามารถเล่นเพลงของ TM NETWORK ได้เกือบหมดทุกเพลง แม้ว่าเขาจะไม่เคยเรียนดนตรี และอ่านโน๊ตไม่เป็นเลยก็ตาม 

"เพลงนี้..อ๋อ  เสียงกลอง 4 ช่องสินะ แล้วก็หยุด 8ช่อง จากนั้นก็ไป อีก 4ช่อง"
เวลาแกะเพลง .. จินใช้วิธีฟังและจับจังหวะเอาเองเท่านั้น  เริ่มจากการค่อยๆแกะเสียงกลอง ตามมาด้วยเสียงเบส กีตาร์ จนสามารถนำมารวมกันเป็นเพลงได้ พอเล่นเพลงของ TM NETWORK ได้หมดแล้ว ต่อมาก็แกะเพลงของ access และ B'Z 

B'Z ค่ะ เป็นวงที่ดังมากจริงๆ

"B'Z นี่มันสุดยอดจริงๆน๊า"..

ยิ่งเล่นดนตรีมากขึ้นเท่าไหร่ จินก็ยิ่งรู้สึกจมลึกลงไปและหยุดไม่ได้ โลกของจินที่เคยมีเพียง บ้าน โรงเรียน และโรงเรียนกวดวิชา ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป 

จินที่เกิดมาเป็นลูกชายของตระกูลโกะได เป็นเด็กที่เตรียมตัวเรียนตั้งแต่ประถมเพื่อเป้าหมายในการเป็นหมอมาตลอด  ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตนี้จะเป็นอย่างอื่นได้ .. จนกระทั่งได้มาเจอกับดนตรี จินก็เริ่มหวาดกลัวกับอนาคตของตัวเอง

เพราะเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นในมุมเล็กๆของหัวใจ
ถ้าได้เล่นดนตรีแบบนี้ไปตลอดก็ดีสินะ..

พอเริ่มเล่นเพลงได้ จินก็เริ่มที่จะทำดนตรีที่เป็นแนวของตัวเองมากขึ้น เริ่มจากการ ดัดแปลงเพลงของวงดังๆอย่าง TM NETWORK และ B'Z เปลี่ยนโน๊ตตรงนั้นตรงนี้ แล้วใส่เนื้อเพลงแบบเป็นของตัวเองลงไป พอเล่น synthesizer  ได้จนคล่องแล้ว ก็อยากจะหาเครื่องดนตรีอื่นๆมาเล่นอีก

บ่อยครั้งที่จินชวนเพื่อนสนิทคนนั้นมาเที่ยวที่บ้าน และเล่นดนตรีด้วยกัน
"อยากลองเล่นเครื่องดนตรีอื่นบ้างจังน๊า  เริ่มจากอะไรดีล่ะ"
"ลองเบสมั้ยล่ะ น่าจะเล่นง่ายสุดละนะ"
"ทำไมล่ะ"
"ก็มันมีสายแค่สี่เส้น  น่าจะเล่นง่ายกว่านะ"
"แล้ว...ถ้าพูดถึงวงอันดับหนึ่งที่เล่นเบสเจ๋งๆ นายว่าวงไหน"
"ก็ต้อง X-Japan อยู่แล้ว"
"เหรอ..."

ได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้น จินก็ไม่รอช้า ใช้เงินปีใหม่ที่เก็บมาไปซื้อเบสมาเครื่องนึง
จากนั้นก็ไปหาเพลงของ X-JAPAN มาฟังทันที
X Japan ดังมาก เป็นตำนานร็อคไปแล้ว เราชอบเพลงนี้ที่สุดละ

เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสดนตรีร็อคที่แท้จริง

เสียงกีตาร์ของฮิเดะซังจากวง X-JAPAN นั้น  ไม่ว่าฟังกี่ครั้งก็ดูเท่ห์โคตรๆ
ด้วยความอยากเล่นกีตาร์เป็นเหมือนฮิเดะวงX-JAPAN มากๆ จินก็เลยเอาเงินปีใหม่ที่เคยเก็บไว้ไปซื้อกีตาร์ไฟฟ้ารุ่น Les Paul มาอีกตัวนึง 
จินใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ฟังแต่เพลงของ X-Japan แล้วก็แกะเพลงเล่นจนได้เกือบทั้งหมด

"เสียงกีตาร์ของฮิเดะวง X-JAPAN เท่ห์สุดๆไปเลยเนอะ  ฮิเดะซังนี่เจ๋งโคตร"  
จินพูดกับน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆในขณะที่กำลังซ้อมดีดกีตาร์อยู่ในห้องตัวเอง

"แน่นอนหล่ะ คนชื่อฮิเดะก็ต้องเท่ห์อยู่แล้ว เหมือนผมนี่ไง"  น้องชายวัยป.ห้าพูดไปยิ้มไป
"หืม...จะว่าไปทำไมแม่ตั้งชื่อนายว่าฮิเดะกันนะ  ไม่อยากให้ชื่อฮิเดะต้องมัวหมองเพราะนายเลยจริงๆ"
"นั่นก็เพราะผมเท่ห์เหมือนฮิเดะไม่ใช่รึไงล่า"
"หา...."

พอจบชั้นม.2 จินก็รู้สึกชอบดนตรีมากขึ้นๆจนคิดว่าชีวิตนี้คงขาดดนตรีไม่ได้ซะแล้ว 
ในระยะเวลาเพียงแค่ 3เดือนหลังจากที่ได้ไปรู้จักเจ้าเครื่อง synthesizer  ที่บ้านของเพื่อน โลกของจินก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ...ในหัวที่เคยมีแต่เรื่องเรียนมาตลอดกลายเป็นเรื่องของดนตรีที่เข้ามาแทนที่  ก่อนอื่นก็จำวิธีเล่นเพลงจาก synthesizer  จากนั้นก็เบส แล้วก็ตามด้วยกีตาร์  เป็นความเร็วในการจดจำที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

พอขึ้น ม. 3  จินก็เริ่มคิดทบทวนเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองมากขึ้น 
วันหนึ่ง...ในคาบเรียนวิชาคณิตศาสตร์  จินก็เริ่มคิด..
ถ้าเรียนแบบนี้ต่อไปแล้วเป็นหมอละก็ .. คงจะไม่ได้เล่นดนตรีแล้วสินะ?
ถ้าได้ทำสิ่งที่ชอบไปตลอดก็คงดีนะ
จริงด้วย....เป็นนักดนตรีไปเลยก็น่าจะดีแฮะ
อืม .. ก็ไม่เลวๆ
ถ้าแต่งเพลงฮิตๆได้ขึ้นมาละก็..รวยแน่ๆเลย
แต่เพลงฮิตๆขึ้นมาซัก 10 เพลง
จากนั้นไปเปิดค่ายเพลงของตัวเอง
หึหึหึ  เยี่ยมๆ

เอาละ~~ ตัดสินใจละ!! 
ไม่เป็นหมอแล้ว
ไปเป็นนักดนตรีดีกว่า!!!

หลังจากวันนั้น.. พอกลับไปถึงบ้านจินก็ใส่หูฟัง ฟังเพลงร็อคกรอกหูทุกๆคืน
อ๊า.... มีความสุขจริงๆโว้ยยย

อาจจะดูเป็นความคิดบ้าๆในวัยเด็กๆ.. แต่นั่นก็ทำให้ชีวิตของจินเปลี่ยนไปตลอดกาล


Sorette kiseki -บทที่ 2.4 จินกับคุณพ่อ Sorette kiseki -บทที่ 2.4 จินกับคุณพ่อ Reviewed by ITadmin on 09:44:00 Rating: 5

1 comment:

  1. จินซังสุดยอดมากเลยค่ะะะ สอบได้คะแนนขนาดนั้น อื้อหืออออ...แต่ตรรกะคนรวยนี่ก็นะคะ5555555 แต่เอ็นดูฮิเดะซังตอนเด็กมากเลยค่ะ น่ารักกก><

    ReplyDelete